กกต.ยังไม่รับรองสว.ชุดใหม่
อ้างข้อมูลไม่ชัด
รอผลตรวจสอบข้อเท็จจริง
นัดประชุมอีกครั้ง10ก.ค.
‘อิทธิพร’โต้ข่าวลาพักร้อน
ร้องดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
ยังไร้ข้อสรุป กกต.ปิดห้องถกนาน 3 ชั่วโมง แต่ยังไม่ประกาศรับรอง 200 สว. และสำรอง 100 คน นัดหารือใหม่ 10 กรกฎาคม ด้าน“กมธ.ศึกษาเลือกสว.” ประชุมนัดแรกยันทำตรงไปตรงมาตามกรอบเวลา ไม่ส่งไม้ต่อ เชื่อ สว.ใหม่คงไม่สอบตัวเอง ขณะที่ ‘วิษณุ’ชี้รับรองสว.ออกทางไหนก็มีปัญหา แจงสว.ชุดเก่ายังประชุมต่อได้ เผย สิ้นสุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อสว.ชุดใหม่ปฏิญาณตน ส่วน ‘ทนายอั๋น’โร่ร้องดีเอสไอ สอบปมขบวนการฮั้วสว.เป็นคดีพิเศษ ลั่น ไม่เชื่อมั่นกกต. เพราะไม่มีความกล้าหาญ
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่า ช่วงนี้ยังปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่มีการลาพักร้อน หรือลาหยุด ตามกระแสข่าวลือ เป็นข้อมูลเท็จ และวันนี้ยังประชุม กกต.ในเวลา 13.00 น. เพื่อพิจารณาวาระต่างๆ รวมถึงพิจารณารับรองการประกาศผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา
กกต.ยังไม่รับรองสว.นัดถกต่อ10กค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายอิทธิพร เป็นประธานการประชุม เวลา 13.00 น. เพื่อพิจารณาวาระต่างๆ รวมทั้งการประกาศรับรองผลเลือกสว. 200 คน และบัญชีรายชื่อสำรอง 100 คน ซึ่งเป็นการประชุมต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง ที่ประชุมวันนี้ ยังไม่ได้ข้อสรุปจะมีการประกาศรับรอง ส.ว.ชุดใหม่ จึงนัดประชุมกันอีกครั้งวันที่ 10 กรกฎาคม เวลา 09.00น.โดยมีรายงานว่า วันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาวาระเรื่องการประกาศผลการเลือก สว.แล้ว แต่เห็นว่ายังมีบางประเด็นที่ต้องให้สำนักงาน กกต.ตรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนผู้ได้รับเลือกเป็น สว.เพื่อให้มีข้อเท็จจริงเพียงพอสำหรับการลงมติประกาศผลการเลือก สว.ซึ่งถ้ามีความชัดเจนในข้อมูลนี้จะทำให้ กกต.สามารถพิจารณาได้ว่าสมควรประกาศผลหรือไม่
กมธ.ถกนัดแรกทำตามกรอบเวลา
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา แถลงหลังประชุมกมธ.ฯนัดแรกว่า มีการแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ และกำหนดกรอบเวลาทำงาน โดยจะทำงานภายใต้ขอบเขตที่ได้รับคือ ตรวจสอบว่า กระบวนการเลือก ส.ว.มีข้อเท็จจริงอะไรที่บางชี้ไปในทางที่ทำให้การเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ ส่วนประเด็นปัญหาหาอื่นๆนอกเหนือจากนี้ ต้องเป็นภารกิจหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาช่วยกันศึกษา เพื่อถอดบทเรียนในประเด็นอื่นเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดของเวลา กมธ.จะพยายามทำหน้าที่ให้ได้ข้อมูลมากที่สุด
ส่วนข้อมูลนั้น นายสุรชัยเผยว่า ที่ประชุมกำหนดไว้เบื้องต้นแล้ว เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนและส่งข้อมูลให้กมธ.สามัญของวุฒิสภา 2 คณะคือ กมธ.องค์กรอิสระ และกมธ.สิทธิมนุษยชน เราก็จะขอความร่วมมือจากทั้งสองคณะมาประกอบ รวมทั้งข้อมูลจากกมธ.ฯคณะนี้ ที่ติดตามเป็นการส่วนตัวก็ขอให้ส่งข้อมูลมาเพื่อให้ฝ่ายเลขาฯกมธ.ได้รวบรวมข้อมูลและสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อที่ประชุม กมธ.ฯได้ศึกษา เบื้องต้นเรากำหนดว่า จะเริ่มลงมือศึกษาข้อเท็จจริงทั้งหมดวันที่ 11 กรกฎาคม จากนั้นจะมาพิจารณาอีกครั้งว่า ข้อเท็จจริงที่ได้มาทั้งหมดมีอะไรที่ยังขาดความชัดเจน ที่จำเป็นต้องขอหน่วยงานหรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่
ไม่ส่งไม้ต่อเชื่อชุดใหม่คงไม่สอบตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ากกต.รับรองส.ว.ชุดใหม่วันนี้ (9 ก.ค.) กมธ.จะเดินหน้าอย่างไรต่อไป นายสุรชัย กล่าวว่า ภารกิจเราก็เสร็จสิ้นเท่านั้นเอง ไม่ต้องกังวลอะไร เราจะทำเท่าที่กรอบเวลาที่ทำให้เราสามารถทำงานได้ ขณะเดียวกัน เราพยายามทำงานให้เสร็จให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่า เราอยากได้คำตอบเร็วที่สุด เพราะอยากเห็น กกต. รับรองส.ว.ชุดใหม่ได้ เร็วที่สุดเช่นเดียวกันภายใต้คำตอบที่สามารถตอบได้ชัดเจนว่า ทุกอย่างเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม
เมื่อถามว่าต้องส่งไม้ต่อให้สว.ชุดใหม่ทำเรื่องนี้หรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า สว.ชุดใหม่คงไม่สอบตัวเอง ส่วนการตั้งประเด็นตรวจสอบของกมธ. จะมีข้อเสนอถึงการแก้กฎหมายหรือรัฐธรรมนูญเพื่ออุดช่องว่าการเลือกหรือไม่นั้น ที่ประชุมหารือกันว่า เรามีเวลามากน้อยแค่ไหน ข้อกฎหมายเป็นประเด็นที่ให้ความสำคัญ แต่ด้วยข้อจำกัดของเวลาตนคงต้องหารือกับที่ประชุมว่า ถ้าหาข้อเท็จจริงได้เร็ว เราจะแยกรายงานออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่หนึ่งเป็นรายงานข้อเท็จจริงว่ามีอะไรเป็นตัวบ่งชี้ที่ทำให้เห็นว่า การเลือกสว. ครั้งนี้ไม่สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ และอีกส่วนคือ ประเด็นข้อกฎหมายหากมีเวลาทำงาน จะศึกษาต่อว่า มีอะไรบ้างที่เป็นปัญหาอุปสรรค นำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขต่อไป
“ทั้งนี้ ข้อสรุปของกมธ. ข้อมูลต้องอยู่บนข้อเท็จจริงที่มีพยานหลักฐานไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ลอยมาจากที่ไหนไม่รู้โดยทางกมธ. ต้องคัดกรองข้อเท็จจริงด้วย โดยในการประชุมกมธ.วันที่ 11 กรกฎาคมนี้ จะคัดข้อเท็จจริงออกมา โดยดูว่า มีพยานหลักฐานน่าเชื่อถือ แค่ไหนและรับฟังได้มากน้อยแค่ไหน โดยจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมามากที่สุด”นายสุรชัยกล่าว
ชี้รับรองสว.แบบไหนก็มีปัญหา
ด้านนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี กกต.รับรอง สว.ชุดใหม่ 200 คนไปก่อน แล้วค่อยสอยทีหลัง ในทางกฎหมายจะมีปัญหาหรือไม่ว่า ไม่ว่าแบบใดก็มีปัญหาทั้งนั้น ไม่ประกาศก็มีปัญหาอีกแบบ กกต.จะถูกตั้งคำถามว่าทำได้หรือไม่ และหากประกาศไปแล้วมาสอยทีหลังก็จะมีปัญหา เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะดำเนินการแล้วเสร็จ ส่วนตัวไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องนี้ และไม่มีการมาขอความเห็นกับตน และประเด็นดังกล่าวไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
สว.เก่าหมดหน้าที่เมื่อชุดใหม่ปฎิญาณตน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สว.ชุดเก่าจะสิ้นสุดเวลาการปฏิบัติหน้าที่เมื่อใด นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อสว.ชุดใหม่ปฏิญาณตน เพราะแม้กกต.ประกาศรับรองผล ก็ยังไม่หมดวาระ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 7 วัน ชุดใหม่จึงสามารถเปิดประชุมวุฒิสภา จากนั้นจะเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา จึงจะสามารถปฏิญาณตนได้ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดช่องว่าง เนื่องจากสส.และสว.จะต้องอยู่ด้วยกัน และขณะนี้สว.ชุดเก่ายังคงสามารถประชุมได้ เมื่อถามว่า สว.ชุดเก่ายังสามารถตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขึ้นมาเพื่อศึกษาอะไรในช่วงนี้ได้หรือไม่ นายวิษณุ ปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมกล่าวว่า ตนไม่อยากไปทะเลาะกับเขาเปล่าๆ
ทนายอั๋นโร่ร้องDSIรับฮั้วสว.เป็นคดีพิเศษ
อีกด้านหนึ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอให้พิจารณารับเรื่องการเลือกตั้ง สว.กรณีฮั้วการเลือกตั้ง สว.เป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายภัทรพงศ์ หรือทนายอั๋น เปิดเผยว่า ตนมายื่นหนังสือเพื่อขอให้อธิบดีดีเอสไอตรวจสอบการเลือก สว. เพราะขณะนี้เรื่องบานปลาย ต้องยอมรับว่าวิธีเลือกวุฒิสภาครั้งนี้ไม่สุจริต มีการโกงผ่านรูปแบบต่างๆ และประการสำคัญคือ 1.กกต.ยังนิ่งไม่ดำเนินการอะไร ไม่ตอบปัญหาและคำถามของสังคมและผู้ร้องเรียน แต่กลับพยายามจะให้เกิดการรับรอง สว.ทั้ง 200 ราย 2.หลักฐานเรื่องโพยในห้องน้ำที่สอดคล้องกับคะแนนเลือกตั้ง 3.ปรากฏคลิปวิดีโอการสนทนาว่าฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซง ตนจึงเล็งเห็นว่าดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพราะสว.เป็นตำแหน่งสำคัญ หากได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นการทำลายความมั่นคงของรัฐ และเศรษฐกิจสังคมว่าตามตรง คือ การเลือกตั้ง สว. มีผู้มีอิทธิพลและบารมีทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง จึงมองว่าเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานธรรมดาอาจรับมือไม่ไหว จึงมาร้องเรียนให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยตรวจสอบ หากพบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังควรที่จะถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ลั่นไม่เชื่อมั่นกกต.ฉะไร้ความกล้าหาญ
“ถามว่าทำไมจึงไม่ปล่อยให้กระบวนการเลือกตั้งสว.รับรองโดย กกต. แล้วค่อยสอยทีหลังนั้นขอถามกลับว่าการเลือกตั้งสส.ที่ผ่านมา มี กกต. สอยพระเดชพระคุณไปกี่คนแล้ว แต่เพราะว่าไม่มี ผมจึงไม่เชื่อมั่น กกต. เพราะเป็นหน่วยงานที่ไม่มีความกล้าหาญขนาดนั้น จึงต้องมาพึ่งพาดีเอสไอ”นายภัทรพงษ์ระบุและว่า นอกจากนี้ ยังขอให้ดีเอสไอเรียกพยานหลักฐานจาก กกต. และเรียกบุคคลที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้วเลือกตั้ง สว. มาสอบถามข้อเท็จจริง
ฮึ่มกกต.ลุยรับรองเจอฟ้องม.157ทั่วปท.
นายภัทรพงศ์ เผยด้วยว่า หาก กกต. ประกาศรับรอง สว. ชุดใหม่นี้ จะเกิด 2 ปรากฏการณ์ คือ 1.วันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 10.00 น. จะมีการนัดรวมตัวที่ กกต.กลาง ของอดีตผู้สมัคร สว. ทั่วประเทศ และ 2.จะแจ้งความดำเนินคดี มาตรา 157 ทั่วประเทศ แม้การเลือกตั้ง สว. จะมีหลายเฉด ได้เข้ามา แต่ที่ตนเห็นมีอยู่สีเดียว และตนไม่อยากให้ สว. อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคการเมืองใด ๆ
DSI พร้อมสอบขอตรวจรายละเอียด
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการรับคำร้องไว้ จากนั้นเลขานุการกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะประมวลเรื่องและส่งไปยังกองบริหารคดีพิเศษ ถัดไปจะประมวลเรื่องเพื่อเสนอไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษตามขั้นตอน เพื่ออธิบดีฯ จะได้พิจารณาว่าจะมอบหมายสั่งการไปยังกองคดีใดให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องพยานหลักฐานหรือพยานเอกสารที่ผู้ร้องทุกข์นำมามอบให้ดีเอสไอนั้น เราก็จะต้องไปตรวจสอบรายละเอียดภายในเอกสารคำร้องก่อนว่าผู้ร้องระบุอย่างไรบ้าง ในประเด็นว่าดีเอสไอจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเรียกพยานเอกสารเพิ่มเติมตามที่ผู้ร้องทุกข์เสนอได้หรือไม่นั้น ถ้าดีเอสไอพิจารณาแล้วเล็งเห็นว่าเรื่องที่ผู้ร้องสมควรรับดำเนินการไว้ ดีเอสไอก็จะตั้งเรื่องเพื่อสืบสวนสอบสวน เพื่อเข้าสู่กระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง
รัฐประหารไม่เคยล้าสมัย
วันเดียวกัน นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวเตือนกกต.ที่จะรับรอง สว.ชุดใหม่ ว่าต้องคิดให้รอบคอบ เพราะการเลือกสว.ครั้งนี้ผู้สมัครเลือกกันเอง และถ้ามีทุจริต 1 คนก็ไปทั้งยวง
“ผมฟังเสียงชาวบ้านมา เขาบอกว่า อยากเห็น ส.ว.ชุดปัจจุบันยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาล มาตรา 153 อีกรอบ เพราะครั้งที่แล้วโดนใจชาวบ้านมาก วันนี้ใครที่เร่งให้รับรอง สว.แสดงว่าไม่รู้กฎหมาย และผมมั่นใจว่า กกต.ยังไม่กล้า ผมขอพูดให้ฟังว่าการรัฐประหารไม่เคยล้าสมัย แล้วผู้ที่ทำรัฐประหารไม่เคยขาดทุน วลีนี้ใช้ได้ทั่วโลก“นายสามารถ กล่าว และย้ำว่า การเลือกตั้ง สว.เมื่อปี 2557 สุดท้ายก็โดนทหารทำรัฐประหาร ตนถึงบอกว่าการที่ให้สว.เลือกกันเองด้วยคนหยิบมือ ใช้แค่ 22 คนเลือกก็ได้เป็นสว.แล้ว น้อยกว่าการเลือกหัวหน้าห้องเด็กอนุบาลด้วยซ้ำ ถ้าถามว่าสว.ชุดปัจจุบันที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่กับส.ว.ชุดใหม่ ตนเชื่อว่า ประชาชนมองว่าชุดเก่าดีกว่า อย่างน้อยคุณสมบัติ วุฒิภาวะ ความรู้ ความสามารถก็มากกว่า และที่สำคัญ ไม่ได้มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง
นายสามารถกล่าวว่าการเลือกตั้ง สว..ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีทั้งพรรคการเมืองและนักการเมืองเข้าไปหนุนหลัง แปลว่า สภาสูงกับสภาล่างเชื่อมกัน ก็ออกกฎหมายกันที่บ้านได้ หรือต้องตกเป็นอาณัติของฝ่ายการเมือง ถึงเตือนว่า อย่าให้การรัฐประหารเกิดขึ้นได้ อย่าเรียกร้องไปถึงจุดนั้น ฉะนั้น กกต.ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถูกต้องก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี