"กมธ.ทหาร"ไล่บี้!!! ถกปม"พลทหารถูกซ้อม"จนเสียชีวิต ด้าน"วิโรจน์"เผย"กองทัพ"ไม่มาแจง ซัดเป็นการเย้ย-ท้าท้าย ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันแล้ว จ่อใช้"พ.ร.บ.อุ้มหาย"เล่นงานเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม พิจารณากรณีทหารเกณฑ์ถูกลงโทษทางวินัยจนเสียชีวิต โดยได้เชิญ กองทัพบก , กรมสอบสวนคดีพิเศษ , สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด แต่ทางกองทัพบก แจ้งเลื่อนการเข้าชี้แจง และจะมีหนังสือตอบมาในภายหลัง
ก่อนการประชุม นายวิโรจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า กรรมาธิการได้เชิญผู้บังคับบัญชา ค่ายนวมินทราชินี หรือ กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จ.ชลบุรี ผ่านกองทัพบก ในฐานะต้นสังกัด แต่ได้รับการปฏิเสธเข้ามาชี้แจง โดยมีข้อเท็จจริงจากกองทัพภาคที่ 1 ชี้แจงออกมาได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่กระทำความผิดซึ่งเป็นกำลังพล ระดับนายสิบและทหารกองประจำการ จำนวน 13 นาย ข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และดำเนินการทางวินัยต่อผู้บังคับบัญชาที่ขาดการกำกับดูแล จำนวน 3 นาย ตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวดจนถึงผู้บังคับกองพัน แต่จากการดูผลชันสูตรพบว่าอวัยวะภายในบอบช้ำ กระดูกสันหลังหัก และยังมีกระดูกหักอีกหลายซี่ น่าจะเป็นการพยายามฆ่ามากกว่า
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เราเคยข้อความร่วมมือกับ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ในการจัดทำโครงการพลทหารปลอดภัย ที่มีความตั้งใจเพื่อไม่ให้มีพลทหารเสียชีวิตในค่าย การกระทำการเช่นนี้ถือเป็นการเย้ย ท้าทาย ไม่กลัวเกรงกฎหมาย ซึ่งปล่อยไว้ไม่ได้ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ต้องจริงจังกว่านี้ ในส่วนของ กมธ.ได้ใช้กลไกของพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย ดำเนินการเรื่องนี้ด้วย โดยจะมีการชี้เบาะแสในกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และอัยการ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว หากพบว่าระดับผู้บังคับบัญชาไม่ได้ดำเนินการตามสมควร ต้องร่วมรับผิดด้วยกึ่งหนึ่ง และทหารที่ก่อเหตุต้องขึ้นศาลอาญาทุจริต ไม่ใช่ศาลทหาร จึงมีความยุติธรรมที่จะมอบให้กับผู้เสียหายอย่างมาก ส่วนตัวคิดว่าควรยกเลิกความรุนแรงในค่ายทหารได้แล้ว ความมีวินัย ความเข้มแข็งของพลทหารไม่จำเป็นต้องแลกด้วยการซ้อมทรมาน จึงขอตั้งคำถามซี่โครงหัก ปอดฉีกขาด อวัยวะภายในหลายแห่งบอบช้ำ แบบนี้คือการธำรงวินัยหรือไม่ และที่สำคัญผู้เสียชีวิตสมัครมาเป็นทหาร ต้องตั้งคำถามว่าคุณทำกับคนที่อยากมาเป็นทหารได้ยังไง
"ยืนยันว่า เมื่อกองทัพไม่มา ผมเองก็ไม่มีหน้าที่ต้องไปหา ถือเป็นการเย้ยและท้าทายกรรมาธิการการทหาร เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องเกรงใจเหมือนกัน ว่าไปตามกฎหมาย" นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันทนายความของครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้ชี้แจงต่อกรรมาธิการ นายทหารระดับนายพัน เชิญพ่อแม่ของพลทหารวรปรัชญ์ เข้ามาพูดคุยถึงเรื่องการรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายทหารคนดังกล่าวในฐานะผู้บังคับบัญชาค่าย ได้ดูแลครอบครัวของผู้เสียหายอย่างดี ตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ เช่น ค่าใช้จ่าย การประสานงานติดตามจับกุมผู้ต้องหา แต่ครอบครัวพลทหารวรปรัชญ์ ยืนยันว่ากองทัพบอกต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เพราะเรื่องนี้เป็นการกระทำของผู้ใต้บังคับบัญชา โดยนายทหารคนดังกล่าว ขอร้องไม่ให้ญาติพลทหารวรปรัชญ์ ฟ้องร้องดำเนินคดีกับกองทัพบก แต่ทนายความได้ยืนยันไปว่า เป็นสิทธิ์ของญาติที่จะฟ้องกองทัพได้ โดยมีการนัดหมายจะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 3 กันยายนนี้
ขณะที่ นางนิชนันท์ วังคะฮาต สมาชิกพรรคประชาชน ซึ่งเป็นผู้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ กล่าวว่า มีพลทหาร ในค่ายนวมินทร์ฯ ส่งข้อความมาแจ้งเบาะแส เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก สาเหตุที่พลทหารวรปรัชญ์ถูกธำรงวินัยอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นคนช้า จึงมักจะถูกธำรงวินัยอยู่ ทั้งเตะ ต่อย กระทืบ ถูกสั่งให้เข้าเวรยาม 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง ถูกบังคับให้กินปัสสาวะตัวเอง จนป่วย เคยแจ้งหัวหน้าหน่วยแล้วแต่ถูกเพิกเฉย จนทำให้ป่วยหนักและเสียชีวิตในที่สุด นอกจากนี้ ทางผู้บัญชาการค่ายนวมินทร์ฯ ยังไม่มีมาตรการอะไรออกมาในการดูแลเรื่องนี้ เพียงแต่ให้คำยืนยันกับญาติว่าจะดูแลพลทหารที่มาเป็นพยานให้ที่สุด เพื่อไม่ให้นายทหารที่ถูกดำเนินคดี เข้ามาข่มขู่หรือยุ่งเหยิงกับรูปคดีเด็ดขาด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี