ขยี้ซ้ำ!‘มงคลกิตติ์’บุกตร.จี้ดำเนินคดีอาญา‘พิธา’กับพวก เข้าข่าย‘กบฎ’หรือไม่
8 สิงหาคม 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ “เต้ มงคลกิตติ์” อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำวินิจฉัยตัดสินยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิ์ทางการเมือง กรรมการบริหารพรรค 10 ปี ในคดีล้มล้างการปกครอง เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินคดีกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ , นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวม 11 คน เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 (วรรค 1) ฐานล้มล้างสถาบันการปกครองและเป็นกบฏหรือไม่
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมของพรรคก้าวไกลในการหาเสียงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เป็นพฤติกรรมร้ายแรง และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็มีผลผูกพันกับทุกองค์กร ดังนั้นในฐานะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รักษากฎหมาย ก็ขอให้ดำเนินคดีอาญาด้วย ซึ่งตนเองก็พร้อมจะเป็นพยานในคดี ส่วนประชาชน 14 ล้านเสียงที่เลือกพรรคก้าวไกล ถือว่าไม่เข้าข่ายสนับสนุนการกระทำความผิด เพราะเลือกตั้งมาด้วยเจตนาบริสุทธิ์และพรรคก้าวไกลก็มีนโยบายอื่นอีกกว่า300ข้อ ประกอบกับกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับเฉพาะพรรคการเมืองเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าที่ตนเองออกมาร้องทุกข์ครั้งนี้ไม่ได้หิวแสง และไม่ได้ต้องการเหยียบย่ำซ้ำเติม แต่ที่ผ่านมาได้คัดค้านการการนำนโยบายยกเลิก ม.112 มาหาเสียงตั้งแต่แรกแล้ว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงการตั้งพรรคใหม่ของพรรคก้าวไกลว่า สามารถนำนโยบายเดิม 300 ข้อมาสานต่อได้ เพราะถือเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม แต่ต้องไม่ใชนโยบายยกเลิกหรือแก้ไข ม.112 มาหาเสียง เพราะจะทำให้กรรมการพรรคชุดใหม่ และสส. ในพรรค ไม่ปลอดภัย ยิ่งหากพรรคก้าวไกลยังยึดมั่นในการแก้ไข ม.112 เพื่อช่วยเหลือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก็ยิ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่หากพรรคคิดได้ ไม่แตะต้องการปฏิรูปสถาบันและม.112 ก็จะเป็นประโยชน์ต่อคดีของ นายพิธา ทำให้อาจได้รับการผ่อนปรนด้วย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า สงสารนายพิธา ไม่อยากให้ถลำลึกไปมากกว่านี้ เพราะตนเองเห็นว่าช่วงหลัง นายพิธา ดูสำนึกและแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดี สิ่งที่ทำไปก่อนหน้านี้อาจทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจมีบุคคลบางกลุ่มชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งตอนนั้นนายพิธาอายุยังน้อย ก็ผิดพลาดกันได้ และหากปัจจุบันรู้สำนึก ก็อาจเป็นเหตุให้โทษเบาบางลงหากมีการดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี