"หมอเปรม"เป็นห่วงพ่อครอบครองลูกในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ต่างจากกรุงสุโขทัยที่พ่อปกครองลูก หวั่นประชาชนสับสนจะติดต่อพ่อหรือลูกดีในการบริหารประเทศ ลั่นถ้าครอบครองแล้วเกิดโทษต่อประเทศยอมไม่ได้

22 สิงหาคม 2567 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) จัดเวทีอภิปรายเครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ "ทุนผูกขาดเศรษฐกิจ กับการครอบงำการเมืองและผลการแทรกแซงองค์กรภาครัฐ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้บริโภค" เพื่อยื่นข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลใหม่ในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจทุนผูกขาด และข้อเสนอต่อรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา น.ส.รสนา โตสิตระกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค นายเมธา มาสขาว ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ ผอ.สถาบันสังคมประชาธิปไตย รักษาการเลขาธิการ ครป. นายจำนงค์ หนูพันธุ์ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-Move) และ นายปรีชา กรปรีชา รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ณ ห้องสีดา โรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำนิน

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา  กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนได้ฟังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ถามว่า คนเป็นห่วงเรื่องการครอบงำลูกที่เป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณตอบว่า ไม่ได้ครอบงำแต่ครอบครองเพราะเป็นลูกสาว ได้ฟังแล้วรู้สึกเป็นห่วงมาก ในอดีตเมื่อ 800 ปีที่ผ่านมากรุงสุโขทัยปกครองแบบ"พ่อปกครองลูก" แต่มายุคกรุงรัตนโกสินทร์มีการปกครองแบบใหม่ "พ่อครอบครองลูก" จะผิดฝาผิดตัวหรือไม่ ประชาชนจะติดต่อพ่อหรือจะติดต่อลูกดีในการบริหารประเทศ ตรงนี้ถือว่าท้าทาย แบบไหนเกิดประโยชน์ ถ้าครอบครองแล้วเกิดโทษต่อประเทศก็คงยอมไม่ได้ การเมืองเวลานี้สับสนไปหมดจะป้อมหรือแป้งเอาอะไรกันแน่ ฟังดูอาจจะเอาแป้งแต่ฉีกป้อม แล้วจะเอาปชป.มาอีก หนังจบแล้วใครจะร่วมรัฐบาล

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยใช้เสียงข้างมากแต่ต้องรับฟังเสียงข้างน้อยอย่างพวกตนด้วย เพราะสว.โหวต 140 ขึ้นทุกครั้ง ตนอยู่ในระดับ 20-30 เสียงแต่ไม่เป็นไรแพ้ข้างในแต่ชนะใจข้างนอก ก็จะขอทำหน้าที่นี้ต่อไปแม้จะยากเย็น  การเข้ามาเป็น สว.เพราะไม่อยากสังกัดพรรคการเมืองอีกต่อไป แต่เกือบเข้ามาไม่ได้เนื่องจากมีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ  ในฐานะ สว.จะขอตรวจสอบเรื่องที่พูดกันวันนี้อย่างจริงจัง  รวมถึงการแต่งตั้งองค์กรอิสระต่าง ๆ ในบทบาทของ สว. ในขณะนี้ สว.มีอำนาจลงชื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง รวมถึงการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้ จะต้องไม่สุกเอาเผากินแต่งตั้งรัฐมนตรีที่มีรอยแผลเหมือนในอดีต

"จะยับยั้งกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมจากผู้แทนราษฎรตรงนี้ยังคงดำเนินอยู่ จึงขอฝากเสียงข้างนอกช่วยสนับสนุนเสียงข้างน้อยอย่างผมด้วย อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีคนใหม่บอกว่า จะทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศไทยเป็นพื้นที่แห่งโอกาสให้ประชาชนมีเสมอภาคกัน ก็จะรอดู เพื่อให้คนไทยมีกินมีใช้มีศักดิ์ศรีไปด้วยกัน"นพ.เปรมศักดิ์กล่าว