ทบ.รับลงโทษสั่งทหารเกณฑ์แก้ผ้าตากฝน ผิดจริง!ปัดตอบวิปริตหรือไม่?? เชื่อมีทหารนอกแถว ละเลยนโยบาย รมว.กลาโหม-ผบ.ทบ. ส่วนความผิดอาญา อนาจารขอดูข้อกฎหมาย เร่งตรวจสอบงบอาหารทหารเกณฑ์ ทำคุณภาพต่ำหรือไม่ ส่งจเร ทบ. สุ่มตรวจ หากไม่ได้มาตรฐานต้องรีบปรับปรุง

5 ส.ค.2567 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ศรีสมาน  พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึง ผลการสอบสวนกรณีการลงโทษ สั่งแก้ผ้าพลทหาร ที่ฐานปฏิบัติการนอแล จ.เชียงใหม่ว่า ยอมรับเรื่องดังกล่าวผิดจริง ซึ่งการลงโทษกำลังพล พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.เน้นย้ำอยู่แล้วยึดระเบียบกองทัพในการลงโทษ โดยเฉพาะการกระทำไม่ถูกต้อง ลงโทษเกินกว่าเหตุ กระทำผิดวินัย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งการเสมอว่า ให้ผู้บังคับบัญชาระดับหน่วย ลงไปเน้นย้ำ และหากมีการกระทำความผิด ให้ลงโทษตามระเบียบวินัยทหาร ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำเป็นปกติอยู่แล้ว ทำอยู่ทุกยุคทุกสมัย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กองทัพ ตั้งกก.การสอบ พลทหาร ถูกสั่งแก้ผ้าตากฝน-ซ้อมปางตาย หากผิดจริงเจอโทษวินัย)

เมื่อถามว่าขณะนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยากให้แยกตัวผู้กระทำความผิดกับผู้สั่งการออก นอกหน่วยให้อยู่คนละพื้นที่ป้องกันปัญหาการข่มขู่คุกคาม รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า ปกติเราก็จะแยกสอบกันอยู่แล้ว ในส่วนเรื่องการข่มขู่นั้น จะตั้งคณะกรรมการสอบคนละหน่วย เพื่อที่จะเข้าไปสอบสวน ป้องกันความไม่เป็นธรรม และให้เป็นกลางที่สุด ในเรื่องการข่มขู่ที่อาจจะมีภาพข่าวออกมา ตนมองว่าเรื่องนี้เรามีมาตรการ ยืนยันว่าคู่กรณีได้ถูกแยกกันออกจากหน่วยแล้ว สำหรับคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้จะเป็นผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่า

เมื่อถามย้ำว่าผู้ปฏิบัติละเลยนโยบายของกองทัพบกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่นั้น  รองโฆษกกองทัพบกชี้แจงว่า อาจจะมีคนที่นอกแถวบ้าง ถ้าเรื่องดังกล่าวผิดก็ต้องลงโทษ และเราก็ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย เหมือนกรณีที่มีกำลังพลเป็นฮีทสโตรก และมีคนได้รับผลกระทบ ได้รับบาดเจ็บ หรือมีทางญาติมาร้องขอความเป็นธรรม เราจะต้องดูแลเรื่องนี้ในเบื้องต้นก่อน ทุกเรื่องผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับ ให้อยู่ในระเบียบวินัย สิ่งไหนที่ผิด ก็ต้องลงโทษ ที่เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น ก็กำชับไปดูให้เรียบร้อย

ทั้งนี้ ยืนยันว่า การลงโทษทหารเกณฑ์ดังกล่าว  มีความผิดจริง  หากเราดูตามปกติแล้วเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ที่จริงแล้วการลงโทษทางทหาร เรียกว่าท่ากายบริหาร ของทหาร ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ดันพื้นที่ พุ่งหลัง และวิ่ง ซึ่งจะต้องดูสภาพของทหารเกณฑ์ดังกล่าวด้วยว่าไหวหรือไม่  แต่หากมีการวิ่ง หร่อดันพื้น หรือทำจนกระทั่งนายทหารคนนั้นฟุบหมดสติ ซึ่งก็ต้องรู้ว่าคนใดมีสุขภาพร่างกายอย่างไร

ส่วนนายทหารที่ลงโทษยอมรับหรือไม่ว่าดื่มสุรา รองโฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ทางโฆษกกองทัพบก จะเป็นผู้แถลงภายหลังการเข้าหารือ และชี้แจงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ในวันนี้  แต่ในภาพที่ปรากฏชัดเจนอยู่แล้วว่าผิด เพราะมีการสั่งให้ถอดเสื้อผ้า ไม่มีอยู่ในระเบียบและข้อกำหนด ในการลงโทษ ของกองทัพบก 

เมื่อถามว่า การสั่งให้แก้ผ้าวิปริตหรือไม่  รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่ถูกต้องอยู่แล้ว จะให้คำตอบได้หรือไม่ว่าสั่งให้แก้ผ้าไปเพื่ออะไร เพราะปกติการทำโทษจะต้องมีนัยแฝง เช่นเรื่องสุขภาพ ร่างกายแข็งแรง 

ส่วนถึงขั้นความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่นั้น ยืนยันว่า หากเป็นความผิดวินัยร้ายแรงจริงๆ เข้าข่ายหลายกระทง เพราะคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้อง กำกับดูแลทหารที่อยู่ในฐานอยู่แล้ว โดยเฉพาะข้อห้ามและข้อที่ควรจะทำ ส่วนความผิดทางอาญา ข้อหาอนาจาร ขอดูในเรื่องข้อกฎหมายก่อน ซึ่งเรื่องมีฝ่ายการเมืองโดยคณะกรรมธิการการทหารมาดูแลเรื่องนี้แล้ว ยืนยันว่ากองทัพบกได้ประสานและพร้อมแชร์ข้อมูลทุกอย่างช่วยกันดูแลตรวจสอบ ผิดก็ว่าตามผิด

นอกจากนี้ รองโฆษกกองทัพบก ยังชี้แจงกรณีคุณภาพอาหารของทหารกองประจำการ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะเมนูต้มแตงกวาใส่ไข่ และกุนเชียง ว่า หน่วยได้ชี้แจงว่าเป็นเมนูไข่น้ำ แต่ภาพที่เห็นไข่ไม่มีแล้วเหลือแต่แตงกวากับน้ำ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ ตักก่อนตักหลัง การดูแลบกพร่อง ไม่มีโปรตีนตามหลักโภชนาการ ขณะนี้ทางหน่วยได้มีการเน้นย้ำและกำกับดูแล โดยชุดจเรกองทัพบก เวียนตรวจทุกหน่วย

ส่วนได้มีการกำหนดคุณภาพอาหารในแต่ละมื้อหรือไม่ พันเอก ริชฌา กล่าวว่า กองทัพบกมีการกำหนดอยู่แล้ว รวมไปถึงการหักค่าอาหารของพลทหาร ซึ่งมีการกำหนดชัดเจนตามมาตรฐาน โดยทุกหน่วยต้องจัดสรรตามงบประมาณ ซึ่งหากมองเงินจำนวนนี้อาจไม่สามารถซื้ออาหารตามสั่งข้างนอกได้ แต่เมื่อต้องประกอบเลี้ยงส่วนรวม เงินที่หักมารวมกันก็สามารถถัวเฉลี่ยค่าอาหารได้

ทั้งนี้ ผู้บังคับกองพัน ต้องนำเรื่องนี้ไปปรับปรุงแก้ไข โดยทางจเรกองทัพบกที่เข้ามาตรวจ ได้มีการแนะนำเกี่ยวกับมาตรฐานว่าต้องทำอย่างไร ตามที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งเมนูอาหารก็ต้องสอดรับกับงบประมาณที่มี ดังนั้นต้องมีการบริหารจัดการที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุการณ์ได้มีการปรับเปลี่ยนการแจกจ่ายอาหารด้วยการจัดเจ้าหน้าที่โรงเลี้ยงเป็นผู้ตักแจก ไม่ใช่ให้ตักกันเอง 

เมื่อถามว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาการบริหารจัดการ ไม่เกี่ยวกับการจัดซื้อวัตถุดิบมาประกอบเลี้ยง ที่อาจมีการทุจริต ใช่หรือไม่ พันเอก ริชฌา กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ รวมถึงการไปซื้อของด้วย โดยยกตัวอย่างเรื่องงบประมาณอาหาร 3 มื้อ จะต้องมีหนักเบา ถัวเฉลี่ยกันไป ซึ่งแต่ละเมนูราคาไม่เท่ากัน หมู ไก่ ผัก ก็ราคาไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงต้องเข้าไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ แม้เราจะมีการตั้งกฎไว้แล้ว แต่ถ้าไม่เข้าไปดูก็เกิดปัญหา