“มาริษ”เผยอาเซียนขานรับให้ไทยจัดเจรจาปัญหาเมียนมาอย่างสร้างสรรค์ เปิดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและมีชายแดนติดเข้าร่วม
27 ก.ค.67 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 57 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ในประเด็นเกี่ยวกับภูมิภาคเรื่องเมียนมา ได้มีการพูดให้ประเทศคู่เจรจาเข้าใจว่าปัญหาเมียนมาเป็นปัญหาสำคัญ ดังนั้น การจัดลำดับความสำคัญหรือจุดมุ่งหมายที่ไทยและอาเซียนต้องการเห็นคือ ความมั่นคงและความมีเสถียรภาพของเมียนมา ไม่เช่นนั้นจะนำมาซึ่งปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาข้ามพรมแดน ยาเสพติด หรือออนไลน์สแกม
ทั้งนี้ ที่ประชุมของชาติสมาชิกอาเซียนทุกประเทศสนับสนุนข้อเสนอของไทยที่ต้องการเห็นการเจรจาที่สร้างสรรค์โดยมีทุกฝ่ายที่ครอบคลุมเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้มีการหารือทุกมิติและทุกกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะชนกลุ่มน้อย กลุ่มติดอาวุธ และรัฐบาลทหารเมียนมา แต่ยังรวมถึงประเทศที่มีพรมแดนติดกับเมียนมาอย่างไทย อินเดีย จีน และลาว ที่จะช่วยกันสนับสนุนและผลักดันให้มีการพูดคุยของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อช่วยกันหาทางออกให้เมียนมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมอาเซียนทรอยกา หรือประธานอาเซียนในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ประกอบด้วย อินโดนีเซีย ลาว และมาเลเซีย ได้เห็นชอบกับข้อเสนอของไทยที่ต้องการเห็นการเปิดกว้างของการหารือให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในปัญหาเมียนมา ตั้งแต่ประเทศที่มีพรมแดนติดกันหรือประเทศที่มีบทบาทอย่างสหรัฐ เพื่อให้มานั่งคุยกันว่าเราต้องการเห็นอนาคตของเมียนมาเป็นอย่างไร ขณะที่การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาต้องเป็นเรื่องภายในที่เมียนมาจะดำเนินการเอง อาเซียนทรอยกายังเห็นด้วยกับข้อเสนอของไทยที่อยากให้มีการพูดคุยในกลุ่มของประเทศที่มีการจัดตั้งผู้แทนพิเศษว่าด้วยเรื่องเมียนมา ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศ อาทิ ลาว จีน รวมถึงสหประชาชาติ
นายมาริษ ยังเปิดเผยด้วยว่า ระหว่างการหารือทวิภาคีกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเมียนมาและมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกับเมียนมามากที่สุดและเข้าใจเมียนมามากที่สุด โดยสหรัฐให้การสนับสนุนไทยว่าน่าจะมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐ ในการแก้ไขปัญหาเมียนมา โดยใช้แนวทางของการปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์
ทั้งนี้ นายบลิงเคน ยังได้สอบถามถึงโอกาสในการแก้ไขปัญหาและการตอบรับของทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งตนได้บอกว่าหลังการหารือ 3 ฝ่าย ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศไทย อินเดีย และเมียนมา ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทคอย่างไม่เป็นทางการที่อินเดีย ทำให้เห็นว่าเมียนมาเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น
“เมื่อดูจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา ตนมองว่ามีโอกาสที่ดี เพราะหลายประเทศเริ่มเปิดกว้างและเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาเมียนมาผ่านการพูดคุยอย่างเปิดอกและตรงไปตรงมา” นายมาริษกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี