‘พิมพ์ภัทรา’ตอบกระทู้สด‘สส.ก้าวไกล’ แจงแผนรับมือปัญหาจัดการกากอุตสาหกรรม‘วินโพรเสส’ ยันทำเต็มที่ ไม่ได้ประวิงเวลาของบกลาง พร้อมเรียกประชุมผู้บริหาร สั่งการปลัดอุตฯ-อธิบดีกรมโรงงานฯทำข้อมูลให้ชัดเจน ก่อนนำเสนอ ครม. เพราะนายกฯ ห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนมาก
18 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ถามนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องปัญหากากอุตสาหกรรม โดยนางสาวพิมพ์ภัทรา มาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง
นางสาวพิมพ์ภัทรา ได้ไล่เลียงไทม์ไลน์ของการจัดการกรณีเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท วิน โพรเสส จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการให้บริษัทวิน โพรเสส จัดตั้งโรงงานเมื่อปี 2560 และในปีถัดมาคือปี 2561 พบว่าการประกอบกิจการมีปัญหา จึงตั้งคณะทำงานไตรภาคีในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาและปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.โรงงาน ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาและเร่งรัดการบังคับใช้กฎหมาย จนเข้าสู่กระบวนการทางศาลในปี 2564 และมีคำพิพากษาให้บริษัทมีความผิดตาม พ.ร.บ. วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
ต่อมาในปี 2567 ตนได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามความคืบหน้าการรายงานเหตุฉุกเฉิน โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดหาทรัพยากร งบประมาณเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชน กระทั่งมาเกิดเหตุเพลิงไหม้พื้นที่ในบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้และผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเร่งเยียวยา ช่วยเหลือประชาชนโดยรอบ โดยท่านนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 27 เมษายน และกำชับให้แก้ปัญหาโดยเร็ว และไม่เฉพาะที่บริษัทวินโพรเสส เท่านั้น แต่ท่านได้กำชับให้ตรวจสอบโรงงานที่มีความเสี่ยงทั่วประเทศ
นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวว่า สำหรับการกำจัดของเสียภายใต้คำสั่งศาล เราได้ใช้เงิน 4.9 ล้านบาท เพื่อทำการว่าจ้างผู้รับดำเนินการที่มีความสามารถในการกำจัดบำบัดของเสียที่เป็นวัตถุอันตรายอย่างเร่งด่วน โดยศาลจังหวัดระยอง พิเคราะห์แล้วเห็นควรโอนเงินให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อดำเนินการจ้างเหมาบริการกำจัดบำบัดของเสียอันตรายตามแผนการบำบัดของเสียของบริษัท วินโพรเสส ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมแถลงต่อศาล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเบิกจ่ายเงิน นอกจากนี้ยังได้เสนอของบประมาณเพื่อจัดการของเสียที่ถูกลักลอบทิ้งและจัดการไม่ถูกต้องโดยเสนอขอไป 90 ล้านบาท และได้รับความเห็นชอบมาแค่ 32 ล้านบาท ซึ่งยังต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณางบประมาณต่อไป
ส่วนการบริหารจัดการน้ำเสียทั้งสองบ่อ โดยมีการเสริมคันดินเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ต้องทำควบคู่กันไปกับการจัดการของเสียด้วย เพื่อลดปัญหาการปนเปื้อนไปยังบ่อน้ำได้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด นายก อบจ. นายก อบต.บางบุตร ที่ได้ลงพื้นที่สร้างความเข้าใจให้ชาวบ้านในชุมชนรับทราบ เพื่อคลายความกังวล
ส่วนการขนย้ายอลูมิเนียมดอสที่ไม่สามารถขนย้ายออกไปนอกพื้นที่ได้เนื่องจากถูกคัดค้าน ก็ได้นำมาใส่ถุงบิ๊กแบ็กไว้อย่างปลอดภัย เพื่อไม่ให้อ่อนไหวต่อการเกิดเหตุอีก อย่างไรก็ตาม ตัวอลูมิเนียมดอสก็ไม่ใช่ต้นเหตุทั้งหมด เพราะมีปริมาณของเสียถึง 33,000 ตัน ประกอบด้วยสารเคมี 9 รายการ ซึ่งทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้เร่งหาข้อมูลและคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในรวบรวมพอสมควร
รมว.อุตสาหกรรม ยังกล่าวถึง แนวทางการจัดการของบกลาง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ประวิงเวลา แต่ต้องตรวจสอบปริมาณของเสียที่ชัดเจน โดยตลอดระยะเวลา 2 เดือน ตนได้เรียกประชุมผู้บริหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสอบถามถึงแผนการดำเนินงานและกำชับให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และให้มีการปรับปรุงรายละเอียดให้ชัดเจน ก่อนนำเสนอของบกลางต่อ ครม. เพราะนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและสอบถามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนและสิ่งแวดล้อม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี