‘สมชาย’ส่งจม.เปิดผนึกทวง‘กกต.’ 7 ประเด็น จะสอย‘สว.’กี่โมง จี้สอบคุณสมบัติทั้งหมด
24 กรกฎาคม 2567 นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) และอดีตประธานกรรมาธิการ (กมธ.)สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...
จดหมายเปิดผนึก:ข้อเสนอสาธารณะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.
เพื่อพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของสว.กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน และสวกลุ่มต่างๆทั้ง20กลุ่ม โดยทำการตรวจสอบทบทวนซ้ำใหม่ทั้งหมด แทนการตรวจสอบเพียงบางราย
ด้วยเหตุว่า ยังมีข้อสงสัยว่า สมาชิกบางรายอาจมีปัญหาคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามบางประการ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ดังนี้
1) เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา98(3)เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ หรือไม่
: กรณีนี้ต้องตรวจสอบความเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นสื่อมวลชนใดๆของผู้สมัครทุกคนตั้งแต่วันสมัคร มิใช่วันที่ได้รับเลือกหรือวันที่ยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินต่อป.ป.ช. เพราะเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามสำคัญของผู้สมัครตามรัฐธรรมนูญ2560 และตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ผูกพันทุกองค์กร
2) เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา98(7)เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้รับโทษมายังไม่ถึง10ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือไม่
: กรณีนี้เท่าที่ทราบมีคดีที่ต้องตรวจสอบอย่างน้อย2คดี หรือมากกว่า เช่นคดีทำร้ายร่างกาย หรือจ้างวานฆ่า เป็นต้น ว่าคดีต่างๆนั้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วหรือไม่อย่างไร หรือเข้าข่ายต้องห้ามสมัครรับเลือกด้วยหรือไม่
3) เป็นบุคคลที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา108 (3)มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี หรือไม่
: กรณีนี้เจตนารมณ์และความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญและพ.ร.ป.สว ชัดเจนว่า ต้องเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า10ปี มิใช่แค่มีผู้รับรองเท่านั้น แต่กกต.ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและหลักฐานอื่นประกอบเพื่อยืนยันประสบการณ์ดังกล่าวจริงไม่ต่ำกว่า10ปี ซึ่งอาจพบการรับรองเท็จจำนวนมากในหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มประชาสังคม กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่น กลุ่มศิลปวัฒนธรรม บันเทิง กีฬา กลุ่มสื่อมวลชน เป็นต้น
4) เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา108 (5)เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก หรือไม่
: กรณีนี้มีผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองคือ เคยเป็นผู้อำนวยการพรรคการเมือง และพ้นตำแหน่งมาไม่ถึง5ปี เป็นตำแหน่งใดที่มีลักษณะต้องห้ามหรือไม่
หากพบว่าเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามจริง กกต.ต้องเร่งตรวจสอบและเสนอศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยโดยเร็ว
5) กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 77(4) หลอกลวง หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ ผู้กระทำผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่1ถึง10ปี ฯลฯ
ซึ่งนักวิชาการ สื่อมวลชน และสื่อสังคมออนไลน์ติดตามตรวจสอบจนได้ข้อพิจารณาหลายประการแล้ว
: กรณีนี้กกตจะดำเนินการตรวจสอบเสร็จสิ้นและส่งศาลเพื่อดำเนินคดีเมื่อใด
6) กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา 62 เมื่อกกต. ประกาศผลการเลือกแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า
ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอันเป็นการทุจริตหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น
อันทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อให้เพิกถอนสิทธิรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น
: กรณีนี้กกต.ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ปรากฏจากสื่อตามที่แนบมานี้ด้วยหรือไม่
เพราะปรากฏข้อสงสัยจากการผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นสื่อมวลชน กลุ่ม18 ที่ได้จดการขานนับคะแนนกลุ่มดังกล่าวในรอบเลือกตรงวันที่ 26 มิ.ย.2567 พบข้อพิรุธการจัดตั้งคะแนนblockvote อาจเข้าข่ายการกระทำการอันเป็นการทุจริตทำให้การเลือกไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งกกต.มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบ ตามที่ผู้สมัครกลุ่มสื่อมวลชนดังกล่าวยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกกต.แล้ว และกกต.มีรายชื่อและหมายเลขผู้สมัครกลุ่ม18 ทุกคนเรียงตามลำดับ1-146 ซึ่งสามารถตรวจสอบผลการลงคะแนนแบบเดียวกัน จากบัตรลงคะแนนblockvoteดังกล่าวได้
หากตรวจสอบแล้วพบว่ากระทำผิดจริง ให้กกตยื่นศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป
7) กระทำการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มาตรา63 หากความปรากฏว่า สมาชิกวุฒิสภาผู้ใดขาดคุณสมบัติตามมาตรา13และมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา14 ให้ กกต.ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า
: กรณีนี้อาจมีผู้เข้าข่ายดังกล่าวมากกว่าxx ราย ที่กกต.ต้องเร่งตรวจสอบและเร่งส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพราะกกต.เคยประกาศความเชื่อมั่นต่อสังคมในการทำหน้าที่ว่า
กกต.ได้ทำหน้าที่ให้การเลือกครั้งนี้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และใช้อำนาจตามกฎหมายในการรับรองไปก่อนสอยทีหลัง
จึงเสนอมาเพื่อโปรดพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจของท่านต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
สมชาย แสวงการ
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
23 ก.ค.2567
หมายเหตุ: หากกกต.ต้องการข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มใดๆที่เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบ ยินดีให้ความร่วมมือ
#กกตมีหน้าที่ #จะสอยกี่โมง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี