‘อธิบดีกรมราชทัณฑ์’เผย‘ทักษิณ’พ้นโทษมีผลทันที แจงขั้นตอนออกหมายปล่อย-ใบบริสุทธิ์ผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์มีรายชื่อได้รับอภัยโทษ ต้องทำเรื่องให้เสร็จภายใน 120 วัน
18 สิงหาคม 2567 นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงขั้นตอนการออกใบบริสุทธิ์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกำหนดพ้นโทษทันที ว่า ภายหลังจากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2567 มีผลทำให้นายทักษิณ พ้นโทษทันทีโดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนดโทษในวันที่ 31 ส.ค. เนื่องจากเป็นผู้ถูกคุมประพฤติที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามมาตรา 6 ของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 2567
ขั้นตอนหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการทำเรื่องเพื่อออกหมายปล่อย และออกใบบริสุทธิ์ให้เสร็จภายใน 120 วัน ซึ่งตามปกติแล้ว ในกรณีของผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์มีรายชื่อได้รับอภัยโทษ เมื่อมีการประกาศทางพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ 2567 ลำดับต่อไป ผู้บัญชาการเรือนจำแต่ละแห่ง ตุลาการ และอัยการ จะพิจารณากลั่นกรองรายชื่อว่าผู้ต้องขังคนไหนเข้าข่ายได้รับการปล่อยตัว ลดโทษตามสัดส่วนตามที่กำหนด
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรณีของนายทักษิณนั้น ทางผู้บัญชา การเรือนจำพิเศษธนบุรี ตุลาการและอัยการ จะพิจารณาก่อนส่งเรื่องเสนอให้ศาลอาญาธนบุรีออกหมายปล่อย รวมถึงใบบริสุทธิ์ให้ ส่วนระยะเวลาในการดำเนินเรื่องนั้น เบื้องต้นไม่สามารถกำหนดได้เพราะเป็นขั้นตอนที่ทำให้ผู้ต้องขังซึ่งมีรายชื่อทุกคนพร้อมกัน เพราะไม่ได้มีเพียงเฉพาะนายทักษิณ ชินวัตรเท่านั้น แต่ยืนยันว่าจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด
ขณะที่กรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่เอกสารแจกสื่อมวลชน ระบุใจความว่า ตามพระราชกฤษฎีกา ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป และต้องได้รับโทษจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษตามคำพิพากษา หรือไม่น้อยกว่า 8 ปี ทั้งนี้ ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษที่เป็นผู้ต้องกักขัง ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ และนักโทษเด็ดขาดคดีอาญาทั่วไปที่เป็นคนเจ็บป่วย พิการ ชราภาพ หรือเหลือโทษไม่มาก (ไม่เกิน 1 ปี) จะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป ส่วนนักโทษเด็ดขาดคดีอื่นจะได้รับการลดโทษในอัตราส่วนมากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับชั้นนักโทษและฐานความผิด
โดยการพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ได้รับการปล่อยตัวประมาณ 3 หมื่นคนเศษ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ แก่พสกนิกรที่เป็นผู้ก้าวพลาด ให้ได้รับโอกาสในการกลับตน เริ่มต้นชีวิตใหม่ และพระมหากรุณาธิคุณนี้ ยังแผ่ปกคลุมไปถึงครอบครัวผู้ก้าวพลาดที่ได้รับสมาชิกกลับคืนสู่อ้อมกอดอีกครั้ง
กรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมกันบำบัดฟื้นฟู และแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ ในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำและทัณฑสถาน โดยให้การศึกษา อบรมพัฒนาจิตใจ การฝึกทักษะอาชีพ การแนะแนวการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะการเข้ารับการฝึกอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย รวมถึงได้ประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเครือข่ายภาคสังคมและชุมชน ในการติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือเพื่อสร้างความพร้อมในการอยู่ร่วมกับสังคมโดยหวังว่าสังคมตลอดจนผู้ประกอบการ หรือห้างร้าน บริษัทต่างๆ จะให้โอกาสรับผู้ก้าวพลาดเข้าทำงาน เพื่อสร้างคุณค่าในตนเองสามารถประกอบอาชีพสุจริตเลี้ยงตนเองและครอบครัว และใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมได้อย่างปกติสุข โดยไม่คิดหวนกลับไปทำความผิดซ้ำ อันถือเป็นการป้องกันและคุ้มครองสังคมให้มีความปลอดภัยอย่างยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี