‘ก.ก.’ถล่มงบดิจิทัล

ยังคลุมเครือ/แก้เงื่อนไขเปลี่ยนไปมา

นายกฯยันรอฟังแถลงชัดเจน24ก.ค.

“ก้าวไกล”ตั้งกระทู้บี้ถามงบฯดิจิทัล วอลเล็ต คลุมเครือติดบ่วงแก้เงื่อนไขมากมาย เปลี่ยนไป เปลี่ยนมา อัดนโยบายให้ต่างชาติเช่าที่ดิน 99 ปี เอื้อแต่ทุนกระจุกภาคอสังหาฯสับมาตรการกระตุ้นศก.ไร้พยุงค่าครองชีพช่วยปชช.ทางออกมืดแปดด้าน ขณะ“เศรษฐา”มาตอบกระทู้สด“ฝ่ายค้าน”แจงรอฟังแถลงชัดเจน 24 กรกฎาคมนี้
 ยันต่างชาติเช่าอสังหาริมทรัพย์ 99ปี ไม่ใช่ขายชาติ ลั่นพร้อมสู้แรงค้านที่ไร้อนาคตด้าน‘พิธา’ตอกทันควัน‘แรงค้านไร้อนาคต’หรือรัฐบาลไร้คำตอบ เตือนนายกฯใช้งบทำดิจิทัลวอลเล็ตให้ดี ระวังวิกฤตกลายเป็นวิบัติ ซัดใช้งบกลางบ่อยๆเสียวินัยการเงินการคลัง

เมื่อวันที่ 11กรกฎาคม 2567 เวลา11.00น.ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธานพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาถามนายกรัฐมนตรี

โดยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีประชาชนสอบถามเข้ามากมายว่าเกิดอะไรกันแน่ซึ่งวานนี้(10ก.ค.)มติที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน10,000บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตมีการปรับแก้เงื่อนไขมากมาย เปลี่ยนไปมาตลอดเวลาอาทิโทรศัพท์มือถือจากเดิมที่บอกว่าซื้อได้ล่าสุดบอกว่าซื้อไม่ได้ ปุ๋ยที่เคยบอกซื้อไม่ได้วันนี้บอกว่าซื้อได้แล้วยังมีเงื่อนไขประหลาด เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิกส์จะใช้ซื้อไม่ได้ แต่ประเด็นสำคัญที่ประชาชนกังวลคือการปรับลดกลุ่มเป้าหมายจากเดิม50ล้านคน เหลือ 45 ล้านคน โดยอ้างว่าจะมีคนที่มีสิทธิ์ แต่ไม่มาลงทะเบียนราว 10 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังเสนอทางเลือกใช้เม็ดเงินในโครงการฯ จากงบประมาณปี2567-68 โดยไม่ใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)

บี้ถามงบฯโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า คำถามคือขณะนี้งบประมาณมีไม่พอแล้วหรืออย่างไร ถึงหามาได้แค่450,000ล้านบาท งบฯในปี67 จากที่เคยจะใช้จำนวน 170,000 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 165,000 ล้านบาท ที่เหลือจะไปใช้จากงบฯปี68 จำนวน 285,000 ล้านบาททำให้ประชาชนสงสัยว่าถ้าสุดท้ายมีการลงทะเบียนเต็ม50ล้านคนจะทำอย่างไร ใน 5ล้านคนเขายังจะได้รับสิทธิ์อยู่หรือไม่ จะนำเงินที่ไหนมาใช้ หรือจะไปใช้เงินคงคลัง

“สิ่งที่ตนกังวลคือการที่จะต้องใช้งบฯปี67 จากการบริหารจัดการจำนวน 43,000 ล้านบาทและงบฯปี68 จากการบริหารจัดการ จำนวน 132,300 ล้านบาท ตกลงจะมีการใช้งบฯกลางของปี67หรือไม่ จะบริหารจัดการอย่างไร หรือจะมีการใช้เงินทุนสำรองจ่ายที่อยู่ในอำนาจรมว.คลัง หรือไม่”นส.ศิริกัญญา ย้ำ

นายกฯแจงรอฟังแถลงชัดเจน24ก.ค.

ด้านนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวจะมีการแถลงความชัดเจนในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆเช่นประเภทของสินค้านั้นแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลได้ฟังความเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการและฝ่ายค้าน เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยปรับปรุงแต่งให้โดนใจปะชาชนและถูกจุดประสงค์ที่มีเป้าหมาหลักคือกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ คืองบกลางจำนวน 43,000 ล้านบาทโดยจะพยายามเตรียมงบให้เต็มที่และพินิจพิเคราะห์ได้อย่างดี เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ซื่อสัตย์ ตามกติกาของการใช้งบที่ถูกต้อง

ชี้งบกลางไม่ใช่กันไว้เพื่อดิจิทัลวอลเล็ต

นายกฯกล่าวอีกว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายหลักใช้เงินหมื่นบาทโดยใช้ให้จำกัดพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนากระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำเช่น จ.หนองบัวลำภู จ.มหาสารคามเพื่อพัฒนาเศษฐกิจภูมิภาคสำหรับการใช้งบกลางฯไม่ใช่กันไว้เพื่อโครงการดังกล่าวเท่านั้น แต่ใช้เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนด้วย

แจงรบ.มีมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

นายกฯกล่าวต่อว่าสำหรับประเด็นที่ตั้งถามถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้านอื่นๆหรือไม่นั้นรัฐบาลมีมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจเช่นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ยกเว้นวีซ่า สร้างความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวรวมถึงอุตสาหกรรมรถอีวีเป็นต้นมีเงินใหม่เข้ามาในระบบ470,000 ล้านบาทหรือ 500,000 ล้านบาท ผลิตสินค้ารองรับการซื้อของประชาชนในระบบหรือไม่ เกิดการผลิต การจ้างงาน ประชาชนมีความหวัง รวมถึงยังต้องแก้ไขปัญหาสังคมที่ผูกโยงกับปัญหาเศรษฐกิจเช่นปัญหายาเสพติดซึ่งได้ลงพื้นที่และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กอ.รมน.ทั้งนี้กอ.รมน.ไม่เห็นด้วยให้ยุบเพราะกอ.รมน.ยังมีบทบาทในมิติความมั่นคง รวมถึงการดูแลประชาชน ดูแลชายแดน

โวแก้ปัญหาพลังงาน-โยงพื้นที่ทับซ้อน

นายกฯยังกล่าวชี้แจงถึงมาตรการช่วยค่าครองชีพของประชาชนว่าทางแก้ทางหนึ่งคือความร่วมมือด้านความมั่นคงพลังงาน แหล่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลบริเวณไหล่ทวีประหว่างไทยและกัมพูชาหรือโอซีเอซึ่งรัฐบาลประกาศจะแก้ไขเท่าที่ฟังตัวเลขจากการประเมินในพื้นที่ทับซ้อนกัมพูชาถึง20ล้านล้านบาท ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างทางพลังงานให้มีใช้ในประเทศไม่ต้องนำเข้า

สับเละมาตรการกระตุ้นศก.มืด8ด้าน

น.ส.ศิริกัญญายังคำถามด้วยว่าสิ่งที่นายกฯไม่ได้ตอบคำถามที่ถาม ยืนยันว่าไม่มีมาตรการพยุงค่าครองชีพประชาชนระยะสั้นเฉพาะหน้า ไม่มีการแก้ปัญหาโรงงานปิดกิจการและเอสเอ็มดีล้มวินิจฉัยโรคถูก แต่ทางออกมืด8 ด้านไม่มีรูปธรรม ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ตหรือรอนักลงทุนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไร หากงบประมาณไม่พอใช้ช่วยเหลือเยียวยา ค่าครองชีพ ก่อนรอถึงปลายปีนี้67ตนมีข้อเสนอให้รัฐบาลสร้างแรงจูงใจท้องถิ่นนำเงินสะสมท้องถิ่น2 หมื่นล้านบาท ใช้เพื่อลงทุนขนาดเล็ก เกิดการจ้างงานในพื้นที่ชนบท ที่ผ่านมานายกฯ เน้นการช่วยเหลือกลุ่มทุนมีมาตรการช่วยเหลือเน้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และล่าสุดที่นายกฯให้ศึกษาเกี่ยวกับประเด็นทรัพย์อิงสิทธิ์ให้ต่างชาติ99 ปี ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นมากกว่าประชาชน

ลั่นไม่ขายชาติ-พร้อมสู้แรงค้านไร้อนาคต

จากนั้น นายเศรษฐาชี้แจงว่ายืนยันว่ารัฐบาลได้ดำเนินการมาตรการช่วยเหลือในกรณีของการศึกษาการให้ต่างชาติเช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 99 ปี มีการเสนอให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว เพราะมีฝ่ายต่างประเทศเรียกร้อง ให้ปรับจากจาก 30 ปีเป็น 99 ปี ดังนั้นต้องศึกษาว่าเหมาะสมหรือไม่ หากทำแล้ว จะส่งผลระยะยาวต่อเศรษฐกิจไทย การลงทุนระหว่างประเทศสูงขึ้นหรือไม่

“ไม่ใช่เรื่องขายชาติ แต่ต้องศึกษาและทำให้ซื่อสัตย์ ปลอดจากผลประโยชน์ทับซ้อน รัฐบาลภายใต้การนำของผมวิ่งสู้เพื่ออนาคตและทุกพรรคร่วมวิ่งสู้ต่อไปปัจจุบันที่ดีกว่า สู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต”นายเศรษฐา กล่าวย้ำ

ย้ำรอฟัง24ก.ค.เกรงพูดก่อนทำสับสน

จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าสภาตอบกระทู้ถามสดถึงการโครงการเติมเงิน 1หมื่นบาท ดิจิทัลวอลเล็ตที่จะไม่ใช้เงินธ.ก.ส.แล้วมีปัญหาติดขัดอะไรว่าค่อยฟังการแถลงในวันที่ 24 ก.ค.เดี๋ยวพูดไปจะความสับสน พร้อมย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และสามารถพิสูจน์ทราบได้ เป็นเรื่องของความสุจริตทุกประการเมื่อถามว่าวันที่24 ก.ค.ตื่นเต้นหรือไม่เพราะนายกฯจะแถลงรายละเอียดทั้งหมดของโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นายเศรษฐา ตอบว่า”ตื่นเต้นทุกวันครับ”

เคารพสภาฯมีเวลายินดีมาตอบกระทู้อีก

เมื่อถามว่า วันเดียวกันนี้ได้เข้ามาตอบกระทู้สดในสภาเป็นอย่างไรบ้างนายเศรษฐา กล่าวว่าตนพูดตลอดเวลาว่าตนให้ความเคารพสถาบันนิติบัญญัติอยู่แล้ว และหากมีเวลาก็ยินดีมาตอบ ถ้าตอบไม่ได้ก็จะไปตอบคราวหน้า หรือมอบหมายให้ใครไปตอบแทนวันหลัง”ก็ไม่ได้หนีอะไรหรอกครับ เพราะก็มีภารกิจเยอะ”

ส่วนฝ่ายค้านต้องการเชิญนายกฯมาตอบกระทู้อีกนายกฯ กล่าวว่าถ้าเผื่อว่างตนก็ยืนยันจะมาถ้าไม่ติดภารกิจด่วนอะไรก็มาขอยืนยันส่วนตัวก็เคยมาตอบคำถามของฝ่ายค้านไม่เคยคิดที่จะเลือกที่รักมักที่ชังหรือไม่คิดจะตอบคำถามของพรรคก้าวไกล แล้วไปตอบคำถามพรรคอื่น ไม่ใช่เช่นนั้นเลย ไม่ได้คำนึงถึงตรงนั้น

ส่วน คำถามพรรคก้าวไกลวันนี้ถือว่าโอเคหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่าก็แฟร์ครับ เพราะเขาอยากรู้ แต่หลายๆอย่างมันไม่มีคำตอบแค่ YES หรือ No มันเป็นเรื่องที่ต้องอธิบายให้ฟังว่ากำลังทำอะไรอยู่ก็หวังและถ้ามีโอกาสก็จะชี้แจงเรื่อยๆ และตนก็จะมีทีมงานที่ไปพบปะหลายๆสื่อเพื่อทำความเข้าใจและขยายผลจากที่เราทำงานมา สำคัญที่สุดคือเหตุผลที่ทำคืออะไรมากกว่า

‘พิธา’ตอกกลับทันควันรัฐบาลไร้คำตอบ

ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวถึงกรณีนายกฯมาตอบกระทู้สดในการประชุมสภาฯระบุรัฐบาลต้องต่อสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคตว่าคงต้องชวนให้พี่น้องประชาชน ย้อนดูการถามกระทู้ของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลแล้วค่อยตัดสินว่าเป็นแรงค้างที่ไร้อนาคต หรือรัฐบาลที่ไร้คำตอบกันแน่ ตนคิดว่าประชาชนจะเป็นคนตัดสินได้เพราะความตั้งใจของน.ส.ศิริกัญญาและพรรคก้าวไกลนั้น เป็นการตั้งคำถามเฉพาะเจาะจงและให้ตอบคำถามมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใยกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากเศรษฐกิจจะวิกฤตหรือไม่วิกฤต ขึ้นอยู่กับการบริหารของรัฐบาล ถ้าหากทำอย่างละเอียดตั้งอกตั้งใจวิกฤตคงจะคลี่คลายไปได้ แต่ถ้าจะทำแบบประชานิยม กู้เงินในอนาคตใช้งบประมาณมหาศาล จนเหมือนเป็นไข่ที่อยู่ในตะกร้าใบเดียว ถ้าพลาดขึ้นมาแล้วแต่วิกฤตจะกลายเป็นวิบัติไปได้ ถ้าเกิดคุณกู้เงินในอนาคตโดยไม่ลงรายละเอียด

“ก็ต้องถามนายกฯกลับว่าตอนที่ตอบคุณศิริกัญญาแล้วเอาสไลด์ขึ้น เป็นการวินิจฉัยปัญหาของประเทศ ที่น่าจะใกล้เคียงกับฝ่ายค้าน แต่ถามว่ามีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ ถามว่ากฎหมายที่ดองไว้ ท่านจะช่วยแก้ ท่านจะดองไปทำไม ฝากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศช่วยกันเป็นคนตัดสิน ผมมีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นอดีตหัวหน้าพรรคใกล้ชิดกับคุณศิริกัญญาคงจะไม่ได้เป็นคนตัดสินว่าตกลงเป็นแรงค้านที่ไร้อนาคตหรือรัฐบาลที่ไร้คำตอบต่อคำถามของคุณศิริกัญญาและความท้าทายของประเทศกันแน่”นายพิธา ระบุ

เตือนใช้งบทำดิจิทัล-ระวังเป็น‘วิบัติ’

เมื่อถามว่าคำถามและคำตอบในวันนี้ ฝ่ายค้านจะนำไปต่อยอดอย่างไรนายพิธากล่าวว่า อีก 2-3 สัปดาห์จะมีงบประมาณเพิ่มเติมปี 67เข้า และงบปี 68 ก็ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ ก็ถือแสดงให้เห็นแล้วว่า บางทีพอเราจะทำตามนโยบายเรือธงของตัวเอง จนไปเบียดบังงบประมาณต่างๆ ที่เป็นปัญหา เช่นยาเสพติดสิ่งแวดล้อม งบสาธารณสุข หลายครั้งรัฐบาลจะชอบบอกว่า การแจกเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติ สิงคโปร์ก็แจก แต่สิงคโปร์ม่ได้มีปัญหาเรื่องความพร้อมทางการคลังเหมือนไทย ก็อยากให้คิดให้ดี เพราะเห็นว่ากลับไปกลับมาหลายครั้ง ตอนนี้ก็ไม่ใช้เงินธ.ก.ส.แล้ว ตรงนี้งบประมาณมหาศาลถ้าใช้ไม่ดีจะกลายเป็นวิบัติมากกว่าวิกฤต

ชี้งบกลางบ่อยๆเสียวินัยการเงินการคลัง

ส่วนที่รัฐบาลตัดงบทำดิจิทัลวอลเล็ตในส่วนของธกส.ออกจะกระทบกับผู้ใช้สิทธิ์หรือไม่นายพิธากล่าวว่า เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่งบในการใช้จะไปอยู่ที่งบกลาง คำถามคือ งบประมาณปกติที่จะต้องมีการวางแผน ต้องมีKPIรวมถึงรายละเอียดชัดเจนออกมาทำไมไม่ใช้ ทำไมต้องไปกองอยู่ที่งบกลางซึ่งงบกลางก็มีประโยชน์ใยการนำไปใช้แบบฉับพลัน ฉุกเฉิน แต่ทำบ่อยๆมันเสียนิสัย เสียวินัยการคลัง

เมื่อถามว่าประเมินการตอบกระทู้สุดนายกรัฐมนตรีรอบนี้ไว้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ให้ประชาชนประเมินเพราะตนมีส่วนได้ส่วนเสียเป็นคนที่อยู่ในพรรคเดียวกันก็ขอเชิญชวนทุกคนให้ประเมินแล้วกัน

แจงแรงค้านที่ไร้อนาคตปัดโยงฝ่ายค้าน

ต่อมา ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงกรณีชี้แจงในที่ประชุมสภาฯที่ระบุว่า”แรงค้านที่ไร้อนาคต” มีความหมายหรือไม่ว่า รัฐบาลภายใต้การนำของตนก็วิ่งสู้เพื่ออนาคต และพรรคร่วมที่มาทำงานกับรัฐบาลก็วิ่งเพื่อปัจจุบัน ที่ดีกว่าของประชาชน และก็ต้องสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต

เมื่อถามย้ำว่า มีการตีความว่าหมายถึงฝ่ายค้านที่ไร้อนาคตหรือไม่ นายกฯยืนยันว่า ไม่มีการตีความอะไรทั้งสิ้นและไม่มีความหมายลึกซึ้งอะไร แค่พูดจากใจทั้งนั้น

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่าการตอบคำถามของนายกฯ ในสภายังไม่มีความชัดเจนนั้น นายกฯไม่ตอบ ก่อนจะหันมายิ้ม ซึ่งก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ได้เดินย้อนกลับมาตอบคำถามนี้อีกครั้งว่า “เศรษฐกิจของประเทศเป็นเรื่องใหญ่ ต้องครอบคลุมหลายมิติ หลายเรื่องไม่สามารถตอบได้ด้วย Yes หรือ No ต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจน ปัญหาที่สะสมมาก็ต้องแก้ในหลายมิติ ขอให้ค่อยๆ ดูไป ยืนยันว่ามุ่งมั่นและรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายค้าน อะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะนำไปปฏิบัติและแก้ไข”

เผย15กค.นัดดินเนอร์โฟร์ซีซั่นส์

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรณีวันที่15ก.ค.นี้จะมีการกินข้าวกระชับมิตรพรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคพลังประชารัฐเป็นเจ้าภาพว่าเข้าใจว่าใช่วันที่ 15 ก.ค.นี้จะมีการทานข้าวร่วมกันแต่ไม่ทราบว่าที่ไหนต้องถามพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)

ระหว่างนี้นายกฯได้หันไปถามทีมงานว่าใช้สถานที่ไหนและได้มีการแจ้งมาหรือยังซึ่งทีมงานได้ตอบว่าที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นายกฯจึงหันมาตอบสื่อมวลชนว่าโฟร์ซีซั่นส์ สถานที่ริมน้ำบรรยากาศดี เมื่อถามต่อว่านายกฯจะมีอะไรพิเศษวันนั้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าไม่มี อยากกินอาหารอร่อยๆ

ส่วนการที่ตั้งรัฐบาลบริหารจะครบปีอยากจะมีอะไรพูดเป็นพิเศษหรือไม่นายเศรษฐากล่าวว่าไม่มี เพราะตนได้พูดคุยกับทุกท่านอยู่แล้วและยังพบปะอย่างไม่เป็นทางการอยู่แล้วกับหลายๆคนเช่นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยภูมิใจร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม สส.นครสีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ

อยากให้‘ลุงป้อม’ร่วมงาน-รับคำแนะนำ

เมื่อถามต่อว่าในส่วนของพล.อ.ประวิตรไม่เคยมาร่วมเลยสักครั้งเดียวจะทำอย่างไรเพื่อให้ พล.อ. ประวิตรมาร่วม นายเศรษฐา อมยิ้มพร้อมกล่างว่า“ผมคงทำอะไรไม่ได้ แต่ผมก็อยากให้ท่านมาร่วม อย่างที่ผมเรียนท่านเป็นอดีตรองนายกฯหลายปีและเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก คำพูดคำแนะนำต่างๆของท่านผมก็อยากจะได้ยิน เพื่อน้อมไปปฏิบัติได้”

เมื่อถามด้วยว่าขณะที่นายกฯกำลังเร่งแก้ปัญหาบ้านเมืองแต่การเมืองก็ร้อนแรงจะบริหารประเทศอย่างไร นายเศรษฐากล่าวว่า เป็นธรรมดาก็ต้องทำงานต่อไปและบริหารเรื่องการเมือง ถ้าเกิดมีคำถามก็จะมาตอบหากทำให้ใครไม่สบายใจ โดยถ้าเกิดตนเป็นคนผิด ตนก็จะมาอธิบายมาขอโทษยืนยันว่าความตั้งใจของรัฐบาลนี้ทำด้วยความสุจริต เอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักวิธีการทำงานจะถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างก็ต้องว่ากันไป

‘วันนอร์’แจ้งสภาเหลือ สส.499คน

ก่อนหน้านี้ ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนฯทำหน้าที่ประธาน หลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่แล้ว ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ประธานได้แจ้งที่ประชุมว่าว่ารับทราบคำสั่งศาลฎีกาว่าตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนางมุกดาวรรณ เลื่องศรีนิล สส.นครศรีธรรมราช เขต 8 พรรคภูมิใจไทย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา226 ประกอบพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มาตรา138และมาตรา139 ศาลฎีกาได้มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยเมื่อวันที่ 5 ก.ค.2567 จึงมีผลให้นางมุกดาวรรณ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาว่าไม่ได้กระทบความผิด ตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส.จึงทำให้สส.ในสภาฯ เท่าที่มีอยู่ มีจำนวน 499คน กึ่งหนึ่งคือ 250คน