“ช่อ”มาแล้ว!! โวยผู้มีอำนาจหวาดกลัว ยุบ “ก้าวไกล” เพราะมองเป็นภัยคุกคาม เชื่อไม่มีงูเห่าซบพรรคอื่น แย้มคณะก้าวหน้าอ้าแขนรับ กก.บห.ที่ถูกตัดสิทธิ
7 ส.ค.67 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และอดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ว่า สิ่งที่เราเห็น จากคำวินิจฉัยในวันนี้ เป็นสิ่งที่สั่นคลอนต่อการคงอยู่ในอำนาจของทุกท่าน และมีคำวินิจฉัยออกมาว่าจะไม่ปล่อยให้ภัยคุกคามของพวกเขาคงอยู่ แต่นั่นคือการตัดสินใจของผู้มีอำนาจในประเทศนี้ ซึ่งคิดว่ามีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ แต่เขาไม่รู้ตัวว่า ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคือประชาชน แม้ศาลจะวินิจฉัยไม่ให้พรรคก้าวไกลไปต่อ แต่สิ่งที่เรากำลังรอฟังคือคำวินิจฉัยจากประชาชน ว่าเขาตัดสินใจอย่างไร โดยเฉพาะคนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง และมีความฝันแบบเดียวกับพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล อยากให้ทุกคนเปล่งเสียงออกมาอย่างดัง ในฐานะผู้มีอำนาจตัดสินใจ ว่าอยากให้เราไปต่อหรือไม่
เมื่อถามว่าสมาชิกพรรคก้าวไกลที่ถูกตัดสิทธิ์ จะมาอยู่กับคณะก้าวหน้าหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า หากกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลตัดสินใจว่าอยากทำงานการเมืองต่อ คณะก้าวหน้าก็เป็นอีกหนึ่งช่องทาง เพราะเป็นองคาพยพที่สานต่อภารกิจและเจตนารมณ์ของพรรคอนาคตใหม่ การทำงานของคณะก้าวหน้าก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และการทำงานของพรรคการเมืองใหม่ของพรรคก้าวไกลก็คงสอดประสานกับคณะก้าวหน้า
เมื่อถามว่า ความใกล้ชิดของพรรคการเมืองใหม่กับคณะก้าวหน้า หลังจากนี้จะมีผลในทางลบหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของผู้มีอำนาจในการทำให้เราหวาดกลัว แต่ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า เราก้าวพ้นความกังวลจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ ไม่มีอะไรหยุดยั้งความต้องทำงานการเมืองของเราได้
เมื่อถามว่า มองว่าสส.อีก 10 คน ที่ถูกยื่นป.ป.ช. ให้สอบจริยธรรม จะโดนตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตเหมือนกับที่ตนเองโดนหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เชื่อว่าคนที่เข้ามาทำการเมืองทุกคน รู้ราคาที่ต้องจ่าย สำหรับการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้คืออนาคตและชีวิตทางการเมืองของเรา และหากสำเร็จก็มีคุณค่าพอที่จะจ่ายราคาแพงเช่นนี้ และสส. คงไม่ได้มาคำนึงในชะตากรรมของตัวเอง แต่จะใช้เวลาทุกนาทีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนผลการตัดสินคดีจริยธรรม ทุกคนไม่ใช่น้อมรับแต่ก้มหน้ารับ
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกล ถึงแนวทางหลังจากนี้หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องพูดคุย การทำงานยังดำเนินต่อไป ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเองคืออะไร ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะสานภารกิจต่อไป หลังจากนี้พรรคก้าวไกลต้องเตรียมการย้ายไปสู่บ้านหลังใหม่
เมื่อถามว่า คิดว่าจะมีสส.ย้ายไปอยู่พรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคใหม่ของก้าวไกลหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เราพูดอยู่เสมอว่า พรรคใหญ่กว่าคน ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ดังนั้นคนหรือสส.ในพรรคไม่ได้สำคัญเท่ากับตัวพรรค ดังนั้นหากใครตัดสินใจว่าจะไม่ไปต่อกับพรรคก็ออกไป จะมีคนใหม่เข้าเสมอ แต่ก็คิดว่าคงไม่มีสส.ก้าวไกล จากไปเยอะเพราะรู้จักทุกคนเป็นอย่างดี เชื่อว่าทุกคนยืนหยัดในอดุมการณ์เดียวกัน หวังว่าจะเห็นทุกคนเดินหน้าต่อไปอย่างเอกภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี