"ทักษิณ"เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ไม่ต้องรอถึง 31 ส.ค. เพราะอยู่ในกลุ่มผู้ถูกคุมประพฤติ 7,500 รายทั่วประเทศ
สืบเนื่องจากกรณีราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และมีผลใช้บังคับในวันถัดไปคือวันพรุ่งนี้ ( 18 สิงหาคม 2567) นั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราชกิจจาฯ เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ โอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา)
จากการตรวจสอบ พบว่าจะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ ประมาณ 50,000 ราย จากเรือนจำทั่วประเทศ ตามมาตรา 5 นอกจากนี้ยังมีนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับสิทธิ เข้าหลักเกณฑ์ลดวันต้องโทษ ตามพระราชกฤษฎีกา ฉบับดังกล่าวอีกกว่า 200,000 ราย
โดยกรมราชทัณฑ์เตรียมประชุมเตรียมความพร้อมรองรับผู้ต้องที่จะได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำ ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังเด็ดขาดทั่วประเทศ ที่ควบคุมอยู่ในเรือนจำ 220,094 ราย เป็นนักโทษชาย 192,898 และนักโทษหญิง 27,196 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 290,749 ราย จากข้อมูลกรมราชทัณฑ์ในวันที่ 16 ส.ค.2567
นอกจากนี้ หลังการออกพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถูกคุมประพฤติ 7,500 รายทั่วประเทศ จะพ้นโทษเป็นอิสระทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนดโทษในวันที่ 31 ส.ค. เนื่องจากผู้ถูกคุมประพฤติ 7,500 รายทั่วประเทศ ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา 3 ของพระราชกฤษฎีกาพระราช ทานอภัยโทษ 2567
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี