ถอนฟ้องทุกคดีถ้าได้กลับสตช.
‘บิ๊กโจ๊ก’ตั้งเงื่อนไข
ต้องได้รับความเป็นธรรม
ไต่สวนคดีฟ้อง‘อัจฉริยะ’
ปัดไกล่เกลี่ยหมิ่นประมาท
ปล่อยตามกระบวนการศาล
“บิ๊กโจ๊ก”ตั้งเงื่อนไขจะถอนฟ้องทุกคดีรวมถึงนายกฯหากได้กลับสตช.ระบุตอนนี้ขอทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการศาล-เดินหน้าหาความยุติธรรม ไต่สวนคดีฟ้องหมิ่นประมาท “อัจฉริยะ” ยังไม่ขอไกล่เกลี่ย
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ถนนเจริญกรุงศาล นัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ คดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เป็นโจทก์ฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์และพวก ฟ้องนายอัจฉริยะ ทั้งหมด 7 คดี ในวันนี้ทั้งสองต้องเดินทางมา ที่ศาลด้วยตนเอง
โดยนายอัจฉริยะเปิดเผยว่า ตนและพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่าจะถอนฟ้องคดีทั้งหมด แต่มีข้อตกลงว่าตนต้องเป็นคนกลางช่วยประสานกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ให้นัดพบกันและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องภายในองค์กรตำรวจ แต่เงื่อนไขนี้ตนไม่สามารถก้าวล่วงได้เพราะเป็นเรื่องที่ทั้งสองคนต้องคุยกันเอง
เมื่อถามว่า เหตุใด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ติดต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ด้วยตนเอง นายอัจฉริยะกล่าวว่า ช่วงหลัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ไม่รับโทรศัพท์ใคร รวมถึงไม่รับโทรศัพท์ตนด้วยเป็นเวลา2เดือนแล้ว แต่ถ้าวันนี้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่สามารถถอนฟ้องตามที่ตกลงกันไว้ ตนก็พร้อมเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการในการสืบพยาน และถ้าวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่มาไต่สวนตามที่ศาลนัด ศาลก็จะยกฟ้องโดยทันที
ต่อมา เวลา 09.55น.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร.เดินทางมาและให้สัมภาษณ์สั้น ๆก่อนขึ้นไปไต่สวนมูลฟ้อง ว่า วันนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ตนยื่นฟ้องนายอัจฉริยะไว้ ซึ่งยื่นฟ้องไปนานแล้ว และก่อนหน้านี้ศาลได้นัดไกล่เกลี่ย แต่ตนปฏิเสธไป วันนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของศาล ถ้ามีอะไรที่กระทบสิทธิ์และเป็นเรื่องหมิ่นประมาท ก็ต้องใช้สิทธิ์ในการฟ้องร้อง เพื่อหาความยุติธรรม เพราะเรื่องนี้เป็นการหมิ่นประมาท ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ส่วนกระบวนการจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
ส่วนที่นายอัจฉริยะอ้างว่า ตนจะถอนฟ้องทุกคดี โดยมีเงื่อนไขว่าให้นายอัจฉริยะเป็นตัวกลางประสานกับพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยืนยันว่าวันนี้ยังไม่ได้ถอนฟ้อง และยังไม่เคยคุยประเด็นนี้ ให้เป็นไปตามกระบวนการไต่สวนของศาลก่อน ส่วนวันนี้เป็นการฟ้องเฉพาะคดีอาญา ไม่ได้ฟ้องแพ่ง ซึ่งเป็นข้อหาที่มีหลายกรรม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวย้ำอีกว่า หากตนได้กลับเข้าไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะอโหสิกรรมและถอนฟ้องทั้งหมดทุกคดี แต่วันนี้ยังไม่ได้กลับ ยังไม่ได้รับความยุติธรรมก็ต้องเดินหน้าตามกระบวนการ เพราะตนรับปากกับผู้ใหญ่ไว้เยอะแล้ว
ส่วนกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช อดีต ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า กรณีที่ถอนฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในชั้น ป.ป.ช.เกี่ยวกับคำสั่งการแต่งตั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็น ผบ.ตร. เกิดจากร้องขอจาก นายทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์บอกว่า ประเด็นนี้ตนยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คุยกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี