ถ้ายังอืดยกธงขาวยอมแพ้ยุบสภาไปเลย! 'ณัฐชา'ไล่บี้'รัฐบาล'เร่งหาต้นตอ รีบแก้ปัญหา‘ปลาหมอคางดำ’ลามระบาดรุนแรง17จังหวัด ทำเกษตรกรเดือดร้อนขั้นวิกฤต
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรส่งข้อเสนอในการแก้ไขการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลไปพิจารณาดำเนินการแก้ไข เสนอโดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาสาเหตุ และแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัย และพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ที่จากเดิมได้เสนอญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาปัญหาการแพร่ระบาดฯ แต่ได้ขอแก้ไขเป็นญัตติฯ ดังกล่าวข้างต้น
โดยนายณัฐชา อภิปรายว่า ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2566 ตนลงพื้นที่ไปพบกับเกษตรกรบ่อเลี้ยงกุ้งในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. และได้ไปแซวเกษตรกรบ่อเลี้ยงกุ้งว่า ในบ่อมีปลาเต็มเลย อุดมสมบูรณ์มาก แต่เกษตรกรต่อว่าตนกลับมาอย่างรุนแรงว่า กำลังถูกปลาหมอคางดำรุกรานในบ่อกุ้ง จะมาบอกว่าอุดมสมบูรณ์ไม่ได้ หากปลาเต็มบ่อแสดงว่ากุ้งไม่เหลือแล้ว ตนจึงศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังมาโดยตลอด ล่าสุดปลาหมอคางดำระบาดไปแล้ว 17 จังหวัด ตนอยากให้เรื่องนี้ได้รับการแก้ปัญหาโดยเร็ว ตนได้รับเสียงแว่วๆ มาว่าไม่อยากให้มีการเสนอญัตติ ตนบอกว่าไม่ได้ เพราะปลาหมอคางดำระบาดทุกวินาที ถ้าไม่เสนอวันนี้รัฐบาลคางเหลืองแน่นอน ตนจึงไม่ยอม และได้มีการนำเสนอญัตติ
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ในสังคมมีการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้โยงไปถึงกลุ่มทุนใหญ่ หรือการนำเข้ามาโดยผิดกฎหมายแล้วเกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง จนไม่มีใครรับผิดชอบ ไม่มีต้นตอสาเหตุ และไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นไปอย่างไรถึงมาระบาดในบ่อของเกษตรกรได้ ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่ามีผู้รับอนุญาตให้นำเข้าปลาหมอคางดำเพียงรายเดียว ผู้นำเข้าก็บอกว่าทำตามเงื่อนไขที่ตั้งเอาไว้ ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลก็บอกว่าไม่ได้รับตามเงื่อนไข ข้อมูลจึงไม่ตรงกัน จึงเป็นที่มาในการตั้งอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาสาเหตุ และแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัย และพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ดำเนินการทุกสรรพกำลังเพื่อแก้ไขปัญหา เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล
“วันนี้ในเมื่อหาต้นตอไม่ได้ นายกฯ แถลงว่าเรื่องนี้จะต้องหาต้นตอสาเหตุให้ได้ ต้องแก้ปัญหาให้ได้ นี่ผ่านมากี่วันแล้ว มาถึงวันนี้ต้นตอสาเหตุดำเนินการอย่างไร วันนี้แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุปจากอนุกมธ.ฯ แต่ผมขอสรุปเลยว่า สถานการณ์วันนี้ปลาหมอคางดำคือปลาเถื่อน ดูซิว่าระหว่างหมูเถื่อนกับปลาเถื่อน อะไรรุนแรงกว่ากัน นักวิชาการหลายสำนักยืนยันแล้วว่าการระบาดของปลาสายพันธุ์นี้ในแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด แล้วเราจะปล่อยไว้อย่างนี้หรือ เราจะปล่อยให้ระบบนิเวศที่ไม่สมบูรณ์ส่งต่อให้คนรุ่นลูกหลานด้วยรัฐบาลนี้หรือ การระบาด 17 จังหวัด ท่านนั่งฟังข่าวอย่างเดียวหรือ วันนี้ไม่คิดจะทำอะไรกันเลยใช่หรือไม่ ผมทำเต็มที่แล้วในกลไกอนุกมธ.ฯ มันไปได้แค่นี้ จึงมาเสนอในสภาฯ ให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไข” นายณัฐชา ระบุ
นายณัฐชา กล่าวด้วยว่า จากที่รมว.เกษตร และสหกรณ์ รับลูกนายกฯ ตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงภายใน 7 วันตนทราบมาว่าเพิ่งยกหูโทรตั้งกันเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ในวันพรุ่งนี้ (26ก.ค.) จะครบ1สัปดาห์แล้วตนอยากถามว่ารัฐบาลมีข้อมูลมากน้อยแค่ไหนว่าใครคือต้นตอสาเหตุกันแน่ นี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการว่าใครมาทำลายอนาคตของลูกหลานเขา เรื่องจับปลา ปล่อยปลา ทำเมนูอาหาร เขารู้หมดแล้ว ดังนั้นคณะทำงานของรัฐบาลที่ตั้งขึ้นมาจะ 7 วันแล้ว ในวันพรุ่งนี้ตนจะรอดู
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณให้จังหวัดทั้ง 17 จังหวัดที่มีการระบาดตั้งคณะทำงานเพื่อแจ้งสถานการณ์การระบาดให้ชัดเจน โดยใช้ระบบชักธง จังหวัดใดระบาดมาก ก็ชักธงแดงจับปลาใหญ่ให้หมด เมื่อจับได้แล้ว ก็ลดธงแดง แล้วชักธงเหลืองปล่อยปลาสายพันธุ์นักล่าไปกิน หากสถานการณ์ดีขึ้นจากนั้นก็ชักธงเขียว ลดธงเหลืองลง เพื่อเฝ้าระวัง แต่ถ้าหากรัฐบาลไม่ชักธงอะไรเลย รัฐบาลชักธงขาวได้เลย ยอมแพ้ยุบสภาไป เรื่องนี้ช้าแม้แต่วินาทีเดียวไม่ได้ เพราะเกษตรกรกำลังวิกฤต และกำลังสงสัยว่าภาคเอกชนหรือไม่ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา วันนี้สุดทางของฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว ขอส่งต่อให้ฝ่ายบริหารที่มีสรรพกำลัง มีอำนาจ มีงบฯในการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี