มติสภาฯ319เสียงเลือก‘แพทองธาร ชินวัตร’
‘อุ๊งอิ๊ง’นายกฯคนที่31
แถลงขอบคุณเสียงโหวต
ประกาศพร้อมทำงานหนัก
‘ภูมิธรรม’ยันต้องล้างไพ่
แบ่งโควตารัฐมนตรีใหม
ตามคาดสภาโหวตเลือก “นายกฯคนที่ 31” พรรคร่วมรัฐบาล ไม่แตกแถว หนุน “แพทองธาร” เป็นนายกฯบวกเสียงฝ่ายค้านมาเทคะแนนให้รวมเสียงท่วมท้น 319 เสียง ไม่เห็นชอบ 145 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง“อุ๊งอิ๊ง” แถลงขอบคุณเสียงโหวต ยันจะทำหน้าที่เต็มความสามารถ เผยพ่อแม้วโทรมายินดี พร้อมแซวว่าดีใจเห็นลูกได้ตำแหน่งก่อนตัวเองเป็นอัลไซเมอร์ยันไม่กดดัน มั่นใจมีทีมงานที่ดี-เข้มแข็ง ปัดตอบควบ “กลาโหม” ด้าน “ภูมิธรรม” เผยสัดส่วนโควตารัฐมนตรีต้องคุยกันใหม่
ลั่นจุดยืนชัดไม่แตะมาตรา112
นายอนุทินยังเชื่อมั่นว่า การทำงานของรัฐบาลที่นำโดยน.ส.แพทองธารไม่น่ามีอะไรสะดุด น่าจะทำได้ต่อเนื่องซึ่งน.ส.แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยร่วมประชุมคณะทำงานพรรคร่วม ไม่ใช่การที่ต้องมาเรียนรู้อะไรใหม่ จึงเชื่อว่าการเมืองน่าจะนิ่งมีความเข้มแข็ง รัฐบาลต้องเดินหน้าทำงานไม่ให้หยุดชะงัก ส่วนเรื่องการไม่แก้ไขมาตรา 112 นั้น ไม่ต้องยืนยันจุดยืนอะไรอีก เพราะพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันชัดเจนแล้วว่าจะไม่แตะ 112 ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเคยตกเป็นผู้ต้องหาคดี 112 เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมาย แต่กระบวนการขณะนี้เป็นเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล
ชี้อย่าดูอายุให้วัดกันที่ผลงาน
ถามว่า นายทักษิณฝากให้นายอนุทินดูแลอะไร น.ส.แพทองธารหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ห่วงลูกทุกคน ตนกับว่าที่นายกฯมีความคุ้นเคยกันมาเป็นสิบๆ ปี ก็เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจ ส่วนเรื่องแรงเสียดทานต้องดูว่ามาจากฝั่งไหน ถ้าจากพรรคร่วมไม่มี แต่ถ้าฝั่งไม่ชอบพรรคร่วมก็คงเป็นอีกแบบ
“เรื่องนี้ต้องเอาผลงานเข้าว่า ต้องทำผลงาน ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคร่วมไม่ใช่น.ส.แพทองธารคนเดียว เรามีเวลาอีก 2 ปี 11 เดือน ประชาชนจะตัดสิน เราต้องดูองค์ประกอบทั้งหมด คำว่าอายุจะไปวัดกันอย่างไรสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐมนตรีตอนอายุ 32 ปี นายสนธยา คุณปลื้มเป็นรัฐมนตรีตอนอายุ 33 ส่วนตนก็เป็นรัฐมนตรีตอนอายุ 36 ปี”นายอนุทิน กล่าว
เช็คเสียง 9 งูเห่าโผล่หนุน‘อิ๊ง’
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวหลังสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบน.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ว่า ผลลงคะแนนเห็นชอบ 319 เสียง มาจากเสียงสส.ฝ่ายรัฐบาลที่ลงมติไปทางเดียวกันทุกพรรค ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ลาประชุม ทำให้เสียงสส.ฝ่ายรัฐบาลเหลือ 310 เสียง จากเดิมมีทั้งหมด 314 เสียง โดยมีเสียงของฝ่ายค้าน สส.พรรคไทยสร้างไทย6 คน เทเสียงเห็นชอบให้น.ส.แพทองธารทั้งหมด ประกอบด้วย นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี นายชัชวาล แพทยาไทยสส.ร้อยเอ็ด นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์สส.อุบลราชธานี และนายฐากร ตัณฑสิทธิ์สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงพรรคเล็ก 1 เสียง3 พรรค ได้แก่ พรรคประชาธิปไตยใหม่พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคใหม่อีก 3 เสียง ก็เทเสียงเห็นชอบให้น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯด้วย ทำให้เสียงเห็นชอบให้น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ รวม 319 เสียง
ขณะที่เสียงไม่เห็นด้วย 145 เสียงนั้น เป็นเสียงของพรรคประชาชน 143 เสียง พรรคเป็นธรรม 1 เสียง และพรรคไทยก้าวหน้า ของ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตติ์ 1 เสียง ส่วนคะแนนงดออกเสียง 27 เสียง มาจากพรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กับนายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
ฐากรแจงหนุนอิ๊งเพื่อปท.เดินต่อได้
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวหลังการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ซึ่งสส.ของพรรค 6 คน โหวตเห็นชอบให้น.ส.แพทองธารสวนมติพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า พรรครับแจ้งทางโทรศัพท์จากนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคประชาชนว่า มติของพรรคประชาชนไม่เห็นชอบพร้อมอธิบายถึงหลักการว่าขัดกับหลักประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เราประชุม สส.ของพรรคทั้ง 6 คน มองว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ และวันนี้มีการเสนอชื่อนายกฯ เพียงชื่อเดียว ส่วนพรรคฝ่ายค้าน ทั้งประชาชนและประชาธิปัตย์ ไม่ได้เสนอชื่อแคนดิเดต ยืนยันว่าหากฝ่ายค้านเสนอชื่อ ทางพรรคก็จะโหวตให้ การโหวตเห็นชอบน.ส.แพทองธาร มาจากการเห็นชอบร่วมกันว่าเพื่อให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้ และมีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ ป้องกันความเสียหายต่อประชาชน
โต้ลั่นไม่ใช่งูเห่า-ปัดดีลแลกร่วมรบ.
นายฐากรยืนยันว่า ไม่ได้โหวตเห็นชอบ เพื่อหวังเข้าร่วมรัฐบาลไม่มีดีล แต่คำนึงถึงความเสียหายกับประชาชน ประเทศชาติ ตนโทรหานายปกรณ์วุฒิว่าที่เราโหวตแบบนี้ แต่เรายังอยู่กับพรรคร่วมฝ่ายค้านเช่นเดิม ในการอภิปรายงบฯ ที่กำลังจะเข้าสภาฯ ก็จะอภิปรายไม่เห็นด้วยในหลักการเช่นเดิม ยืนยันไม่มีงูเห่า เพราะไม่มีมติพรรคเรื่องนี้ แต่เป็นมติที่ประชุม สส. ยืนยันไม่มีดีลเก้าอี้ในรัฐบาล ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาแตกหักกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
อุบไต๋ถ้ามีเทียบเชิญต้องคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าคุณหญิงสุดารัตน์รับได้หรือไม่กับการโหวตครั้งนี้นายฐากรกล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่มีการลอยแพคุณหญิงสุดารัตน์แน่นอน ส่วนที่มองว่ามีดีลฝั่งรัฐบาล ยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มี แต่พูดคุยในฝั่ง กมธ.งบประมาณ ในฐานะสส.เท่านั้น แต่หากมีเทียบเชิญให้ตำแหน่ง ก็ยอมรับว่าต้องคุยกัน แต่วันนี้ขอทำหน้าที่ของพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ดีที่สุด
คุณหญิงหน่อยยัวะ6สส.ขัดจุดยืน
ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ตนและผู้บริหารพรรคไทยสร้างไทย ขอยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทย เรามีจุดยืนรักษาอุดมการณ์ประชาธิปไตย และทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่ซื่อสัตย์ต่อเสียงประชาชน และต้องปฏิบัติตามมติของพรรคฝ่ายค้านร่วม ดังนั้น สส.ของพรรคไทยสร้างไทยควรมีจิตสำนึกต่อการทำหน้าที่อย่างสุจริต ในฐานะพรรคฝ่ายค้านในสภา การลงมติเห็นชอบการแต่งตั้งนายกฯจากพรรครัฐบาลวันนี้ ถือเป็นการขัดต่อจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคไทยสร้างไทย และผิดมารยาทการทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งวันนี้จะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาการกระทำของสส.ของพรรคไทยสร้างไทย ที่ขัดจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งหลังประชุมฯ จะมีการออกแถลงการณ์ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ
พรรคครูไทยฯแจงลงมติแบบฝ่ายอิสระ
ส่วนนายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ในฐานะพรรคฝ่ายค้านชี้แจงถึงการลงมติเห็นชอบน.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ว่า ไม่ได้พูดคุยตกลงกับพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด เป็นการตัดสินใจโดยอิสระ เพราะมีการเสนอชื่อเพียงชื่อเดียว และไม่ต้องการคัดค้าน ส่วนหลังจากนี้จะถูกจัดอยู่ให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำรัฐบาล ดังนั้น การทำงานในบทบาทขณะนี้ ถือว่าเป็นฝ่ายอิสระ ที่ไม่ใช่ฝ่ายค้าน แต่ละพรรคมีสิทธิพิจารณาตามหลักการประชาธิปไตย
‘บิ๊กป้อม’ฉุนสื่อสภาหนุนอิ๊งเป็นนายกฯ
สำหรับท่าทีของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในเรื่องดังกล่าว เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีสภาผู้แทนราษฎรลงมติเลือกน.ส.แพทองธาร ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตรมีท่าทีฉุนเฉียว ก่อนจะย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “ถามอะไรไม่รู้” พร้อมใช้มือผลักศีรษะผู้สื่อข่าวสุภาพสตรี ก่อนเดินไปขึ้นรถ มื่อผู้สื่อข่าวเดินตามไปถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ พล.อ.ประวิตรถึงกับแสดงความไม่พอใจ พร้อมกับพูดว่า “ฮู้” ก่อนเดินทางกลับทันที
‘เศรษฐา-แกนนำเพื่อไทย’แห่ยินดี
เวลา 13.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เดินทางไปที่ Voice Space เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเดินทางมาให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร ว่าที่นายกฯใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มีธุระกับนางสาวแพทองธารนิดหนึ่ง เมื่อถามว่าจะมาช่วยงานนางสาวแพทองธาร
ใช่หรือไม่ นายเศรษฐาปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่า ขอไม่ตอบ เพราะตอบไปหมดแล้ว วันนี้ขอเป็นคนธรรมดาดีกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยทยอยเดินมาร่วมให้กำลังใจนางสาวแพทองธารอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นายสมศักดิ์เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นอกจากนี้ ยังมีประชาชนเดินทางมารอให้กำลังใจเช่นกัน
‘อิ๊ง’แถลงขอบคุณลั่นพร้อมทำงานหนัก
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่วอยซ์สเปซ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แถลงข่าวหลังทราบผลการลงมติจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกฯ คนที่ 31 ของไทยว่า ต้องขอบคุณเสียงโหวตจากตัวแทนประชาชน ตนจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มความสามารถ ขอบคุณนายเศรษฐาอดีตนายกฯ ที่ทำงานหนักมาตลอด1 ปีเต็ม แน่นอนว่าเราพร้อมทำงานหนักเพื่อประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ตนขอรอให้มีการโปรดเกล้าฯ ก่อน แล้วจึงจะพูดถึงการบริหาร ที่มาแถลงข่าวครั้งนี้คือ มาขอบคุณคะแนนโหวตมากกว่า แต่ยอมรับว่าการพูดต่อหน้าไมโครโฟนครั้งนี้ตื่นเต้น จากปกติจะไม่ตื่นเต้น โดยก่อนที่จะออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชน ตนอยู่กับสามี พี่ชายและพี่สาว ส่วนพ่อกับแม่แม้ไม่ได้มาอยู่ด้วยกันที่นี่ แต่โทรศัพท์คุยกันแล้ว
แม้วดีใจเห็นลูกนั่งเก้าอี้นายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่านายทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ โทรศัพท์มาแสดงความยินดีแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า โทรคุยกับคุณพ่อคุณแม่แล้วคุณพ่อโทรเฟซไทม์มาบอกว่าเมื่อโปรดเกล้าฯแล้วให้ทำให้เต็มที่ พร้อมแซวว่า ดีใจที่มีหวังว่าจะได้เห็นลูกสาวได้รับตำแหน่งก่อนที่ท่านจะเป็นอัลไซเมอร์ เพราะอายุเยอะแล้ว ก็เป็นการพูดเล่นกันเป็นกำลังใจให้กันเสมอ ส่วนคุณแม่ก็เป็นห่วง โทรมาถามว่าทานข้าวหรือยัง ตนก็บอกคุณแม่ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี
ไม่กดดันมั่นใจมีทีม-แรงผลักดันดี
ถามว่ามีความกดดันหรือไม่ เนื่องจากหลายฝ่ายวิจารณ์โดยเฉพาะเรื่องอายุ พร้อมทำหน้าที่อย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า สามารถจัดการ
เรื่องความกดดันได้ ด้านการทำงานขอบอกว่ามายด์เซ็ทตั้งแต่เข้ามาทำการเมือง ตนไม่เคยคิดว่าดีสุด เก่งสุดในห้อง แต่คิดว่าเรามีแรงผลักดันที่ชัดเจน มีทีมที่ดี เข้มแข็ง และมีประสบการณ์ มีความตั้งใจ และคิดไปในทิศทางเดียวกับเรา นี่คือสิ่งที่ตนให้ค่ามากที่สุด ไม่ว่าอยู่ตำแหน่งไหน เมื่อมีทีมที่ดี เราก็จะประสบความสำเร็จได้
“การทำงานขอบอกตรงนี้เลยว่ามายด์เซ็ทที่เข้ามาทำงานตั้งแต่ก้าวเข้ามาในการเมือง ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุดในห้อง แต่คิดเสมอว่าเรามีแรงผลักดันที่ชัดเจน แล้วเรามีทีมที่ดี เรามีความโชคดีตรงนี้ที่ทีมของเราเข้มแข็ง มีประสบการณ์ มีความตั้งใจ แล้วก็คิดไปในแนวทางเดียวกับเรา ซึ่งอันนั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองให้คุณค่าตรงนี้มากๆ แล้วไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งตรงไหนก็ตาม เมื่อเรามีทีมที่ดี เราก็จะประสบความสำเร็จได้” น.ส.แพทองธาร กล่าว
เมื่อถามว่าจะนั่งนายกฯควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอรอโปรดเกล้าฯ ก่อน ตนไม่อยากลงรายละเอียดเรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะวันนี้มาพูดในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
โพสต์แรกของว่าที่นายกฯคนที่31
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมเป็นครั้งแรกหลังได้รับเลือกให้นั่งเก้าอี้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 และเป็นนายกฯหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย โดยเผยภาพสุดประทับใจพร้อมเขียนข้อความระบุว่า “ขอบคุณจากใจ #family”
จุดเริ่มต้นโศกนาฏกรรมการเมืองไทย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า สถานการณ์เปลี่ยนตัวนายกฯคนที่ 31 รวดเร็วต่อเนื่องตั้งแต่เย็น 14 ส.ค. แล้วมาลงตัวที่ให้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลูกสาวสุดท้องของนักโทษทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกฯ คนใหม่เท่ากับเป็นการตัดสินใจไปสู่จุดเริ่มต้นถูกล้มกระดานและโศกนาฏกรรมทางการเมืองของไทยอีกครั้ง “อุ๊งอิ๊ง”จะเป็นจุดเริ่มต้นของการล้มกระดานยกใหม่ โดยแววตาของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่มาแถลงหนุนให้เป็นนายกฯนั้น หาความสุขไม่ได้เลย มีสีหน้าเหมือนไปงานศพ แต่ละคนฝืนยิ้มบรรยากาศแถลงข่าวสำคัญไม่สดใส ภาษากายของผู้มาร่วมงานแสดงถึงความไม่สบายใจ เหมือนมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นกันอยู่ คนที่น่าสงสารมากคือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯอีกคนที่ถูกเรียกตัวเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อเย็นวันที่ 14 ส.ค. แล้วชูให้เป็นนายกฯคนที่ 31 ราวกับเอาคนป่วยไปเป็นตัวล่อให้ถูกรุมกระทืบ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจในการเสนออุ๊งอิ๊ง ขึ้นเป็นนายกฯ ซึ่งคนทำเช่นนี้ช่างไร้ความจริงใจแบบมนุษย์สิ้นเชิง
ถูกนักโทษ‘แม้ว’ครอบงำอย่างชัดเจน
นายจตุพร กล่าวอีกว่า คงต้องเผื่อใจไว้บ้างกับการตั้งนายกฯ คนที่ 31เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว แค่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง จากเย็นวันที่ 14 ส.ค. ถึงเย็นวันที่ 15 ส.ค. ที่มีการแถลงข่าวของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลได้เปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยถึง 2 คน ดังนั้น ก่อนถึงวันที่สภาลงมติเลือกในวันที่ 16 ส.ค.นี้ อาจเกิดเหตุฉับพลันให้เปลี่ยนตัวนายกฯ คนใหม่ขึ้นอีกก็ได้ ซึ่งใครจะไปรู้ อะไรก็เกิดขึ้นได้กับการเมืองไทย ส่วนแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลถูกเรียกไปประชุมหาตัวนายกฯ คนใหม่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้านั้น นายจตุพร เชื่อว่า เข้าข่ายถูกนักโทษครอบงำทางการเมืองอย่างชัดเจน เพราะบ้านจันทร์ส่องหล้าไม่ใช่บ้านตามสภาพคนปกติอยู่อาศัย แต่เป็นบ้านที่นักโทษแจ้งไว้ขณะถูกคุมตัวและได้รับการพักโทษอาศัยอยู่
“การเรียกแกนนำพรรคร่วมไปหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้าจึงเป็นการท้าทายกฎหมาย เป็นการแสดงแสนยานุภาพทางการเมืองของนักโทษ ดังนั้น ถ้าวันที่ 16 ส.ค. ผ่านการเลือกนายกฯ ได้แล้ว หลังจากนั้น คงไม่อาจคาดคิดว่า จะเกิดอะไรขึ้น แล้วต้องลุ้นกันอย่างสนุก เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ในสถานการณ์เปลี่ยนแปลงตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสดงถึงความไม่นิ่งของสถานการณ์”
เชื่อหลายนโยบายเดินหน้าต่อไม่ได้
นายจตุพร ยังกล่าวย้ำว่า “การเปลี่ยนตัวนายกฯ เป็นอุ๊งอิ๊ง ไม่ได้เป็นความสำเร็จทางการเมืองและของบ้านเมือง กลับจะเป็นจุดเริ่มต้นของความหายนะครั้งใหม่ เพราะอารมณ์ของสังคมเพิ่มความไม่พอใจกับ 4 โครงการสำคัญของพรรคเพื่อไทยที่พยายามผลักดัน คือ โครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ขายคอนโด 75% ต่างชาติอยู่นาน 99 ปี ตั้งบ่อนกาสิโนและลงทุนแลนด์บริดจ์ได้เช่าที่ดิน3 แสนไร่ นาน 99 ปี โดยยิ่งนานวันเข้ารัฐบาลเพื่อไทยกลับหาทางออกในโครงการเหล่านี้ยากเต็มทน อารมณ์ของประชาชนขณะนี้ไปเร็วและแรงมาก เป็นแรงเหวี่ยงที่คาดไม่ถึง เชื่อว่าหลังจากวันที่ 16 ส.ค. สภาเลือกนายกฯ ใหม่ตามเวลานัด 10.00 น. ถ้าเลือกนายกฯ สำเร็จ และอุ๊งอิ๊งได้เป็น (นายกฯ) เราจะเห็นอารมณ์ของประชาชนอีกรูปแบบหนึ่ง อีกทั้งคาดว่า แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมแถลงข่าวหนุนอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ คงไม่เห็นคุณสมบัติใดในตัวที่เหมาะสมนอกจากความเป็นลูกของทักษิณเท่านั้น จึงแสดงถึงความกังวลผ่านภาษากายในวันแถลงข่าวได้อย่างชัดเจน เท่ากับหวั่นไหวกับการประเมินอะไรผิดไปหรือไม่ ดังนั้น วันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความเชื่อมั่นของใครบางคนที่เสนอตัวนายกฯ คนใหม่ เป็นเธอคนนี้” นายจตุพร ประเมิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี