ถกลับ2ชม.แต่ยังไม่รับรองสว.
กกต.เสียงแตก
อ้างต้องให้ชัดเจนก่อนประกาศ
อดีตผู้สมัครจี้นับคะแนนใหม่
ยันเปิดหีบเจอหลักฐานฮั้วแน่
ร้องศาลปค.คุ้มครองชั่วคราว
กกต.ถกลับ 2 ชั่วโมง แต่ยังไม่รับรองผล“สว.ใหม่” รายงานระบุ กกต.แต่ละคนเห็นต่างกัน ส่วนผู้สมัคร สว.แห่ยื่นร้องเรียนต่อเนื่อง ทั้งทวงถามความคืบหน้าการสอบ “ฮั้วลงคะแนน–จัดตั้ง” จี้เปิดหีบนับคะแนนใหม่ พิสูจน์เบาะแสทุจริตเชื่อถ้าทำเจอหลักฐานแน่ เตือนกกต.เพิกเฉยระวังผิดม.157 ด้าน “จักรพงษ์”ร้องศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้กกต.รับรองรายชื่อ สว. ชี้เลือกทั้งสองรอบมีฮั้ว ยันกกต.รับทราบก่อนเลือกระดับประเทศ 2 วัน แต่ไม่แก้ไข
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประชุมเพื่อพิจารณาคำร้อง ประเด็นต่าง ๆ และรายงานที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงรายงานผลการเลือก สว.ระดับประเทศ ที่ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่าน โดยใช้เวลาประชุมตั้งแต่ประมาณ 11.00 น. ถึงเวลาประมาณ 13.00 น. รวมประมาณ 2 ชั่วโมง และเป็นการประชุมลับ
กกต.ถกลับแต่ยังไม่รับรองสว.
หลังการประชุมเสร็จสิ้นมีรายงานว่า ที่ประชุมยังไม่มีการพิจารณารับรองรายงานผลการเลือก สว. แม้เรื่องดังกล่าว จะอยู่ในระเบียบวาระการประชุม โดยมีรายงานว่าเนื่องจาก กกต.แต่ละคน ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันถึงการรับรองผลการเลือก สว. จึงมีเพียงการพูดคุยถึงงานที่ต้องดำเนินการให้ชัดเจน ก่อนจะประกาศรับรองผล ทั้งนี้ การเลือก สว.ระดับประเทศเสร็จไปตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนี้ผ่านมาแล้วเกือบ 2 สัปดาห์ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ไม่ได้กำหนดกรอบเวลารับรองผลการเลือก สว.ของ กกต. ระบุเพียงว่า สามารถรับรองผลได้ เมื่อพ้นกำหนด 5 วันหลังการเลือกในระดับประเทศเสร็จสิ้น หาก กกต.เห็นว่า กระบวนการเลือกเป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม
ผู้สมัครสว.แห่ร้องกกต.รายวัน
ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยังมีผู้สมัคร สว. เดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกสว.ต่อเนื่อง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายฯ ยื่นหนังสือและหลักฐานเพิ่มเติมต่อกกต. เป็นครั้งที่ 4 และติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามคำร้อง ที่มายื่นเรื่องไว้ก่อนหน้านี้ ให้ตรวจสอบความผิดปกติในการลงคะแนน ที่พบการจัดตั้ง ลงคะแนนตามโพย จึงขอให้เปิดหีบพิสูจน์การลงคะแนนว่าเป็นไปตามโพย และคัดค้านการประกาศรับรอง สว. 200คน และบัญชีสำรอง 100 คน โดยพล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆจาก กกต. ตนพยายามหาความเป็นธรรมไปยื่นคำร้องต่อศาล แต่ศาลก็ยกคำร้อง ตนจึงต้องมาเรียกร้องให้กกต.ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่ได้ยื่นไว้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบัตรในหีบรอบเลือกไขว้ มีการลงคะแนนตรงตามโพยทุกใบ หลังมาเทียบดูแล้ว ผู้ได้คะแนนสูงๆเป็นไปตามโพยทุกประการ วันนี้จึงเอามาให้กกต. เผื่อกกต.ทำไม่เป็น ก็จะได้ทำตามที่ตนยื่น รับรองเจอข้อเท็จจริงแน่นอน
ไม่มีคำตอบจะมาทุกวัน-ระวังผิดม.157
“ถ้า กกต.ไม่ดำเนินการตามที่ร้อง พวกผมก็จะมายื่นทุกวันหรือถ้าไม่สนใจแล้วประกาศรับรองสว.200 คนไปโดยไม่ดำเนินการใดๆ ก็ถือว่ากกต.หลีกเลี่ยงที่จะผดุงความสุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่มาตรา 32 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.กำหนดไว้ ซึ่งก็จะมีโทษตามมาตรา 69 จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปีและอาจโดนไปถึงมาตรา157 ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ จึงขอวิงวอนให้กกต.เปิดหีบบัตรลงคะแนนตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง มาแล้วพบว่าผู้ได้รับเลือกได้คะแนนมาโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม”พล.ต.ท.คำรบกล่าว
จี้นับคะแนนใหม่ยันจัดตั้งมีจริง
ด้านนายจิรัฏฐ์ แจ่มสว่าง ผู้สมัครสว. กลุ่ม 3 การศึกษากล่าวว่า ตอนนี้เราถูกปิดหูปิดตาด้วย 2 วลี คือ การฮั้วไม่ผิด และการสมัครผิดกลุ่มไม่ผิด ซึ่งเป็นเรื่องขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของการเลือกสว.ครั้งนี้ ที่กำหนดให้มี 20 กลุ่มอาชีพ และให้จับสลาก เจตนาป้องกันฮั้วที่จะทำได้ยาก แต่เมื่อมีการประกาศว่าสมัครผิดกลุ่มไม่ผิด จึงเป็นการทำลายระบบทั้งหมด ซึ่งตั้งแต่รับสมัครมาจนปัจจุบัน กกต.ยังไม่เคยตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเลย จะตรวจเฉพาะคนที่ถูกร้องเรียนเท่านั้น ซึ่งมีอยู่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น การที่เรียกร้องให้เปิดหีบลงคะแนน เพราะต้องการเช็คว่าการจัดตั้งมีจริง แล้วจึงค่อยไปตรวจสอบคุณสมบัติของคนที่มาไม่ตรงกลุ่มว่าเป็นอย่างไร ถ้าสองเรื่องนี้สอดคล้องกันจริง การจัดตั้งทั้งหมดก็ผิดตามระเบียบ จึงอยากให้กกต.เปิดหีบบัตรลงคะแนนเพื่อเช็คร่องรอย
ตามผลสอบคุณสมบัติผู้สมัครกลุ่ม9
เช่นเดียวกับ นายยศพัทธร์ ปรมัตถ์กิจการ ผู้สมัครสว. กลุ่มที่ 9 ผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม เข้ายื่นต่อกกต.เพื่อสอบถามความคืบกรณีขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติหรือเงื่อนไขของผู้สมัคร สว.กลุ่ม 9 ซึ่งเคยยื่นเรื่องไว้ก่อนหน้านี้ เพราะพบพิรุธที่เกิดขึ้นระดับอำเภอ ตนได้เข้าไปดูโปรไฟล์ผู้สมัครแต่ละคนในแต่ละจังหวัด ปรากฏว่ามีจำนวนมากที่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบกิจการเข้ามาสมัคร และมีบางคนที่เขียนในใบ สว.3 ว่าเป็นเจ้าของบริษัท แต่เมื่อไปเช็คดู คนนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนั้นเลย แสดงว่าคนนั้นไม่ได้เป็นผู้ประกอบกิจการเกิน 10 ปี พอถึงระดับจังหวัด ตนยื่นเรื่องต่อกกต.กทม. แต่ไม่ได้ดำเนินการ ดังนั้น วันนี้ที่ตนมาเพื่อยื่นสอบถามความคืบหน้าเรื่องร้องเรียน พร้อมกล่าวโทษผู้ที่รู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีคุณสมบัติ ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 74 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. คือรู้อยู่แล้วว่าตนเองขาดคุณสมบัติแต่มาสมัครมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท และตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี
บี้ขยายผลสส.นัดกินข้าวผู้สมัคร
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ ยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อขยายผล และเอาผิด สส.รายหนึ่งซึ่งนัดทานข้าวกับผู้สมัคร สว.ที่ จ.ขอนแก่น อาจเข้าข่ายฮั้วเลือก สว.หรือไม่ โดยเผยว่า มีผู้สมัครสว.สายภาคอีสานรายหนึ่งเข้าร่วมทานข้าวกับสส. มีการยื่นเสนอตำแหน่งผู้ช่วย สว. ให้ผู้สมัครสว. นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยทางโทรศัพท์โดยปลายสายอ้างว่าเป็นเจ้าพ่อเขากระโดงและเป็นถึงรัฐมนตรี ตนจึงขอให้ กกต.ขยายผลว่าเจ้าพ่อเขากระโดงเป็นใคร มีบทบาทอย่างไรกับการเลือกสว.
กกต.ฝืนรับรองเจอฟ้อง77จว.ผิดม.157
นายภัทรพงศ์ยังเตือน กกต.ด้วยว่า หากฝืนประกาศรับรองผลเลือกสว.ทั้ง 77 จังหวัดได้จองกฐินเตรียมดำเนินคดีกับนายแสวง บุญมี เลขาฯกกต. ตามมาตรา 157 ตนเดาว่าเลขาฯกกต.ไม่กล้าประกาศผลรับรองช่วงนี้ เพราะมี กกต.หลายคนไม่เอาด้วย เหตุการณ์ตอนที่เขาหน้าหนาจะย้อนกลับมาอีกครั้งหรือไม่ แต่สุดท้ายหน้าจะหนาหรือใหญ่มาจากไหนก็ติดคุกกันทั้งนั้น
ผู้สมัครกลุ่ม12ร้องศาลปค.คุ้มครอง
อีกด้านหนึ่ง ที่ศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ กทม. นายจักรพงษ์ คงปัญญา ผู้สมัคร สว.กลุ่ม 12 (อุตสาหกรรม)ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองไต่สวนคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้กกต.พิจารณารับรอง สว. ขอให้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งของผู้อำนวยการเลือก สว.ระดับประเทศ ที่คำสั่งรับรองรายชื่อบุคคลที่ผ่านการลงคะแนนรอบแรก และเพิกถอนรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกในรอบสองหรือเลือกไขว้ เนื่องจากมีกระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวในการที่ กกต.จะประกาศรับรองรายชื่อ สว.ทั้ง 200 คน และสำรอง เหตุผลที่มาร้องศาลปกครองครั้งนี้ เพราะสงสัยว่าเราเลือก สว.ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ ที่กำหนดให้สว.ต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ตามกลุ่มอาชีพที่สมัครอย่างน้อย 10 ปี และกระบวนการเลือกตั้งแต่ระดับอำเภอและระดับจังหวัดมาถึงประดับประเทศสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรมหรือไม่ วันนี้มีผู้คัดค้านมาก เลขาฯกกต.ก็ยอมรับเองว่า มีกระบวนการฮั้วจริงและเป็นผู้มีอำนาจ มีเงิน มีความรู้ แต่กกต.ก็ยังไม่ตรวจสอบอะไร ปล่อยผ่านให้เลือกระดับประเทศ แล้วถึงจะดำเนินการต่อไปเพื่อรับรองรายชื่อ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ กกต.ไม่ได้ตรวจสอบเรื่องที่มีคนร้องเรียนมาเลย แสดงว่ากกต.กำลังเพิกเฉยการตรวจสอบหรือไม่ จากนี้จะไปยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ กกต.ตามมาตรา 157
สว.สมชายปัดยื้อย้ำทำหน้าที่ตามรธน.
เวลา 13.20 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติเรื่องขอเสนอตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาตรวจสอบการเลือกสมาชิกสมาชิกวุฒิสภา ตามที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) เสนอ พร้อมชี้แจงเหตุผลที่เสนอญัตติ โดยยืนยันว่าสว.ชุดนี้ จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีสว.ชุดใหม่ เรากำลังรอ กกต.ตรวจสอบอย่างถูกต้อง สุจริต เที่ยงธรรม ก่อนประกาศรับรอง ตนยืนยันไม่มีเจตนายื้อเวลา อยากอยู่ต่อเหมือนที่มีการกล่าวหาให้ร้าย เราเพียงทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญให้สมศักด์ศรีก่อนส่งต่อให้สว.ชุดใหม่
แจง3เหตุผลดันตั้งกมธ.วิสามัญฯ
นายสมชายกล่าวถึงเหตุผลที่เสนอญัตติตั้งกมธ.วิสามัญฯ เพื่อให้ถอดบทเรียนใน 3 ประเด็น 1.วัตถุประสงค์พบปัญหาไม่ชอบมาพากล ผู้สมัครไม่ตรงกลุ่มอาชีพที่กำหนด มีการจัดเลี้ยงของสส.2รายจากพรรคการเมืองหนึ่ง มีผู้สมัคร สว.ไปร่วมงานด้วย รวมถึงโพยก๊วนฮั้วเลือกสว. 2.ประเด็นข้อกฎหมาย การลงคะแนนลับ การบล็อกโหวตมีจริงหรือไม่ ตนมีความเห็นเชิงกฎหมายว่า การรับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลังทำไม่ได้ เพราะมาตรา107 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกสว. ไม่ได้ระบุไว้ ไม่เหมือนกฎหมายลูกของสส. ที่เปิดช่องให้รับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลังได้
ดึง‘สมคิด-เจษฎ์-คมสัน’ร่วมถอดบทเรียน
และ3.กมธ.วิสามัญฯ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่จะเชิญมาร่วมจาก 4 คณะกมธ.ฯ ได้แก่ 1.กมธ.องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2.กมธ.กฎหมาย การยุติธรรม และตำรวจ 3.กมธ.บริหาราชการแผ่นดิน4.กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ จะเชิญบุคคลสำคัญภายนอกที่เคยเกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540 2550 2560 และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกสว. อาทิ นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเจษฎ์โทณะวณิก อดีตกรธ. นายคมสัน โพธิ์คง นักกฎหมาย เป็นต้น จะมาร่วมเป็นกมธ.ฯ ทั้งนี้ หากเรามีโอกาสดำเนินการศึกษาได้ตามระยะเวลา30วัน เราจะมีข้อเสนอถอดบทเรียนไปยังคณะกรรมการที่จะแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ รวมถึง กกต. และสว.ชุดใหม่ที่จะมารับหน้าที่ต่อเพื่อที่ได้ไปศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการเลือก สว.ปี 2562 และปี 2567 ที่ต่างกันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ผมยืนยันอีกครั้งว่าเป็นการทำหน้าที่ครบตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีเหตุจูงใจแอบแฝง
“สว.เสรี”ค้านตั้งกมธ.สอบเลือกสว.
ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ลุกขึ้นอภิปรายตอนหนึ่งว่า ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในการเลือกสว.ครั้งนี้ เป็นพยานหลักฐานสำคัญให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัย ตนเสนอความเห็นไป แต่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่กกต. เพราะเป็นคนละหน้าที่คนละฝ่าย สว.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ กกต.เป็นองค์กรอิสระ ตามมาตรา 109 ของรัฐธรรมนูญ ให้สว.ต้องปฏิบัติหน้าที่จนกว่ามีสว.ชุดใหม่เข้ามาก็จริง แต่ในช่วงที่ยังไม่มีสว.ใหม่เข้ามา ให้สว.ชุดเก่าอยู่รอ เพื่อพิจารณาคนที่ไปดำรงตำแหน่งต่างๆที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายกำหนดไว้ มีใครที่ต้องดำเนินการ หรือมีกฎหมายที่ผ่านสส. ส่งมาที่สว.ดำเนินการ รวมถึงการดำเนินงานในกรรมาธิการฯในแบบเท่าที่จำเป็น ไม่ก้าวก่ายแทรกแซงองค์กรอิสระ
จุ้นองค์กรอิสระ-ต้องยอมรับหมดเวลาแล้ว
นายเสรียังยืนยันว่า ที่พูดไม่ได้ขัดแย้งกับสมาชิก แต่เป็นหน้าที่สำคัญ ถึงบอกให้ กกต. เร่งตรวจสอบ และเร่งรับรอง ต้องใจกว้างยอมรับว่า หมดเวลาของสว.ชุดนี้แล้ว ส่วนสว.ชุดใหม่จะมาด้วยคุณสมบัติอะไร ถ้าไม่ขัดตามรัฐธรรมนูญ จะขายกล้วยทอด หรือขับรถ ก็ต้องยินดีให้เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมาธิการฯ เพราะเป็นการก้าวก่ายอำนาจหน้าที่องค์กรอิสระ
เตือนระวังพ้นสว.มีคดีติดตัว
“ในกมธ.พัฒนาการเมืองฯที่ผมรับผิดชอบ ที่ไม่อยากทำเรื่องนี้ ทั้งที่คณะอื่นทำมากมาย ผมชี้แจงไปว่า ในขณะที่ผมเป็นประธาน กมธ.ฯต้องระวังไม่ให้กรรมาธิการฯ หรือสว.ไปทำผิดกฎหมาย เพราะบางเรื่องมีโทษทางอาญา ผมไม่อยากให้ท่านพ้นจากสว.ไปแล้ว ต้องมีคดีอาญาติดตัว” นายเสรี กล่าว และตั้งคำถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นของเราหรือไม่ การจะตั้งกมธ.ฯมาตรวจสอบนั้น ทำไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 การที่สมาชิกนำหลักฐานมาแสดง เป็นเรื่องดี แต่ต้องส่งให้ กกต.
สภาสูงอภิปราย4ชม.ฉลุยตั้ง21กมธ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังที่ประชุม สว.เปิดให้สมาชิกอภิปรายเสนอความเห็นอย่างกว้างขวาง เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง โดยผู้อภิปรายส่วนใหญ่สนับสนุนให้ตั้งกมธ.ฯขึ้นมา เพราะถือเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นการถอดบทเรียนจากการเลือกสว.ชุดใหม่ ที่พบปัญหาไม่ชอบมาพากลจำนวนมาก เพื่อส่งต่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา หากมีการปรับปรุงกฎหมาย ขณะที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ สว. อภิปรายคัดค้านการตั้งกมธ.ฯ เนื่องจากมองว่าเป็นการไปก้าวก่ายองค์กรอิสระ
สว.สมชายยันไม่ได้ยื้อ-5ปีทำหน้าที่ครบ
นายสมชายกล่าวสรุปญัตติ โดยยืนยันว่าสว.ไม่ได้ทำอะไรขัดผลประโยชน์ เราทำหน้าที่ตราบจนนาทีสุดท้าย และไม่คิดยืดเยื้อเพื่ออยู่ต่อ ตามที่มีการกล่าวหา ตลอดเวลา 5 ปีทำหน้าที่ได้ครบสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ เราดูกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น ไม่ต้องมาสอน กมธ.ทุกคณะ มีวุฒิภาวะ ไม่มีหลุดอย่างที่คิดเองเออเอง ตนขอบคุณสว.ที่เห็นด้วย ส่วนคนที่เห็นต่างเป็นเรื่องปกติ
จากนั้นเวลา 16.49 น. ที่ประชุมมีมติ 101 ต่อ 10 งดออกเสียง 17 เห็นชอบตั้งกมธ.วิสามัญฯ 21 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี