พลิกปูม‘มงคล สุระสัจจะ’!เส้นทางไม่ธรรมดา จากก้อนดิน-เด็กวัด สู่เก้าอี้‘ปธ.วุฒิสภา’
23 กรกฎาคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่ประธานการประชุมชั่วคราว พิจารณาวาระเลือกประธานวุฒิสภา ภายหลังบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานวุฒิสภา แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมวุฒิสภาเสร็จสิ้น ผลปรากฏว่า เป็น “นายมงคล สุระสัจจะ” สว. ที่ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา ด้วยคะแนนเสียง 159 เสียง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : มติท่วมท้น!!! 'มงคล สุระสัจจะ'นั่งประธานวุฒิสภาคนใหม่)
สำหรับประวัติของ นายมงคล สุระสัจจะ เขาเกิดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2495 เป็นชาว อ.หนองโดน จ.สระบุรี ในครอบครัวที่ฐานะไม่ค่อยดีนัก
ชีวิตในวัยเด็กต้องอาศัย “วัด” เป็นที่พักอาศัยและศึกษาเล่าเรียน ซึ่งความตั้งใจในตอนแรกคือเรียนจบระดับอาชีวะ แล้วจะออกมาทำงาน แต่ด้วยชีวิต “เด็กช่าง” ที่เกเร ทำให้ต้องออกจากโรงเรียนการช่างนครนายก หลังเข้าเรียนได้เพียงปีเดียว ก่อนจะมาจบระดับ ปวช. ที่โรงเรียนพาณิชยการพระนครศรีอยุธยา
ในปี 2516 “มงคล” เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ในคณะรัฐศาสตร์ เนื่องจากค่าหน่วยกิตไม่แพง อยู่ในอัตราที่จ่ายได้ พร้อมไปกับการเป็นนักศึกษาที่ทำกิจกรรมออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท
ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มงคล ก็เป็นหนึ่งในนักศึกษาที่ตัดสินใจหลบหนีเข้าป่าไปเข้าเป็นแนวร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ตามกระแสนิยมของคนหนุ่ม-สาวยุคนั้น โดยอยู่ที่บริเวณเทือกเขาบรรทัด จ.สตูล ก่อนจะกลับออกมาเรียนจนจบปริญญาตรี โดยบรรจุเข้ารับราชการครั้งแรกในวันที่ 8 ม.ค. 2522 ในตำแหน่งปลัดอำเภอ
ชีวิตการทำงาน “มงคล” ถือเป็น “ลูกหม้อ” ของกระทรวงมหาดไทยอย่างแท้จริง จากตำแหน่งปลัดอำเภอ เลื่อนขึ้นมาเป็นนายอำเภอในหลายพื้นที่ ก่อนที่จะได้เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ตามด้วยเลื่อนขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในปี 2551
จากนั้นในปี 2552 โยกเข้าส่วนกลางมาเป็นอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน
ปี 2553 เป็นอธิบดีกรมการปกครอง ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ
“มงคล” เกือบจะได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะข้าราชการประจำ นั่นคือการเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่กลับเลือกที่จะถอนตัว โดยให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการลดบรรยากาศความขัดแย้งภายในกระทรวง
สุดท้ายเส้นทางของ “มงคล” นำเขาเข้าสู่แวดวงการเมือง ที่ตำแหน่งล่าสุด คือ “ประธานวุฒิสภา” ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เขาเป็นสายตรง “บ้านใหญ่บุรีรัมย์”
‘มงคล’ โชว์วิสัยทัศน์เอาไว้ในช่วงของการเสนอชื่อเป็นประธานวุฒิสภา อย่างน่าสนใจ โดยสรุปว่า นับตั้งแต่วันนี้จะตั้งใจทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตามที่หวังไว้ การปฏิบัติหน้าที่ด้านนิติบัญญัติในฐานะ สว.ที่ต้องการให้ประเทศไทย และคุณภาพชีวิตของคนไทยไปสู่สิ่งที่ดีกว่า และดีขึ้นในทุกๆมิติ ซึ่งการทำงานของวุฒิสภาโดยมีประชาชนเป็นเป้าหมาย อย่างตรงไปตรงมา จะนำไปสู่สิ่งนั้นได้
“...ผมพร้อมที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ประสานงานกับทุกท่านให้เป็นเนื้อเดียวกันให้เร็วที่สุด และขอเชิญทุกคนมาช่วยงานกัน และก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน เพื่อให้วุฒิสภาแห่งนี้บรรลุผลความเป็นสภาของสามัญชน จากกลุ่มวิชาชีพดังๆ เป็นสภาที่ประนอมอำนาจ เพื่อดับวิกฤตของสังคมไทย...”
พร้อมย้ำว่า ชีวิตตนมาจากก้อนดิน ก้อนทราย เป็นเด็กวัด เรียนอาชีวะ ตนเข้าใจความยากจนข้นแค้น ตนเติบโตมาในระบบราชการ ด้วยการทำงานอย่างหนัก เต็มความรู้ความสามารถ ตนมีประสบการณ์ ในการประสานงานกับพี่น้องประชาชนคลุกคลีกับพี่น้องประชาชนในชนบทมาโดยตลอดชีวิต เมื่อเกษียณอายุราชการก็ยังไปทำไร่อยู่ในชนบท
ชีวิตตนผ่านมา แบบไม่มีเส้น ไม่มีสาย!!!!
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี