อ้างครม.-กฤษฎีกา-สภาพัฒน์ทำถูกก.ม.
‘ภท.’หนุนเงินดิจิทัล
ย้ำหลักการพรรคร่วมรัฐบาล
ต้องยึดผลประโยชน์ของปชช.
คปท.ไม่เลิกม็อบ/ยื่นอุทธรณ์สู้
‘สกลธี’ทิ้งลุงป้อมไขก๊อกพปชร.
เปิดเสียงโหวตรับร่างงบ 1.22 ล้านบาทหนุนกู้เงินอุ้มดิจิทัล อึ้ง! งูเห่าพรึ่บ“ฝ่ายค้าน” หายไป 21 เสียง รัฐบาลหาย23 เสียงทั้งรมต.-บิ๊กเนม“อนุทิน”หนุนดิจิทัล วอลเล็ต อ้าง“ครม.-กฤษฎีกา-สภาพัฒน์” ยันทำถูกกฎหมายใช้เสียงในสภา
ตามหลักการ พรรคร่วมฯต้องหนุนรับผิดชอบต่อกันยึดสิ่งที่เป็นประโยชน์กับปชช.’เสี่ยหนู’แง้ม’วัน ‘ได้พรรคสังกัดแล้ว ยันไม่ใช่‘ภูมิใจไทย’ชี้จะมาต้องโทรมาบอกตัดพ้อกทม.สู้ไม่ได้ ปชช.ไม่ให้โอกาส ด้าน‘วัน อยู่บำรุง’รับยังไม่มีพรรคไหนติดต่อมาไม่หยุดเล่นการเมือง ยันลุยทำงานการเมืองรับใช้ปชช.ต่อไป ‘สกลธี’ทิ้ง‘ลุงป้อม’!ลาออกพ้นพปชร.ไม่ลาขาดงานการเมือง ขอกลับไปทบทวนการทำงานการเมืองในแนวทางใหม่ ขณะที่ตร.ขอคืนพื้นที่ คปท.สู้ไม่ถอย!ยืนกรานไม่เลิกม็อบ เตรียมอุทธรณ์ชุมนุมหน้าทำเนียบต่อชี้ศาลไม่รับอุทธรณ์ เล็งหาที่ชุมนุมใหม่’ก๊วน 3นิ้ว’บุกสภาฯจี้กมธ.ต้องเหมาเข่งนิรโทษม.112 ขู่ฟ่ออย่าบีบให้ลงถนน‘ภูมิใจไทย’ย้ำจุดยืน ค้านนิรโทษฯเหมาเข่งม.112 ยึดมั่นจงรักภักดีต่อสถาบันฯ
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่าสำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นพิเศษเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567งงเงิน 1.22แสนล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เป็นผู้เสนอเพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ปรากฎว่าในการลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวในวาระแรก มีผู้เข้าร่วมประชุม 461 เสียง ผลลงมติเห็นด้วย 297 เสียง ไม่เห็นด้วย 164 เสียง งดออกเสียง และไม่ลงคะแนนไม่มี
งูเห่าพรึ่บโหวตหนุนอุ้มดิจิทัล
จากการตรวจสอบพบว่าเสียงของพรรคฝ่ายค้านที่หายไป คือ พรรคก้าวไกล มีผู้ที่ไม่ได้กดบัตรลงคะแนน 4 คน ประกอบด้วย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงราย และนายปรีดี เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้ร่วมโหวต 10 คน เช่น นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา และเลขาธิการพรรค นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าไฮไลท์ที่สำคัญพบว่ามีสส.ฝ่ายค้านโหวตสวนมติฝ่ายค้านได้แก่ 3 สส.ของพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.)ก่อนหน้านี้มีพฤติการณ์โหวตลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง มีข่าวที่จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วยนางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานีและนายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส. อุดรธานีรวมทั้งยังมีนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน นายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และนายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคใหม่ ที่โหวตเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ของรัฐบาล
รบ.หาย 23 เสียงทั้งรมต.-สส.ตัวบิ๊ก
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล พบว่าพรรคเพื่อไทย มี สส.7คน ไม่ได้โหวต เช่น นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ นายวันนิวัติ สมบูรณ์ สส.ขอนแก่น น.ส.วิลดา อินฉัตร สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้โหวต 2 คน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล สส.พระนครศรีอยุธยา รมช.ศึกษาธิการ
สำหรับพรรคพลังประชารัฐ มีผู้ไม่ได้มาร่วมโหวต 6 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค นางขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี นายนเรศ ธำรงทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ และนายทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 คน คือ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี และนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สส.พัทลุง พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน คือ นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม พรรคประชาชาติ 1 คน คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พรรคเสรีรวมไทย 1 คน ได้แก่ นายมังกร ยนต์ตระกูล
นอกจากนี้ ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯทั้ง 3 คน ก็ไม่ได้ร่วมโหวตด้วย ประกอบไปด้วย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สส. พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคเป็นธรรม ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง
‘อนุทิน’ย้ำท่าทีหนุนดิจิทัลวอลเล็ต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์กรณีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี2567เพื่อมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าอาจขัดกฎหมาย พรรคภูมิใจไทยมีท่าทีอย่างไรว่าเท่าที่ได้รับฟังการชี้แจงทั้งในคณะกรรมการดิจิทัลฯในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรวมถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็ยืนว่าถูกกฎหมาย
ชี้รัฐบาลผสมต้องหนุนตามหลักการ
ส่วนที่น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลระบุว่าโครงการนี้เสี่ยงผิดกฎหมายหลายข้อ การที่พรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยนายอนุทิน กล่าวว่าร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นกฎหมายและผ่านสภาโดยเสียงข้างมาก ถือเป็นความรับผิดชอบต่อกันเมื่อเป็นรัฐบาลผสมก็ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าขัดกันไป ขัดกันมาก็เป็นรัฐบาลไม่ได้
เมื่อถามว่าการที่พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนโยบายของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นพรรคเพื่อไทยก็ควรสนับสนุนนโยบายของพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าโดยหลักการก็ควรเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเต็มที่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่า“ก็ดูจากเสียงโหวตในสภาฯมีภูมิใจไทยหรือไม่ เสียงสนับสนุน 297 เสียงผ่านฉลุย ในจำนวนนี้มีภูมิใจไทยแน่นอน ดังนั้นก็เป็นคำตอบอยู่แล้ว”
ยึดสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน
เมื่อถามว่า นายจุรินทร์ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่าพรรคร่วมรัฐบาลยอมให้รัฐบาลนำงบประมาณทุกอย่างไปใช้ในโครงการดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่ใช่ยอมหรือไม่ยอม แต่มันเป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราต้องร่วมกันสนับสนุน มันต้องมีหลักตรงนี้ก่อน ไม่เช่นนั้นคงเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า จะกระทบต่อโครงการอื่นๆของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นายจุรินทร์ กล่าวว่า การพิจารณาเมื่อวันที่ 17 ก.ค. เป็นงบประมาณเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนของงบประมาณปี67 ปกติมันผ่านการพิจารณาไปนานแล้ว และพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงข้างมากที่ให้ผ่าน ดังนั้นก็มีความชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขและรับทราบรายละเอียดต่างๆในงบประมาณปี 67 เรียบร้อยแล้วคงไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรคในการบริหารจัดการ
เผย‘วัน’มีพรรคแล้ว-ให้ถามเจ้าตัว
เมื่อถามถึงที่นายวัน อยู่บำรุง อดีตส.ส.กทม. ระบุว่านายอนุทินเป็นหนึ่งในบุคคลที่รักและเคารพว่า
นายอนุทินอุทานว่า“โอ้โห้ ผมรู้จักกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงและนายวัน มานาน หากเปรียบแล้วก็เหมือนญาติกัน เป็นห่วงเป็นใยกัน แม้จะมีหยิกนิดหยิกหน่อย ตอดเล็กตอดน้อยก็ถือเป็นสีสัน แต่เจอกันเมื่อไหร่ก็จะวิ่งอ้าแขนแบบสโลว์โมชั่นเข้ามาเป็นสุดที่รักกันทั้งนั้น”
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย มีโอกาสจะรับนายวัน เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมได้ข่าวว่า นายวันได้ไปสมัครสมาชิกอีกพรรคหนึ่งแล้ว แต่ไม่รู้พรรคใดให้ไปถามเจ้าตัวเอง เพราะหากนายวันยังไม่พูด ผมก็จะไปพูดไม่ได้”
ตัดพ้อกทม.สู้ไม่ได้-ปชช.ไม่ให้โอกาส
นายอนุทิน ยอมรับว่าพรรคภูมิใจไทยในกรุงเทพฯไม่แข็งแรง ขออยู่เป็นบ้านนอกแบบนี้ดีกว่า ถึงแม้จะพยายามแจ้งเกิดในกรุงเทพฯแต่คนในกรุงเทพก็ยังไม่ให้โอกาสพรรคภูมิใจไทย ซึ่งผ่านมา 2-3 ครั้ง เราต้องรู้ตัวเอง
ส่วนรอบหน้าพรรคภูมิใจไทยจะไม่เล่นเวทีส.ส.ในเขตกรุงเทพหรือไม่นั้น ต้องดูก่อน เพราะการที่จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ไม่ใช่ว่าจะเป็นใครก็ได้ พรรคต้องมั่นใจก่อน แต่รู้สึกว่ากระแสหากในกรุงเทพฯไม่ค่อยมีเพราะเห็นจากโพลที่ผ่านมา“ที่ชื่อนายอนุทินไปอยู่บ๊วยตลอด เราต้องเจียมเนื้อเจียมตัว”
ชี้จะมา‘ภูมิใจไทย’ต้องโทรมาบอก
เมื่อถามว่าพรรคที่นายวันจะไปสังกัดอยู่เป็นหนึ่งในพรรคเล็กที่อยู่ภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทยตามที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯบอกใช่หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่าไม่รู้ เพราะตอนลาออกก็ไม่ได้บอกตนแต่เคยโทรมาหาและบอกว่านายวันอาจจะได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย ตนจะโอเคหรือไม่ตนก็ได้ตอบกลับนายวันว่าโอเคอยู่แล้วเพราะนายวันเป็นบุคคลที่มีความสามารถ และด้วยความสัมพันธ์และความเคารพที่ตนมีกับร.ต.อ.เฉลิมอีกทั้งนายวันก็เคยเป็นเลขานุการของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อของตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า หากนายวัน จะมาเป็นสมาชิกพรรคก็ต้องโทรมาบอกตน แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิด เรื่องยังไม่เกิด
‘วัน’ยันยังไม่มีพรรคใดติดต่อ
ด้านนายวัน อยู่บำรุง อดีตสส.กทม.พรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยระบุว่าได้มีพรรคการเมืองสังกัดแล้วว่าตอนนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองไหนติดต่อเข้ามา แต่ยืนยันไม่หยุดการเมืองแน่นอน เพราะตระกูล‘อยู่บำรุง’เป็นตระกูลการเมือง ที่ทำงานรับใช้ประชาชนมาอย่างยาวนานตอนนี้ตนก็เหมือน นักการเมืองฟรีเอเยนต์ ยังไม่รีบร้อนอะไร เพราะการเมืองกว่าจะมีการเลือกตั้งอีกนานก็คอยดูไปก่อน
ลั่นทำงานการเมืองรับใช้ปชช.ต่อไป
“ตอนนี้ยังทำงานการเมืองรับใช้ประชาชนเหมือนเดิม มีประชาชนร้องทุกข์เข้ามาทุกวันอะไรประสานช่วยเหลือได้ก็ยังช่วยอยู่เหมือนเดิมรวมถึงยังมีครอบครัว ใจถึง..พึ่งได้ ที่รวมตัวกันสร้างความดีช่วยเหลือประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่มีการรวมตัวกันแทบทุกจังหวัด เราหยุดไปช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2566 ที่เขาห้ามขยับ แต่ตอนนี้ก็กลับมาทำงานช่วยเหลือประชาชนเหมือนเดิมแล้ว’นายวัน กล่าวย้ำ
‘สกลธี’ทิ้ง‘ลุงป้อม’ลาออกพ้นพปชร.
ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสกลธีภัททิยกุล สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ได้ส่งเอกสารลาออกจากสมาชิกพรรคพปชร.โดยยื่นต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรคพปชร.เผยแพร่ทางกลุ่มไลน์สื่อมวลชนโดยระบุสาเหตุของการลาออกว่ามีภารกิจส่วนตัวหลายประการจึงขอลาออกจากสมาชิกพรรคและตำแหน่งอื่นในพรรค ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยนายสกลธี ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า“ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ได้ให้โอกาสและอิสระผมในการทำงานเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มันเป็นประสบการณ์ที่มีค่ากับผมมากๆ ครับที่ได้รับผิดชอบหน้างานที่สำคัญและได้วางแผนและกำหนดนโยบายการเลือกตั้งทั่วประเทศกับพรรคแต่หลังจากเลือกตั้งปี 2566 ต่อเนื่องมาจนได้มีรัฐบาลใหม่บริหารประเทศ บริบทของการเมืองทั้งประเทศ ได้เปลี่ยนไปเยอะมากๆ”
“และผมคิดว่าคงถึงเวลาที่เหมาะสมของผมแล้วเช่นกัน ที่จะต้องทบทวนและทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงบริบททางการเมืองนี้ รวมถึงแนวทางไปสู่การเมืองไทยแบบที่ผมอยากเห็นในอนาคตดังนั้นตนจึงได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค และตำแหน่งต่างๆ ในพรรคตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อที่จะได้ออกมาทบทวนและศึกษาเพิ่มเติมถึงแนวทางใหม่ๆ ในการทำงานการเมืองต่อไป หวังว่าจะได้มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่รักต่อไป”
ทั้งนี้ สำหรับนายสกลธี ถือเป็นบุคคลในยุคร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพื่อลงเลือกตั้งปี 2562เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่ากทม.สมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เคยลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ครั้งที่ผ่านมาในนามอิสระและช่วยงานพรรคในฐานะกรรมการบริหารพรรคมาตลอดจนถึงปัจจุบัน ก่อนที่จะลาออก
ตร.เจรจาคปท.ขอคืนพื้นที่-รื้อถอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้การ บชน.1ได้เข้าเจรจากับกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อที่จะขอคืนพื้นที่ผิวจราจร หลังศาลแพ่งมีคำสั่งเมื่อวันที่ 17ก.ค. ให้ยุติการชุมนุม หลังศาลมีคำสั่งภายใน 7 วันโดยวันนี้ ผู้กำกับการ สน.นางเลิ้งพร้อมเจ้าที่บังคับคดีจากศาลจะนำหมายศาล พร้อมติดป้ายประกาศห้ามใช้พื้นที่ถึงนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขาแกนนำ คปท.เพื่อให้รื้อถอนในวันนี้
คปท.สู้ไม่ถอย!เตรียมอุทธรณ์ชุมนุมต่อ
และในเวลา13.30 น เจ้าหน้าที่บังคับคดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมายังพื้นที่ชุมนุมเพื่อติดคำสั่งศาล แต่การชุมนุมยังคงเดินหน้าไปปกติ ไม่มีการยุติการชุมนุมแต่อย่างใด
โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำคปท.ให้สัมภาษณ์ว่าคำสั่งศาลที่ให้ยุติการชุมนุมใน 7วันวันนี้(18ก.ค.)
ทีมกฎหมายจะไปคัดคำร้องฉบับเต็มเพื่อขออุทธรณ์คำสั่งศาลเพราะมองว่าผู้ร้องยื่นคำร้องไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงเช่นที่ระบุว่ามีเสียงรบกวนการเรียนการสอน เราไม่เคยเปิดเวทีกลางวัน จะเปิดเวทีเฉพาะช่วงเย็นและจะขอให้ศาลมีคำสั่ง คุ้มครองการชุมนุมชั่วคราวรวมถึงขอให้ศาลแพ่งยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความคำว่าชุมนุมนานเกินสมควร ซึ่งไม่มีในรัฐธรรมนูญ
ชี้ศาลไม่รับอุทธรณ์-เล็งหาที่ชุมนุมใหม่
นายพิชิตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีการชุมนุมของกลุ่มอื่นที่ยืดเยื้อกว่ากลุ่มของตน โดยการยื่นอุทธรณ์คำสั่งโดยเร็วที่สุด อาจเป็นวันที่ 19 ก.ค. และไม่ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างไร เราพร้อมปฏิบัติตามแต่คำสั่งของศาล ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐดังนั้นหากศาลไม่รับอุทธรณ์ พวกตนอาจย้ายสถานที่ชุมนุม เพราะศาลไม่ได้ห้ามการชุมนุม ยืนยันพวกเราจะยังคงชุมนุมต่อเพื่อให้มีการตรวจสอบกรณีศาลสั่งจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่ยังไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว จึงขอเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้อง และจะตรวจสอบในประเด็นกฎหมายนิรโทษกรรม ที่เหมารวมคดีมาตรา 112 ไปด้วย
3นิ้วบุกสภาจี้กมธ.เหมาเข่งนิรโทษม.112
ที่รัฐสภาเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนนำโดยน.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญหรือทนายเมย์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพร้อมตัวแทนประชาชนผู้ถูกดำเนินคดีความผิดตามมาตรา112จำนวน 12คนอาทิน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์หรือตะวัน น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผลหรือ‘มายด์เป็นต้น ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อสนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมประชาชนผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง โดยมีน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โฆษกคณะกมธ.เป็นผู้รับ
โดย น.ส.พูนสุข กล่าวว่าก่อนหน้านี้ พวกเราเคยมายื่นร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนต่อสภาแล้ว และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาขณะที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งกมธ.นิรโทษกรรมฯแต่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ6เดือนแล้วซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายที่กมธ.นิรโทษกรรมฯจะมีผลของการศึกษาพิจารณาว่าจะมีแนวทางอย่างไร เรามีข้อกังวลว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.นิรโทษกรรมฯมีมติว่าจะไม่มีมติที่จะรวมเอาความผิดในคดีมาตรา 112และมาตรา 110 แต่ให้เป็นความเห็นของกมธ.นิรโทษกรรมฯแต่ละคน
จี้กมธ.นิโทษฯรับฟัง5ข้อเรียกร้อง
จากนั้นน.ส.ณัฎฐธิดา มีวังปลา ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112กล่าวถึงผลเสียของมาตรา112ต่อประชาชนและนิสิตนักศึกษาว่า เป็นกฎหมายที่ห้ามหมิ่นประมาทแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันฯซึ่งมีข้อกังวล 5 ประเด็น ดังนี้ 1.การตีความกฎหมายมาตรา 112 มาถูกวิจารณ์ว่ากว้างขวางและครอบคลุมเกินไปส่งผลให้การแสดงออก ที่ไม่ได้มีเจตนาหมิ่นประมาท กลับถูกดำเนินคดีไปด้วย 2.การใช้กฎหมายมาตรา 112 ในทางการเมือง ถูกวิจารณ์ว่าถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือปิดปากฝ่ายตรงข้าม หรือผู้มีความเห็นต่างกับรัฐ 3.การบังคับใช้กฎหมายมาตรา 112 บ่อยครั้งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการใช้เสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพของสื่อมวลชน 4.ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสากล และมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล 5.มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ว่าการใช้มาตรา 112 ขาดความโปร่งใสและเป็นธรรม
‘มายด์’ขู่ไม่รวบ-เท่ากับบีบต้องลงถนน
ขณะที่น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่าขอยืนยันอีกครั้งว่าการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ จำเป็นต้องรวมมาตรา112เข้าไปด้วย เพราะหากไม่รวม ปัญหาความขัดแย้งทางสังคมที่รัฐบาลอยากให้จบลงก็จะไม่มีวันจบ ความขัดแย้งจะไม่ได้จบลงเพียงเพราะมีการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่ต้องให้ประชาชนมีพื้นที่ในการพูดคุย และใช้เสรีภาพได้อย่างเสมอหน้ากัน เรื่องมาตรา 112 เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน หากรัฐบาลและคณะกรรมาธิการฯ ไม่เหลือพื้นที่ในการพูดคุยเรื่องนี้เลย เท่ากับว่าผลักดันเรื่องนี้ให้ต้องไปคุยกันบนถนน และผลักภาระให้พี่น้องประชาชนไปโดยปริยาย ในเมื่อตอนนี้เราได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว ก็ควรจริงจังกับการคืนความปกติให้เรื่องนี้เสียที
ภท.ย้ำค้านนิรโทษเหมาเข่งม.112
เวลา15.00น.ที่รัฐสภา นายประดิษฐ์ สังขจาย สส.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย แถลงจุดยืนของพรรคต่อการนิรโทษกรรมว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยที่จะตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้กับผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 และมาตรา 112 เกี่ยวกับความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวถือเป็นการย้ำจุดยืนตามข้อบังคับพรรคภูมิใจไทยที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
“พรรคภูมิใจไทยยังคงยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะนิรโทษกรรมต่อผู้กระทำความผิดตามมาตราดังกล่าว” นายประดิษฐ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี