‘เศรษฐา’ลั่นแจกเงินดิจิทัลยึดตามก.ม.
แถลงสรป24ก.ค.
ไม่ต้องห่วงที่มาของเงิน
‘เผ่าภูมิ’ย้ำไทม์ไลน์เดิม
ยังไม่ส่งกฤษฎีกาตีความ
ยันไตรมาส4ได้ใช้เงินแน่
“นายกฯ”ย้ำคุยตลอดปม“แหล่งเงินหมื่นดิจิทัล วอลเล็ต”บอกเข้าใจข้อกังวล เดี๋ยวแถลงให้ทราบ ลั่นทุกอย่างต้องถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย โยนถาม“จุลพันธ์”แทงเรื่องสอบถามกฤษฎีกาหรือยัง “เผ่าภูมิ”แจงยังไม่ส่งกฤษฎีกาตีความใช้เงิน ธ.ก.ส. แจก 1 หมื่นดิจิทัล รอเงื่อนไขข้อมูลที่ชัดเจน หลังเข้าครม.30 กรกฎาคม เผย 24 กรกฎาคม นายกฯแถลงสรุป เปิดไทม์ไลน์ ให้ประชาชนลงทะเบียน ยันกรอบวงเงินเดิม เชื่อไร้ปัญหางบประมาณ ย้ำไตรมาส 4 ได้ใช้เงินแน่
เมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านมีความกังวลที่รัฐบาลจะนำงบของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)ใช้ในโครงการเติมเงิน10,000บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งงบของธ.ก.ส. อาจไม่เพียงพอ ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า มีการพูดคุยตลอดเวลาในเรื่องนี้ ก็เข้าใจในความกังวล เดี๋ยวจะมีการชี้แจงแถลงให้ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการใช้งบของธ.ก.ส.ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันใช่หรือไม่และเห็นว่ายังไม่ได้มีการส่งเรื่องให้กฤษฎีกานายกฯกล่าวว่า มีการพูดคุยกันตลอด หากเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งให้ทราบ
เมื่อถามย้ำว่ายังไม่มีการสอบถามเรื่องนี้กับกฤษฎีกาใช่หรือไม่ ในการใช้งบ ธ.ก.ส.นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า “เรื่องนี้ต้องถามนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังอีกที แต่ถ้าเกิดพร้อมแล้ว ก็จะมีการส่งสอบถามทุกเรื่อง”เมื่อถามว่านายกฯยังยืนยันแหล่งที่มาของเงินจาก3แหล่งเดิมใช่หรือไม่ นายกฯย้ำว่า“ทุกอย่างจะต้องถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย”
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลังให้สัมภาษณ์กรณีน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลออกมาระบุว่าบอร์ดธนาคารการเกษตรเพื่อสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)ยังไม่อนุมัติงบประมาณ1.7แสนล้านบาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหมายความว่ารัฐบาลยังไม่ได้ส่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าการนำเงินไปใช้ขัดวัตถุประสงค์ ธกส.ใช่หรือไม่ว่า การส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความต้องส่งเป็นแพคเกจทุกเงื่อนไขทุกข้อจำกัดต้องเคลียร์ ต้องเสร็จสิ้นหมดแล้วเช่นธกส.จะต้องเสนอมาว่าจะแจงเงินประชาชนเท่านี้ ด้วยเงื่อนไขแบบนี้ระบบแบบนี้ สินค้าต้องห้าม มีอะไรบ้าง เงื่อนไขอะไรต่างๆ ต้องครบแล้วให้ตีความเป็นก้อนไม่ใช่เป็นชิ้น
แต่ยืนยันวันนี้ทุกอย่างยังอยู่ในไทม์ไลน์ โดยการจะส่งไปนั้น ต้องรอระยะเวลาที่เหมาะสมและขอชี้แจงไทม์ไลน์ของโครงการว่า วันที่ 10 ก.ค.จะประชุมอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อสรุปเงื่อนไขทั้งหมด วันที่ 15 ก.ค. คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต10,000บาท ชุดใหญ่ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะมีการประชุม และวันที่ 24 กรกฎาคม นายกฯจะแถลงข่าวสรุปโครงการ รวมถึงขั้นตอนการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 30 กรกฎาคม
เมื่อถามว่าจะนำเรื่องปรึกษาคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อน หรือหลังวันที่ 30 ก.ค. นายเผ่าภูมิ ตอบว่า หลังจากวันที่ 30 ก.ค.
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่าการนำเงินมาใช้สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตขัดวัตถุประสงค์ธกส.มีแผนสำรองไว้หรือไม่ หรือจะจ่ายเฉพาะวงเงินที่มี นายเผ่าภูมิ กล่าวว่ามี เสนอแผนสองสองแผนสาม เรามีอยู่แล้ว แต่เราจะเดินในแผนหนึ่งก่อน ซึ่งการลงทะเบียน ยืนยันตัวตนจะเกิดขึ้นในไตรมาส 3 และยืนยันว่าเงินจะถึงมือประชาชนไตรมาส 4 ส่วนจะได้วันใดนั้น ขอยังไม่ระบุเพื่อความยืดหยุ่น
ส่วนข้อกังวลของประชาชนหลังมีฝ่ายค้านออกมาท้วงติงอยากให้ประชาชนแยกคิดเป็นเงินก้อนๆก้อนเงินจากงบประมาณปี 67และปี68 อยู่ในกระบวนการ ส่วนก่อนที่เกี่ยวกับ ธกส.ก็อยู่ในกระบวนการ
ในเรื่องของงบประมาณ ไม่มีปัญหาอะไร ข่าวที่ตีออกไป ถือเป็นความเห็นที่เรารับฟัง แต่รัฐบาลก็เดินตามกระบวนการ กรอบระยะเวลา และกฎหมายทุกอย่าง
สำหรับสินค้าอะไรบ้างที่จะไม่เข้าเงื่อนไขนั้น ยกตัวอย่างมือถือและสินค้าอิเลคทรอนิก มีความเป็นไปได้สูง ที่จะถูกตัดออก แต่ตอนนี้อยู่ในการพิจารณาของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูว่าสินค่าอะไรทำให้เงินออกไปนอกประเทศ โดยจะสรุปในที่ประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตวันที่ 10 ก.ค.นี้
เมื่อถามย้ำว่าเสียงท้วงติงของน.ส.ศิริกัญญาจะกระทบความเชื่อมั่นโครงการนี้หรือไม่นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า เป็นทุกความเห็น ที่เราต้องรับฟังและนำมาไตร่ตรงว่าสิ่งที่ทำถูกต้องตรงตามหลักการ ข้อกฎหมายหรือไม่ ถ้าตรงตามกฎหมายเราต้องทำต่อแล้วชี้แจงความเห็นต่าง
เมื่อถามว่าหากราคาสินค้าเกิน10,000บาทจะสามารถนำเงินในครอบครัว2คนมาใช้ร่วมกันได้หรือไม่นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า“รวมกันได้ นี่คือสิ่งที่เราอยากให้เกิดด้วยซ้ำ5คน มารวมกันเป็น5หมื่น ท่านสามารถเอาไปซื้อรถเข็นมาขายของได้ นี่คือสิ่งที่เราอยากให้เกิด”
เมื่อถามว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกรณีธนาคารโลกรายงานผลประเมินว่าโครงการดิจิทัลฯจะสามารถกระตุ้นกระตุ้นจีดีพีได้แค่ 0.5-1.0 เปอร์เซ็นต์ รมช.คลังกล่าวว่า ตรงนี้ คือโครงการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เคยมีการจำกัดรัศมี ไม่เคยมีการทำให้เงินหมุนอยู่หมู่บ้านในชุมชนฉะนั้นการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลากหลายซึ่งกระทรวงการคลังก็ประเมินจากหน่วยงานต่างๆที่เขาประเมินซึ่งตัวเลขการประเมินก็มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับเงื่อนไข เช่นสินค้าต้องห้ามที่ยังไม่นิ่ง เราจึงยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจเท่าไหร่ ทั้งนี้ รัฐบาลมีหน้าที่รับฟัง รับข้อห่วงใย และข้อประเมินและมาพิจารณาร่วมกัน
เมื่อถามถึงข้อสังเกตธนาคารโลก ระบุว่าถ้าไม่ทำโครงการดิจิทัลฯธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ถึง 0.25-0.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นายเผ่าภูมิ กล่าวว่ามาตรการทางการเงินก็ต้องทำหน้าที่ ในส่วนของมาตรการทางการเงินอยู่แล้ว อย่าเอามาผูกกันในมิติต่างๆ ธปท.เคยผูกมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่คาดการว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะเกิดปีนี้และมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปรอ เพราะกลัวเงินเฟ้อ ธปท.เคยทำมาแล้ว เมื่อเอาผูกกันอย่างนี้ผูกเสร็จแล้วก็มีปัญหา ในที่สุดธปท.ขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยที่เงินดิจิทัลฯยังไม่ออกและเงินเฟ้อก็ไม่ได้ขึ้น ทำให้มีปัญหาและเห็นเงินเฟ้อตกขอบในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี