จูบปากเฉพาะกิจ!!! "รัฐบาล-ฝ่ายค้าน"เตรียมชงญัตติด่วนเขย่า"ตุลาการศาล รธน." ประพฤติตนขัดจริยธรรม ชี้เป็นการถ่วงดุล อัดต้องสำเหนียกตัวเอง ไม่ใช่พระเจ้า อยู่เหนือคนธรรมดา ลั่นถ้าผูัแทนฯถอดถอนไม่ได้ ประชาชนจะทำเอง ขณะที่"พรรคประชาชน"ขยี้ปมจริยธรรม บี้ถามอีก"8 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ"เห็นด้วยกับการกระทำเยาะเย้ยเสียดสีหรือไม่ ชี้ยิ่งเห็นความจำเป็นต้องยุบศาลรธน.
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงข่าวเตรียมยื่นญัตติด้วยวาจาต่อที่ประชุม ส.ส.บ่ายวันนี้ ว่า ตนจะยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา กรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่ง ได้ไปบรรยายตามที่เป็นข่าว ซึ่งไม่ประพฤติตนในจริยธรรมของการดำรงตนเป็นตุลาการ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพราะไปยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) หรือพรรคอะไร แต่มันเป็นเรื่องของการปฏิบัติและการดำรงตนเป็นผู้พิพากษาหรือตุลาการ ซึ่งมีประมวลจริยธรรมที่ชัดเจน การกระทำดังกล่าวเป็นการอวดเบ่ง เหยียดหยาม ทำลายคู่กรณี มีมายาคติ อคติ ไม่คู่ควรดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตนในฐานะที่เป็น ส.ส.ฝ่ายนิติบัญญัติ เห็นว่าการกระทำของท่านคนนี้ หรือจะมีมากกว่านี้ก็ไม่ทราบ เป็นอันตรายต่อการปกครองในระบบประชาธิปไตยอย่างยิ่ง
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ฝ่ายนิติบัญญัติจึงจะต้องตรวจสอบ เพราะพฤติกรรมอย่างนี้ ผู้พิพากษาคนนี้มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่ ไม่ควรจะไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เขาให้เป็นสมณะ เขาให้เป็นพระ แต่เมื่อคนประพฤติตัวอย่างนี้ แสดงว่าคุณปาราชิก
เมื่อถามว่า เป็นการยื่นถอดถอนใช่หรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะทำอย่างไร เพราะมีประมวลจริยธรรมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่เราในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติเห็นว่าท่านก้าวล่วงในการทำหน้าที่
"ท่านมีเพียง 9 คนเท่านั้น เราให้อยู่สูงแล้ว ท่านอยากอยู่ต่ำ ก็เชิญมาคลุกกับเรา ในฐานะที่เราเป็น ส.ส.ไม่ได้คิดว่าเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ศักดิ์ศรีของฝ่ายตุลาการและฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร เขาแยกเพื่อถ่วงดุลกัน"
เมื่อถามว่า โอกาสนี้จะยื่นร่วมกับพรรคประชาชน เพื่อแก้ไขกฎหมายหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า หลักการไม่ได้มีปัญหา ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้เช่นกัน นายอดิศร กล่าวว่า ได้ยินข่าวว่าอย่างนั้นว่าจะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา
เมื่อถามว่า จะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปไต่สวนจริยธรรมหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นขั้นตอนต่อไป คนไหนไม่เหมาะสมปราชิกแล้ว ก็อยากเป็นพระต่อไปเลย ยืนยันว่าเรื่องยังไม่ได้คุยกับวิปรัฐบาล ตนเสนอในฐานะ ส.ส.คนหนึ่ง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญหรือตุลาการได้สำเหนียกว่าตัวเองไม่ใช่พระเจ้าที่อยู่เหนือมนุษย์ธรรมดา ซึ่งตามจริยธรรมแล้วเขาไปบรรยายอะไรไม่ได้เลย ซึ่งการกระทำในลักษณะหัวเราะเยาะเย้ย ไม่คู่ควรจะดำรงตำแหน่งอีกต่อไป พร้อมย้ำว่า การเสนอวันนี้เป็นการถ่วงดุลตรวจสอบ แม้บางคนมองว่าอย่าเสี่ยง แต่ตนมองว่าไม่ใช่ เพราะมีคดีความเป็นเรื่องประจำ อยากจะเรียกร้องให้ฝ่ายตุลาการมีสติในการทำหน้าที่ เพราะการพูดในที่ประชุม ส.ส.นี้มีพลังในการถอดถอน ถ้าเราถอนอะไรไม่ได้ ประชาชนจะขอถอนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนายอดิศรแล้ว ทางพรรคประชาชน ก็เตรียมเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในเรื่องนี้ ช่วงบ่ายด้วยเช่นกัน โดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน
ขณะที่ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงว่า ตนขอตั้งคำถามถึงตุลาการทั่วประเทศ ตนได้ฟังคลิปการบรรยายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนหนึ่ง เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่มีเนื้อหาที่เยาะเย้ย เสียดสี แถมด้วยทวงบุญคุณพรรคก้าวไกล หรือคือพรรคประชาชน ในตอนนี้ ตนอดกังวลถึงวุฒิภาวะและสติปัญญาของคนที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่จะคอยตัดสินว่าใครไม่มีหรือมีจริยธรรมไม่ได้ ยิ่งเห็นได้ว่า ผมหงอกไม่ได้แสดงถึงสติปัญญาแต่อย่างใด ตนในฐานะนักกฎหมายคนหนึ่งจึงขอตั้งคำถามไปยังบรรดาตุลาการทั่วประเทศว่า ท่านฟังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนนี้พูดแล้วท่านคิดเช่นใด บูรพตุลาการหรือตุลาการในอดีตที่เคยสั่งสอนตุลาการมาหลายชั่วคน เคยสั่งสอนตุลาการรุ่นต่อๆมาให้กล่าวเยาะเย้ยเสียดสีหรือทวงบุญคุณกับตัวความในคดีที่ตนเองตัดสินเช่นนี้หรือไม่ ยกตัวอย่าง หากมีตุลาการที่ตัดสินคดีออกทวงบุญคุณกับโจทก์ที่ชนะคดีโดยตุลาการได้พูดว่าโจทก์ต้องขอบคุณตนที่ตัดสินให้โจทก์ชนะคดีได้เงินถึง 20 ล้านบาท คนฟังอาจจะเข้าใจผิดว่า ตุลาการที่พูดเช่นนี้หวังส่วนแบ่งในเงินที่ชนะคดีหรือไม่
นายจุลพงศ์ กล่าวต่อว่า การที่ตุลาการออกมาพูดเสียดสีหรือทวงบุญคุณตัวความเช่นนี้จะทำให้สถาบันตุลาการสั่นคลอน จริยธรรมของตุลาการจะถูกตั้งคำถามจากประชาชน ที่สำคัญต้องไม่ลืมคือ ตุลากาการหรือศาลที่ทำหน้าที่ตัดสินคดีนั้นได้กระทำลงภายใต้พระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ ตุลาการจะคะนองปากเอาคำตัดสินที่ตนตัดสินมาเสียดสีคนอื่นไม่ได้ หรือเอาการตัดสินคดีมาพูดเล่นเสียดสีตัวความนั้น ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนที่พูดไม่สนใจว่าการตัดสินคดีทุกคดีกระทำลงภายใต้พระปรมาภิไรยของพระพระมหากษัตริย์
"คนพูดเป็นตุลาการที่ตัดสินคดี แต่ออกมาเยาะเยียเสียดสีทวงบุญคุณคู่ความนอกเหนือจากเนื้อหาของคดีเช่นนี้ มันเหมาะสมในการจะยังเป็นตุลาการหรือไม่ ผมไม่กลัวที่ตั้งคำถามเช่นนี้เพราะคนที่เยาะเยียเสียดสีพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชนในครั้งนี้ ในขณะที่พูด คนพูดไม่ได้กำลังกระทำในอำนาจและหน้าที่ของตุลาการแต่อย่างใด และนับวันเราจะเห็นคนบางกลุ่มที่คอยชี้ว่าคนนี้ไม่มีจริยธรรม คนนั้นไม่มีจริยธรรม ได้แสดงความคิด ความอ่านอะไรออกมาต่อสาธารณะ แทนที่จะทำให้คนนับถือและเชื่อมั่นในสถาบันที่คนพูดสังกัดมากขึ้น กลับทำลายสถาบันสำคัญของชาติที่ตนสังกัด" นายจุลพงศ์ กล่าว
นายจุลพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนจึงขอตั้งคำถามไปยังตุลาการศาลรัฐธธรรมนูญอีก 8 คน จากทั้งหมด 9 คน ว่า เห็นด้วยกับการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรรมนูญที่ออกมาเยาะเย้ยเสียดสีตัวความที่คุณนั่งตัดสินคดีเช่นนี้ด้วยหรือไม่ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล้าที่จะตักเตือนจริยธรรมกันเองหรือไม่ หรือระดับจริยธรรมอยู่ในระดับเดียวกัน ซึ่งจะยิ่งทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญหรือยุบศาลนี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี