"วรชัย"ชี้ปม"อยู่บำรุง-เพื่อไทย"เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย-ไม่ขอวิจารณ์ เชื่อหลัง 22 สิงหา"ทักษิณ"มีข้อเสนอถึงพรรค-รัฐบาล
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายวรชัย เหมะ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) และอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบ Zoom กับรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในประเด็นการลาออกจากพรรคเพื่อไทย ของนายวัน อยู่บำรุง หลังถูกผู้บริหารพรรคตำหนิอย่างรุนแรงเรื่องมีภาพไปอยู่กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในวันเลือกตั้งนายก อบจ. ปทุมธานี ซึ่งถือเป็นคู่แข่งกับ นายชาญ พวงเพ็ชร ผู้สมัครที่เป็นตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องนี้ตนเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย
โดยนายวันบอกว่าไปในฐานะคนรู้จักกัน แต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ การที่นายวันทำแบบนี้เท่ากับไม่ให้เกียรติพรรค เรื่องนี้เป็นความรู้สึกของ น.ส.แพทองธาร แต่ตนไม่ได้บอกว่านายวันไม่ให้เกียรติพรรค เพราะก็โทรศัทพ์พูดคุยกันอยู่ นายวันก็ขอโทษตนที่พูดพาดพิง ส่วนตนก็บอกนายวันไปว่าไม่เป็นไร เป็นเรื่องปกติ
อีกทั้งพรรคการเมืองก็มีความหลากหลายทั้งความคิด ที่มาและชนชั้น ดังนั้นไม่ว่าพรรคใดก็แล้วแต่ ความคิดก็มีทั้งกลางๆ ขวาและซ้าย มีทั้งคนจนและคนรวย นายทุนก็มีทุกพรรค ความคิดของแต่ละกลุ่มที่เข้ามาร่วมในพรรคการเมืองจึงหลากหลาย บางคนก็เข้ามาเพื่อทำงานรับใช้ประชาชน แก้ปัญหาให้ประเทศ แต่บางคนก็เข้ามาเพื่อเป็นนักการเมืองอาชีพ หรือบางคนก็เข้ามาเพื่อจะได้มีคนรู้จัก มีกิจกรรมทางการเมืองบ้าง
ซึ่งทั้งนายวัน รวมถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ท่านก็เป็นนักการเมืองอาชีพ ท่านก็อยู่หลายพรรค ดังนั้นความคิดของนักการเมืองอาชีพ กับความคิดอย่างตนที่มาจากแกนนำมวลชน ต่อสู้ยืนหยัดบนหลักการประชาธิปไตย ร่วมต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงมาเพื่อให้มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งหากเทียบความคิดของพวกตน กับความคิดของนักการเมืองอาชีพนั้นจะเป็นคนละประเด็น แต่ถามว่าพรรคการเมืองมีทางเลือกหรือไม่
“การที่มีทางเลือกหรือไม่ของคนอย่างพวกผม ในยุคเมื่อก่อนเราต้องยอมรับว่าพรรคการเมืองที่ก้าวหน้าที่สุดทางความคิดทางการเมือง วันนั้นคือพรรคไทยรักไทย-พรรคเพื่อไทย ผมเข้ามาในสมัยพรรคเพื่อไทย ฉะนั้นผมก็ต้องยืนหยัดอยู่กับพรรคเพื่อไทย แล้วก็ในขณะนี้มีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ก็มีคนมาติดต่อให้ย้ายพรรค เอาผลประโยชน์มาให้เยอะแยะมากมาย แต่ผมก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ฉะนั้นถามว่าผมยืนหยัดกับพรรคไหน ผมก็ยืนหยัดกับพรรคนั้นตลอด” นายวรชัย กล่าว
นายวรชัย กล่าวต่อไปว่า จุดยืนของตนคือไม่ทรยศกับบ้านที่ตนอยู่ ไม่ว่าผลประโยชน์อะไรที่ให้มาตนไม่เอา แต่ความรู้สึกของนายวัน หรือ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นคนละความรู้สึก คือหากเขาอยู่บ้านไหนแล้วอึดอัดอยู่ไม่ได้ เขาก็ต้องไปซึ่งเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ตนจึงไม่ขอวิจารณ์เรื่องนี้ ส่วนการที่ตนออกมาเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ มาจากการที่มีประชาชนมาพูดคุยกับตน ไม่เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าท่านไม่พอใจรัฐบาลแล้วมาสั่งให้ตนพูด
ทั้งนี้ นายทักษิณยังมีข้อจำกัด ซึ่งน่าจะหลุดในวันที่ 22 ส.ค. 2567 หลังจากนั้นท่านก็อาจจะมีเรื่องจุดยืนทางการเมือง อาจเสนอแนะว่าพรรคเพื่อไทยควรทำอย่างไร หรือรัฐบาลควรทำอย่างไร ซึ่งนายทักษิณน่าจะออกมาพูดให้ชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ ตามความคิดของตน นายทักษิณน่าจะออกมาพูดเรื่องปัญหาบ้านเมือง เพราะหนีไม่พ้น อย่างไรท่านก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ตอนที่เป็นนายกฯ ก็ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ GDP โตร้อยละ 5-6 รายได้ประชาชาติโตมาก ดังนั้นความเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยของประชาชน ต้องมาจากผลงานในอดีจของนายทักษิณ ไม่เช่นนั้นคนก็ไม่เลือก
ส่วนความขัดแย้งระหว่างตนกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตนไม่จำเป็นต้องเคลียร์กับ นพ.พรหมินทร์ และ นพ.พรหมินทร์ ก็ไม่จำเป็นต้องงมาเคลียร์กับตน ซึ่ง นพ.พรหมินทร์ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนตนเป็นที่ปรึกษานายภูมิธรรม เพียงแต่มีตำแหน่งทางการไมได้เพราะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จึงเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว คือเดินกันคนละทางอยู่แล้ว นพ.พรหมินทร์ จะมีอำนาจวาสนาก็เรื่องของท่าน แต่ตนอยู่กับชาวบ้าน อยู่กับมวลชน
ชมคลิปเต็มได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=iSkaCkAAt-k
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี