ท้ารบบ้านใหญ่สีน้ำเงิน
สว.พันธุ์ใหม่ขอชิงเก้าอี้ประธาน
‘นันทนา’จี้กกต.สอบ‘หมอเกศ’
“เทวฤทธิ์” ย้ำ “สว.พันธุ์ใหม่” ส่งชิงทุกเก้าอี้ “ประธานสภาสูง” เผยเคาะรายชื่อก่อน 23 กรกฎาคมนี้ยอมรับเสียงโหวตอาจสู้ไม่ได้แต่ขอส่งเสียงถึงคนกลุ่มใหญ่ ด้าน“นันทนา” ลั่นหาก กกต. มีข้อมูล“หมอเกศ” แล้วไม่ดำเนินการ เจอ “สว.ใหม่” จัดการแน่
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. กลุ่มที่ 18 สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม ในฐานะกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการส่งตัวแทนกลุ่มชิงตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภา ว่า ทางทางกลุ่มได้ข้อสรุปว่าจะส่งคนลงในทุกตำแหน่ง แต่ว่าชื่อคนหรือจะส่งใครนั้นยังไม่ได้ข้อสรุปและคงจะได้หารือกันก่อนจะถึงวันที่ 23 ก.ค.นี้ ในเรื่องตัวบุคคลคงต้องมีการประสานและพูดคุยกันก่อนว่าจะส่งใคร แต่ยืนยันโดยหลักการว่าส่งทุกตำแหน่ง ทั้งประธานวุฒสภา และรองประธานสภาทั้ง 2 ตำแหน่ง
“การที่เราบอกว่าจะส่งคนนั้นคนนี้ แต่จากสภาพการณ์ ความเป็นจริงในเชิงปริมาณหรือจำนวนเสียงโหวตมันสู้เขาไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเราก็ยันในหลักการ คือสื่อสารไปยังกลุ่มส่วนใหญ่ว่าขอให้พื้นที่ทำงานของคนส่วนน้อยด้วย แต่หลักการในการการันตีนั้น สำหรับผมเป็นใครก็ได้ แต่ขอให้เขายืนยันว่าจะไม่ตัดทิ้ง คืออย่างน้อยบรรจุวาระของคนที่เป็นเสียงส่วนน้อยในการทำงานข้างหน้าได้ เราหวังอย่างนั้น แน่นอนว่าในการส่งคนลงชิง ในแง่ของจำนวนคนโหวตเราไม่สามารถที่จะไปเป็นคนกำหนดเกมได้เลย ดังนั้นสิ่งที่เราส่งไปอย่างน้อยก็คือเป็นการบอกกล่าวกับเพื่อนสมาชิกด้วยกันหรือแม้กระทั่งคนที่จะดำรงตำแหน่งจริงๆ ว่าโครงการทางการเมืองที่จะทำให้วุฒิสภาของเราเป็นสภาที่เป็นพื้นที่ของการรับฟังเสียงทุกเสียงที่ไม่ปัดตกไป มันควรจะทำอย่างไร เพื่อให้เป็นผลดีกับประชาชน ผมคิดว่าอันนี้คือแนวทางที่เราจะสื่อสารไป หรือส่งคนลงก็เพื่อสื่อสารในพื้นที่ตรงนั้น”นายเทวฤทธิ์ กล่าว
ต้องเปิดพื้นที่ให้ส่วนรวม
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับกลุ่มอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ 36 สว.กลุ่มอิสระ ได้นัดหารือกันที่โรงแรมย่านรัชดา เพื่อผลักดันนายบุญส่ง น้อยโสภณ สว.ชิงเก้าอี้รองประธานวุฒิสภา นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการพูดคุยนั้น ก็มีการพูดคุยกันเพื่อหยั่งแนวหรือไอเดียกันอยู่ แต่ว่าไม่ได้มีเรื่องของการพูดคุยกันว่าจะต้องเลือกคนนั้นคนนี้ หลักการของเราคืออยากเรียกร้องกับกลุ่มคนที่เป็นกลุ่มใหญ่ว่าอย่างน้อยก็ให้พื้นที่กับของการทำงานของคนที่อาจจะเป็นส่วนน้อยด้วย เป็นแนวทางของเราที่ทำได้เท่านี้ เพราะในเรื่องจำนวนเราก็คงไปสู้กับกลุ่มใหญ่เขาไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นการคุยกันในเชิงของตำแหน่งหรือตัวบุคคลเราก็เพียงแค่หวังว่ามันจะผลักดันให้วุฒิสภาเป็นพื้นที่ๆ สามารถรองรับเสียงของคนกลุ่มน้อยได้ด้วย แม้ในเรื่องต่างๆ ต้องฟังเสียงข้างมากในการตัดสินมติ แต่จำเป็นที่ต้องเคารพเสียงส่วนน้อยด้วย เป็นแนวทางที่เราส่งสารไปยังทุกๆ กลุ่ม
เมื่อถามว่าขณะนี้กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ มีสมาชิกจำนวนเท่าไร นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า กลุ่มของเราถ้าตามจำนวนตัวเลขที่เปิดเผยต่อสาธารณะก็คือ 30 คน แต่เข้าใจว่าภาวะตอนนี้มันก็มีคนที่เข้มข้น และคนที่อาจจะยังไม่ได้ตัดสินใจ หรือมาอยู่เพื่อดูแนวทาง เมื่อถามว่ามีสมาชิกทับซ้อนกับกลุ่มที่สนับสนุนนายบุญส่งที่มีการนัดหารือกันก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือไม่ นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า ใช่ แต่ทับซ้อนหลักหน่วย และอยู่ที่ว่าเขาเห็นว่าแนวทางไหนมันตรงใจเขามากกว่ากัน
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ดูเหมือนเวลานี้มีการล็อกตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภาไว้แล้ว
ต้องแสดงจุดยืนให้ชัด
นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า ตามหลักการควรเลือกตามจุดยืนว่าเขาแสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่าอย่างไร จะทำให้วุฒิสภาแตกต่างจากสภาก่อนหน้านี้อย่างไร หรือทำให้วุฒิสภาเป็นพื้นที่ของการรับฟังทุกเสียงของสมาชิกหรือภาคประชาชนข้างนอกจริงๆ ตนคิดว่าถ้าเขาคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อสาธารณะก็ควรจะเลือกตามสิ่งที่เขาแสดงวิสัยทัศน์ เป็นการพูดในเชิงอุดมคติ แต่ในข้อเท็จจริงก็คงจะโน้มเอียงไปในทางคนที่มีกลุ่มก้อน แต่ตนก็ยังมองโลกในแง่ดีว่า แม้ภาพมาแบบนั้น แต่เขายังไม่ได้ลองปฏิบัติงาน จึงต้องรอดูการปฏิบัติงานของเขาก่อน ถึงแม้จะมาจากกลุ่มบ้านใหญ่หรือไม่ ซึ่งบ้านใหญ่ก็ยังมีประชาชนที่แวดล้อมเขา และประชาชนก็อาจจะเรียกร้องกับเขามากกว่า สว.ที่มาจากทหารในชุดก่อนหน้านี้
ตอบโจทก์ตอบสังคมให้ได้
เมื่อถามว่าส่วนตัวอยากทำงานหรืออยู่ในกรรมาธิการชุดใด นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า ด้วยความที่เรามาจากภาคประชาสังคม กรรมาธิการที่จะตอบโจทย์บทบาทของภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน ก็เล็งไว้ที่กรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งน่าจะเข้าใกล้ที่สุดในเรื่องการทำงานด้านภาคประชาสังคม และสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน จึงคิดว่าน่าจะใช้กลไกของกรรมาธิการฯ ชุดนี้ในการทำงาน
“นภดล”แบะท่ารองเชิงก่อน
นายนพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอตัวชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งหรือไม่ ขอเวลาคิดอีก1-2วัน ต้องรอดูจะมีเสียงสนับสนุนจากเพื่อนสว.มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีเสียงเพียงพอก็ยินดีทำหน้าที่ เพราะเคยเป็นสส.ทำหน้าที่ในสภาฯมา 4ปี คิดว่าสามารถทำหน้าที่ได้ แต่ถ้ามีเสียงไม่พอก็คงไม่ลง ขอรอดูสถานการณ์ใกล้ๆวันที่23 ก.ค.ที่จะเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาอีกที แล้วค่อยตัดสินใจ ถ้ามีแนวโน้มมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ ค่อยมาพิจารณาอีกครั้ง
“การรวมกลุ่มประชุมของกลุ่มสว.อิสระ เมื่อวันที่18ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการไปสร้างสัมพันธ์ ทำความรู้จักกัน การรวมกลุ่มกันเพื่อทำความรู้จักกันในการทำงานให้มีความราบรื่นเท่านั้น ไม่ได้ต้องการไปล็อบบี้ต่อรองตำแหน่ง ผมพร้อมพูดคุยกับทุกกลุ่ม เพื่อความสามัคคีการทำงาน เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน” นายนพดล กล่าว
ชม”บุญส่ง”เหมาะสม
ด้านนายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว. กล่าวถึงกรณีสว.กลุ่มอิสระ จะเจรจากับสว.สายสีน้ำเงิน ให้เสนอชื่อนายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่2 ว่า ชื่อเสียง ความรู้ความสามารถของนายบุญส่งมีความเหมาะสม แต่อาจไม่จำเป็นต้องมารับตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา คนที่2 สามารถไปนั่งเป็นประธานกรรมาธิการอื่น เช่น ประธานกมธ.กฎหมาย วุฒิสภา จะเหมาะสมกว่าหรือไม่ ซึ่งตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญชุดต่างๆในวุฒิสภา เชื่อว่าน่าจะมีการจัดสรรแบ่งโควตาไปตามสว.กลุ่มต่างๆตามความเหมาะสมมากกว่าตำแหน่งประธาน และรองประธานวุฒิสภา เพราะตำแหน่งหลักที่เป็นกลไกขับเคลื่อนการทำงานของวุฒิสภาคือ คณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ขณะที่ประธานและรองประธานวุฒิสภาจะมีบทบาทหลักเรื่องการดำเนินการประชุม และการประสานงานกับฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตามในส่วนตำแหน่งประธานกมธ.สามัญชุดต่างๆในรอบนี้คงต้องลดลงจาก 26คณะ เพราะสว.มีลดลงจาก 250คน เหลือ200คน สว.จะหารือกันอีกครั้งว่าจะลดลงเหลือกี่คณะ ส่วนความเคลื่อนไหวของสว.สายสีน้ำเงินขณะนี้ยังนิ่งอยู่ ไม่ทราบว่าจะเสนอใครเป็นประธานหรือรองประธานวุฒิสภา คงจะมีความชัดเจนช่วงใกล้วันที่ 23ก.ค. ที่จะประชุมวุฒิสภาเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภา
สว.พันธ์ใหม่ออกโรง
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะแกนนำกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ หรือกลุ่มอิสระ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวและเดินเกมให้สมาชิกมาสนับสนุนในการเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาในวันที่ 23 ก.ค.นี้ว่า ทางกลุ่มของเรารวมตัวกันแบบเดิมยังไม่ได้ไปรวมกับใคร เราเห็นแต่กลุ่มอื่นเขาไปพบปะกัน แต่กลุ่มของเรายังไม่ได้มีแนวทางที่จะไปรวบรวมใครมาร่วมกับเรา ทั้งนี้เราไม่รู้ว่าจะเดินสายไปหาเสียงกับใคร เพราะไม่มีใครแสดงตัวให้เราไปหาเสียงเลยเราจึงทำได้แค่สื่อสารผ่านสื่อมวลชน
เมื่อถามว่าหากเป็นเช่นนี้จะสู้กับคู่แข่งอย่างไร น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราก็คงจะใช้การแสดงวิสัยทัศน์ในที่ประชุมในฐานะที่เราส่งชิงประธานและรองประธานวุฒิสภา คนที่เป็นแคนดิเดตก็จะขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ ส่วนทางกลุ่มจะส่งใครชิงทั้งประธานและรองประธานวุฒิสภานั้นยังไม่ได้ตกผลึกกันเลยเพราะคืนนี้ยังมีประชุมกันอยู่
ต้องแสดงวิสัยทัศน์
“ส่วนตัวหากอยากลงชิงก็ต้องคุยกันในกลุ่มเพื่อดูความเหมาะสมความเป็นไปได้ แต่ดูจากผลโผลออกมาก็น่าสนใจ แต่โผลที่ออกมาก็มาจากคนที่ไม่ได้เลือก ส่วนคนที่มีสิทธิ์เลือกเราก็ไม่รู้ว่าเค้าอยู่ตรงไหนเพราะยังไม่เห็นเขาแสดงตัวเลยจึงไม่รู้ว่าจะไปหาเสียงกับเขาอย่างไรดังนั้นเราจึงต้องใช้วิธีการสื่อสารด้วยการแสดงวิสัยทัศน์และการแสดงวิสัยทัศน์ก็มีการถ่ายทอดสดจึงขอเชิญชวนให้ประชาชน มาฟังวิสัยทัศน์แม้จะลงมติไม่ได้ก็ตามแต่ก็ได้ทราบว่าใครมีวิสัยทัศน์อย่างไรซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ของวุฒิสภาดูโปร่งใสและยึดโยงกับประชาชน” น.ส.นันทนา กล่าว
เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าสว. จากกลุ่มสีน้ำเงินจะมาแรง ทางกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่จะแก้เกมอย่างไร น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราได้แต่สื่อสารกับประชาชนว่าเกมอันนี้ถ้าใช้วิธีการโหวตก็เหมือนกับเป็นการกินรวบ และวุฒิสภาก็จะกลับไปเหมือน กับสว.ชุดเดิม ที่มีกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่คุมเสียงส่วนใหญ่ไว้ เวลาโหวตก็ไปในทิศทางเดียวกันซึ่งตรงนี้ เราอยากให้ภาพลักษณ์ของวุฒิสภาชุดใหม่เป็นสภาของประชาชนฉะนั้นจึงอยากให้กลุ่มที่เขามีเสียงข้างมากกระจายสัดส่วนมายังกลุ่มสว. ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับบ้านใหญ่ ให้ได้รับสัดส่วนของการกระจายตำแหน่งต่างๆด้วย เพื่อที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของสว.ชุดใหม่ไม่ได้มีลักษณะแบบเดิมไม่ได้เหมือนกับสว.ชุดเก่าที่ลงมติเป็นก้อน เป็นกอบเป็นกำไปในทิศทางเดียวกัน 100 เปอร์เซนต์ ตนจึงอยากให้เห็นบรรยากาศของการร่วมไม้ร่วมมือประคับประคองกัน จึงอยากให้จัดสรรตำแหน่งต่างๆมาทางกลุ่มอิสระบ้าง
เมื่อถามว่าตอนนี้กลุ่มอิสระมีกี่คนแล้ว น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราก็ได้แต่ประมาณ เพราะกลุ่มบ้านใหญ่เขาก็ไม่ได้แสดงตัวออกมา ก็ได้แต่ประมาณว่าเขามี 120 -140 คน คือถ้าบ้านใหญ่เท่าไหร่ที่เหลือก็คืออิสระ
เมื่อถามว่าในกลุ่มอิสระนอกจาก น.ส.นันทนาแล้ว มีคนอื่นที่จะพอบอกได้หรือไม่ว่าเป็นใคร น.ส.นันทนา กล่าวว่า ก็ต้องมีแคนดิเดตลงเพราะเราประกาศแล้วว่าเราจะลงชิง ส่วนจะเป็นตนหรือใครลงชิงนั้นยังไม่ตกผลึก เพราะทางกลุ่มยังไม่มีมติออกมา
จี้กกต.พิจารณา”หมอเกศ”
น.ส.นันทนา ยังกล่าวกรณีของ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สว. ที่มีปัญหาอยู่และมีการเรียกร้องให้สว. ชุดใหม่ตรวจสอบในเรื่องนี้ว่า ขั้นต้นเราคงจะให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นผู้ดำเนินการก่อนเพราะยังอยู่ในกระบวนการที่กกต. เขาจะสอยได้แต่ถ้ากกต. ไม่ได้ขยับหรือไม่ได้ตอบรับกับเสียงของคนส่วนใหญ่ที่กำลังตรวจสอบกันอยู่ทางวุฒิสภาก็คงจะเข้าไปดำเนินการ
“โดยจะดูเรื่องของจริยธรรม แต่ต้องไม่ลืมว่า หมอเกศ ก็มาจากกลุ่มที่เป็นปึกเป็นแผ่น เวลาลงมติก็อาจจะไม่ชนะ แต่เราก็คงจะดำเนินการถ้ากกต.ไม่ทำอะไร แต่ถ้ากกต.ได้รับข้อมูลกระแสสังคมแล้วดำเนินการ เราก็คงปล่อยให้กกต.เป็นผู้ดำเนินการ” น.ส.นันทนา กล่าว
ขอโอกาสให้สว.ใหม่ทำงาน
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึง ภาพรวมของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 200 คน ว่า เราผ่านสถานการณ์ทางการเมืองมาแล้วหลายรูปแบบหลายแนว ผ่านการได้คนมาทำหน้าที่ในการพิจารณาก็หลากหลายและมีหลายที่มาเช่นกัน แต่มีครั้งนี้เราจะเห็นได้ชัดว่าทุกคนมาจากความหลากหลายอาชีพ จนจะเรียกได้ว่าเป็นสภาอาชีพ
หลายคนอาจจะปรามาสเรื่องวุฒิการศึกษาหรือที่มา แต่ทุกคนก็ได้รับเลือกมาตามกระบวนการที่ถูกต้องตามกฏหมาย และเป็นไปตามกรอบของกติกาที่ต้องการได้คนมาจากหลากหลายอาชีพมาทำหน้าที่ เพราะฉะนั้นราควรให้โอกาสเขาได้พิสูจน์การทำงาน หากจะทำได้หรือไม่ได้ และไม่เป็นที่พอใจอย่างไร ก็ให้ระบบของสภาทำหน้าที่ของเขา
รศ.ดร. ยุทธพร กล่าวว่า เพราะฉะนั้นหลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ที่ ส.ว.ชุดใหม่จะต้องพิสูจน์การทำงาน ซึ่งสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ แม้จะไม่มีบทบาทในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับ สส. แต่ก็ถือว่ายังมีภารกิจที่สำคัญ ๆ ที่จะต้องดำเนินการหลายประการ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญร่วมกับ สส. การแต่งตั้งองค์กรอิสระ การลงมติในกฎหมายสำคัญๆ โดยเฉพาะกฎหมายนิรโทษกรรม กฎหมายประชามติ และพระราชบัญญัติอื่นๆ การตรวจสอบฝ่ายบริหาร ด้วยการอภิปรายตามมาตรา 153 แบบไม่ลงมติ การตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีตำแหน่งทางการเมือง ตามมาตรา 82 ซึ่งเราตองให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตรงนี้ในเบื้องแรก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี