‘ภูมิธรรม’ย้ำอำนาจชี้ขาดแคนดิเดตนายกฯอยู่ที่‘กก.บห.เพื่อไทย’ วอนอย่าเพิ่งคาดเดา เชื่อคนใน‘เพื่อไทย’รักกันดี ไม่มีปัญหา ชี้‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ต้องรอรัฐบาลใหม่ ขอประชาชนอย่าเพิ่งสับสน
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 15 ส.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวล่าสุดที่ สส.พรรคเพื่อไทย ต้องการให้เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นว่าที่นายกฯคนต่อไปว่า ได้มีการประสานมาถึงตนแล้ว และทราบแล้ว ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องพิจารณาต่อไป ส่วนที่เป็นห่วงกันเรื่องการสานงานต่อนโยบายของรัฐบาลนั้นก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามบุคลากรของพรรคเพื่อไทยก็ต้องพิจารณาดำเนินการ
“สิ่งที่สำคัญวันนี้คือพรรคร่วมรัฐบาล ต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าให้นายกฯมาจากพรรคเพื่อไทย เพราะฉะนั้นก็เป็นภาระของพรรคเพื่อไทย ที่จะต้องหานายกรัฐมนตรี ซึ่งตามระเบียบข้อกฎหมายก็ได้เพียง 2 คน คือนายชัยเกษม นิติสิริ และ น.ส.แพทองธาร” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า แต่มีกระแสข่าวว่าจากการพูดคุย ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อคืนวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นชื่อ นายชัยเกษม มีเหตุผลใดถึงเปลี่ยนเป็น น.ส.แพทองธาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องที่สื่อมวลชนทำในวันนี้ เพียงแต่เมื่อช่วงเช้าที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย ก็รับฟังจากสส. และได้รับรายงานเข้ามาก็บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเราค่อยช่วยกันคุย แต่เราก็จะต้องคิดให้ดีที่สุด เพราะในขณะนี้เราต้องยอมรับในสถานการณ์ที่ต้องเรียกว่าฉุกเฉิน
ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายเรือธงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้สื่อฯอย่าเพิ่งถามอะไร วันนี้เราต้องเริ่มต้น ว่าจะได้นายกฯใหม่หรือไม่ แต่งตั้งรัฐบาลใหม่ได้เลยใช่ไหม วันนี้การประชุมครม.จะมีมติอะไร สิ่งที่ถามมาขณะนี้ยังไม่เกิดเพราะยังไม่ได้ประชุมอะไรเลย และขอว่าประชาชนอย่าเพิ่งเกิดความสับสน เพราะเดี๋ยวเราจะต้องทำให้มีความชัดเจน โดยจะต้องมีการประชุมทั้งหมดก่อน ส่วนที่มีข่าวออกไปว่าประชาชนสับสนนั้นก็เพราะมีการถามกันเข้ามาและสื่อฯก็คิดแทน ส่วนตัวถึงบอกว่าอย่าเพิ่งไปจินตนาการ เอาความเป็นจริงก่อนดีกว่า คือ การประชุมพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งมีการประชุมกันไปแล้ว และการประชุมครม.วันเดียวกันนี้ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดพิเศษ ส่วนจะส่งใครเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ยิ่งที่บอกว่าให้เป็นภาระของพรรคเพื่อไทย ก็ต้องอยู่ที่พรรคเพื่อไทยที่จะจัดการ ซึ่งคนที่มีอำนาจสูงสุดคือคณะกรรมการบริหารพรรค
เมื่อถามว่า เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการะบุว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วโครงการดิจิทัลวอลเล็ตควรจะหยุดและไม่ควรส่งเรื่องมาถามทางกฤษฎีกาอีก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ถือเป็นความเห็นของเลขาฯกฤษฎีกา แต่ทั้งหมดต้องรอรัฐบาลใหม่ เลขาฯกฤษฎีกาพูดก็ถูกส่วนหนึ่ง คือทั้งหมดมันยุติแล้ว ก็ต้องรอรัฐบาลใหม่ เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายทักษิณได้ปัดตกโครงการดังกล่าวไปแล้วจริงหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ เพิ่งได้ยินจากปากคุณ ข่าวออกมาไม่ได้หมายความว่าทุกข่าวจะสำเร็จหรือเป็นจริง”
เมื่อถามย้ำว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าทำไมนายทักษิณจึงมีอำนาจมาสั่งการในเรื่องดังกล่าว นายภูมิธรรม กล่าวว่า คุณตั้งคำถามเองและก็มาถามว่ามีอำนาจหรือเปล่า วันนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค เราคงต้องมีวุฒิภาวะเช่นกัน ทั้งหมดต้องเป็นไปตามกระบวนการเมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว และท่านบอกเองว่ายอมรับในกติกา และให้เป็นไปตามกระบวนการ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ภารกิจสำคัญคือการเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ให้ได้ และหยุดยั้งไม่ได้ ปัญหาของประเทศต้องเดิน ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องทำภารกิจของตัวเองให้จบในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด และขอให้ความมั่นใจว่า เมื่อได้บรรลุข้อตกลงไปขั้นหนึ่งแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลยืนยันว่าจะเกาะตัวในการร่วมรัฐบาลต่อ โดยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ถือว่าผ่านมาแล้วขั้นหนึ่ง ก็ต้องให้เวลาเพราะเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นส่วนตัวก็ยังไม่ได้คุยกับใครเลย คุยกับนายเศรษฐาเพียงคนเดียว ซึ่งก็บอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามนั้นและไม่เป็นอะไร ท่านเคารพการตัดสินใจ และอยากให้ตนรีบกลับมา
เมื่อถามย้ำว่าสรุปว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยยังคงเป็น 2 ชื่อคือ นายชัยเกษมและน.ส.แพทองธารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันยังมี 2 ชื่อ เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคยังไม่ได้พิจารณา กรรมการบริหารนั้น ตามข้อบังคับพรรคและมีอำนาจในการตัดสินใจเสนอชื่อคนที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งถ้าตัดสินใจแล้วถือเป็นที่สุด ตอนนี้ใครจะพูดอะไรอย่างไรก็ได้ แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่ากรรมการบริหารจะเอาอย่างไร แต่ในการเสนอชื่อเข้าสภาพรรคเพื่อไทยต้องเสนอชื่อเดียว
เมื่อถามว่า นายชัยเกษม มีปัญหาอยู่สองกรณีคือเรื่องที่เคยออกมาพูดจะแก้มาตรา112 และในช่วงที่ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดไม่ได้มีการสั่งฟ้องคดีถุงขนม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งหมดยังเป็นคำกล่าวหาหรือเป็นข้อท้วงติง ส่วนตัวยังคิดว่ายังไม่มีอะไรที่บรรลุว่าเป็นความผิดของนายชัยเกษม ส่วนตัวตนไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือเปล่า จึงอยากให้เวลากับกระบวนการ ซึ่งวันนี้ก็ถือว่าเร็วที่สุดแล้ว ที่วันศุกร์ที่ 16 ส.ค. จะมีการเลือกนายกฯ
เมื่อถามว่า ถ้าเป็น น.ส.แพทองธาร จะเกิดอาถรรพ์ตระกูลชินวัตรอีกหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคิดอะไรเลยเถิด ถ้าเราตัดสินใจทำในสิ่งที่ดีที่สุด ได้คนที่มีความรู้ความสามารถก็น่าจะเดินได้ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า จำเป็นต้องคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของ น.ส.แพทองธาร หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร เป็นผู้ใหญ่แล้ว เป็นถึงหัวหน้าพรรค ไม่ต้องไปคุยกับใคร เมื่อถามว่า แต่ดูเหมือนว่า คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา จะไม่ยอมให้มาเผชิญชะตากรรม นายภูมิธรรมกล่าวย้อนถามว่า “ อันนี้รู้ใจคุณหญิงอ้อได้อย่างไร คนเป็นแม่ก็รักลูกกันทุกคน“
เมื่อถามว่า นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ไปให้สัมภาษณ์สื่อฯ รายการหนึ่งว่าถ้าหากน.ส.แพทองธาร ยอมรับเป็นแคนดิเดตนายกฯอาจถูกมองว่าเป็นการวางยานายเศรษฐา นายภูมิธรรมกล่าวว่า อย่าคิดไปไกลแบบนั้นมันทำให้คนทะเลาะกัน คนในพรรคเพื่อไทยเขารักกันดีไม่ต้องห่วง อย่าไปตั้งคำถามว่ามีการวางแผน ขอให้คิดบวกอย่าไปคิดลบ
เมื่อถามว่า ดูเหมือนเวลานี้การเลือกแคนดิเดตนายกฯยังไม่ลงตัว จะเลือกใช้วิธีการยุบสภาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกอย่างยังไม่มีอะไรที่จะคิดไปล่วงหน้าทั้งนั้น ขอให้รอการประชุม ครม.และการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยให้เกิดความชัดเจนก่อน และการชี้ขาดคือวันที่ 16 ส.ค.เวลา 10.00 น. จะชัดเจนที่สุดไม่ต้องไปคาดเดาอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี