‘หมอมิ้ง’มึนส่งชื่อเกินโควตารมต.
เร่งจัดครม.อิ๊งค1
ไล่ตรวจคุณสมบัติใน2สัปดาห์
‘พิชัย ชุณ’ส่งประวัติให้สลค.สอบ
ฮือฮา‘นฤมล’จ่อเสียบเกษตรฯ
‘บิ๊กป้อม’ลั่นยังนั่งหน.พปชร.
“หมอมิ้ง”เผยรายชื่อครม.จบแล้ว เกินจำนวนเก้าอี้ในครม.รอตรวจคุณสมบัติทุกคน คาดใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์เร็วสุด 1 สัปดาห์“เพื่อไทย”ขีดเส้นพปชร.เคลียร์กันให้จบ ไม่ขอเป็นตัวกลางขอปกป้องนายกฯเต็มที่ คุณสมบัติต้องผ่าน ขู่ดึงปชป.เสริมเสถียรภาพ เปิดโผรมต.เพื่อไทย‘ชลน่าน’รองนายกฯ‘ชูศักดิ์’ประจำสำนักนายกฯ‘สรวงศ์’รมว.ท่องเที่ยว‘ธีรรัตน์’รมช.มหาดไทย ‘เสริมศักดิ์’นั่ง‘กลาโหม’‘บิ๊กป้อม’สยบข่าวลือลาออกหัวหน้าพปชร.ยกให้‘ธรรมนัส’ลั่นยังทำหน้าที่ต่อไป‘ธรรมนัส’อุบส่งโผ ลั่นไม่ยุ่งพปชร.แล้ว ปชป.ส่อระอุ’เดชอิศม์’หงายไพ่รอร่วมรบ.โร่คุย‘เฉลิมชัย’ผ่าปชป.เป็น2ซีก เขย่าแรงไม่ไว้หน้า’ผู้อาวุโส’ยันต้องไปสร้างผลงานให้โดดเด่น กู้ศรัทธาคืน เชื่อพรรคไม่แตก-ไม่สูญพันธุ์อยู่ได้ด้วยมติพรรค
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 สิงหาคม2567ที่ศาลหลักเมือง กทม.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางสักการะศาลหลักเมืองเพื่อเสริมสิริมงคลเนื่องในวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 38 ปีภายหลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี,นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม , นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมและนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมคณะด้วย
‘ภูมิธรรม’เขินสื่อเรียก‘บิ๊กอ้วน’
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกล่าวแซวหลังมีกระแสข่าวที่จะนั่งรองนายกรัฐมนตรีควบรมว.กลาโหมว่าต่อไปนี้ต้องเรียก“บิ๊กอ้วน”ใช่หรือไม่ ทำให้ นายภูมิธรรม ถึงกับหัวเราะ ก่อนกล่าวว่า“เมื่อคืนมีคนถามผมว่าจะมากระทรวงกลาโหมหรือเปล่า ผมก็บอกเขาว่าจะมาเช้าวันนี้ มานั่งกินกาแฟที่กรมสวัสดิการฯ”
เมื่อถามต่อว่ากระทรวงสวยดีหรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า“กระทรวงสวยดี”เมื่อถามอีกว่าต่อไปนี้จะต้องเรียกว่า“บิ๊กอ้วน”ใช่หรือ เนื่องจากเตรียมที่จะนั่งกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม หัวเราะก่อนตอบว่า “ผมอ้วนอยู่แล้วไม่ต้องเรียกว่าบิ๊กหรอก”
‘สุทิน’ยังยิ้มได้หลังชื่อ‘ภูมิธรรม’เสียบ
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนตำแหน่ง รมว.กลาโหมใหม่หลังมีกระแสข่าวชื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย ยังไม่มีใครทราบอะไรเลย ต่างคนทำงานกันอยู่ ตนเห็นว่ามีหลายชื่อไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อใด ในส่วนตนก็ยังไม่ทราบ หากต้องสลับเก้าอี้ไปกระทรวงอื่น หากเป็นมติของพรรคก็ทำได้ ยอมรับว่ายังไม่ได้คุยเรื่องงานในกองทัพกับนายภูมิธรรม หากต้องมานั่ง รมว.กลาโหมแทนตน เพราะตัวท่านก็ยังขำอยู่ และไม่รู้ตัวว่าจะมาเป็น รมว.กลาโหม ยืนยันว่าวันนี้ตนยังยิ้มได้ ไม่มีปัญหาและยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการจัดทำโผ ครม.ในพรรคเพื่อไทย จึงไม่ทราบว่านิ่งหรือไม่ แต่ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยจัดได้ง่ายกว่า
‘อิ๊งค์-เศรษฐา’เข้าตึกชินวัตร3
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่อาคารชินวัตร3 ว่าเมื่อเวลา10.00 น.นายเศรษฐาทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางเข้ามายังอาคารชินวัตร 3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสโดยไม่ได้มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ จากนั้น น.ส.แพรทองธาร พร้อมนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงอาคารชินวัตร3โดยนายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์โดยขอให้สื่อมวลชนรอก่อน
‘หมอมิงค์’ได้ชื่อครม.แล้วแต่เกินเก้าอี้
ด้านนพ.พรหมินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้า การส่งรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลว่า รายชื่อที่ส่งมา ได้ส่งมาเรียบร้อย กำลังอยู่ในขั้นตอนการส่งตรวจ แต่เป็นรายชื่อที่เกินจำนวนรัฐมนตรีฉะนั้นจึงต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติทุกคน ผู้สื่อข่าวถามว่าเกินจำนวนนั้นหมายถึงการส่งรายชื่อสำรองในกรณีที่บางคนคุณสมบัติไม่ผ่านใช่หรือไม่นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า“ไม่เชิงสำรอง แต่ทั้งหมดอยู่ในหมวดที่ต้องพิจารณา”เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้ส่งเกินจำนวนหรือไม่นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบ
ไม่ตอบโผรายชื่อปชป.ร่วมรบ.
เมื่อถามว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ส่งรายชื่อมา ด้วยหรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า”ไม่ทราบ เขาใส่ซองมาผมไม่ได้ดู”เมื่อถามว่าวันนี้ถือว่า ปิดรายชื่อจบแล้วใช่หรือไม่และเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัตินายแพทย์พรหมินทร์กล่าว ยอมรับว่า“ใช่ กำลังตรวจคุณสมบัติอยู่”เมื่อถามว่า เช่นเดียวกับของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า“เหมือนกันครับ ส่งหมดแล้ว
เช็คทุกคน/คาดไม่เกิน2สัปดาห์
เมื่อถามว่าคาดว่าจะส่งตรวจสอบคุณสมบัติได้ในวันไหน นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเยอะนิดหนึ่ง จากที่เป็นปกติ แต่กระบวนการต่างๆ ทางฝ่ายของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กำลังประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เชื่อว่าจะทำให้ได้ รอบคอบที่สุดในเวลาที่เหมาะสม ส่วนที่มีกระแสข่าวขอความร่วมมือองค์กรอิสระต่างๆเข้ามาร่วมตรวจสอบคุณสมบัติด้วยใช่หรือไม่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า คือข้อมูลต้องไปอย่างนั้นอยู่แล้ว ปกติก็ต้องทำอย่างนั้น คือจำเป็นจะต้องเช็คหลายๆทางเพื่อตรวจสอบให้เกิดความรอบคอบคงไม่ได้ใช้เวลาถึง2เดือนอย่างที่เป็นข่าว เมื่อถามว่าภายใน 2สัปดาห์จะเสร็จหรือไม่นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า”ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิน เผลอๆสัปดาห์เดียวก็ได้”
พท.ขีดเส้นพปชร.เคลียร์กันให้จบ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แม้นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าแต่ละพรรคการเมืองได้ส่งชื่อมาให้ครบทุกพรรคเรียบร้อยแล้วก็ตาม
มีรายงานว่าในส่วนของพรรคพลังประชารัฐรัฐ(พปชร.)ยังไม่สะเด็ดน้ำ ปัญหาภายในยังเคลียร์กันไม่จบ โดยเมื่อคืนวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมาร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่าและนายสันติ พร้อมพัฒน์ได้ไปพบกับแกนนำของพรรคเพื่อไทยเพื่อที่จะให้พรรคเพื่อไทยเป็นคนกลางในการเคลียร์ปัญหา แต่แกนนำของพรรคเพื่อไทยขอให้ทั้งสองคนไปคุยกันเองเพื่อให้ได้ข้อสรุป โดยไม่ขอเป็นคนกลางทั้งนี้ทางแกนนำพรรคเพื่อไทยย้ำไปว่าอยากให้พรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งจึงขอให้ตกลงกันแต่ถ้ายังตกลงกันไม่ได้แบบนี้พรรคเพื่อไทยก็มีเวลาจำกัดเช่นกันคงต้องเลือกฝ่ายที่ทำงานกับพรรคเพื่อไทยมาตลอดส่วนชื่อของพรรคพลังประชารัฐที่ปรากฏตามสื่อต่างๆในขณะนี้ก็เป็นเพียงการโยนมาทางอากาศเท่านั้น
ปกป้องนายกฯเต็มที่คุณสมบัติต้องผ่าน
ขณะเดียวกันทางแกนนำพรรคเพื่อไทยได้เน้นย้ำถึงเรื่องของคุณสมบัติบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีซึ่งหากไม่ผ่านจริงๆขอให้หาบุคคลสำรองที่อยู่ในโควตาของตนเองมาแทนแหล่งข่าวจากวงหารือยังระบุถึงคำพูดของแกนนำพรรคเพื่อไทยว่า“ผมจำเป็นต้องขอปกป้องนายกฯของผม ฉะนั้นทุกอย่างต้องถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้ทุกคนเข้าใจและเห็นใจกันด้วย การตรวจสอบครั้งนี้เจาะลึกและเข้มข้นกว่าทุกครั้ง”
ขู่ดึงปชป.เสริมเสถียรภาพรัฐบาล
แหล่งข่าวเผยด้วยว่าหากปัญหาภายในของพรรคประชารัฐไม่สามารถหาข้อยุติได้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะดึงพรรคประชาธิปัตย์ ประมาณ21เสียง มาเสริมเสถียรภาพของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีรายงานว่า เมื่อคืนนี้หลายคนได้รับ แบบฟอร์มกรอกประวัติและได้ส่งกลับมาให้นพ.พรหมินทร์แล้ว
โผพท.‘ชลน่าน-ชูศักดิ์-สรวงค์-ธีรรัตน์’
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโผรายชื่อรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย ล่าสุดคือนายชลน่าน ศรีแก้ว รองนายกรัฐมนตรี นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ส่วนนายพิชัย ชุณหวชิร เหลือตำแหน่งเดียวคือรมว.คลัง
‘เสริมศักดิ์’สลับนั่งคุม‘รมว.กลาโหม’
โดย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช จะมาเป็น รมว.กลาโหม ส่วนคนอื่นๆยังเป็นรมต.ในตำแหน่งเดิมไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ น.ส.จิราพร สินธุไพร นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล นางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ปิยะโชติส่วนคนที่หลุดเก้าอี้รัฐมนตรีครั้งนี้คือนายสุทิน คลังแสง นายเกรียง กัลป์ตินันท์และนายจักรพงษ์ แสงมณี
‘บิ๊กป้อม’สยบข่าวลือลาออกหน.พปชร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันเดียวได้เกิดกระแสข่าวว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร.หลังเกิดความขัดแย้งภายในพรรคจากการส่งรายชื่อรัฐมนตรีพรรคและมีข่าวลือหนักว่า ถอดใจและจะยกพรรคให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคไปดูแลพรรคแทนล่าสุดผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามพล.อ.ประวิตรถึงกระแสข่าวดังกล่าวโดยพล.อ.ประวิตรยืนยันว่า”ไม่ลาออก จะลาออกทำไม ผมยังทำหน้าที่ต่อไป” ขณะที่ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า”ยังไม่ทราบเรื่องข่าวที่ออกมา” ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันเดียวกันพล.อ.ประวิตรได้เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับส.ส.พรรคที่จ.สระบุรี
‘ธรรมนัส’ลั่นไม่ได้ยุ่งเรื่องพปชร.แล้ว
ขณะที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเดินทางถึงกรมชลประทานผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค พปชร.โดยร.อ.ธรรมนัสพยายามปฏิเสธให้สัมภาษณ์ระบุว่า”ผมจะคุยเรื่องน้ำ ไม่คุยเรื่องการเมือง จะจบกันหมดแล้ว”
เมื่อถามถึงที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีระบุว่ารายชื่อของพลังประชารัฐยังไม่เรียบร้อยนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “เรื่องของพรรคพปชร.ผมเองไม่ได้ยุ่ง”
แย้มหลังฝนตก ฟ้าย่อมสว่าง
เมื่อถามย้ำว่าคนของตัวเองเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า”คุยเรื่องน้ำ ทำไมไม่ถามเรื่องน้ำ”ผู้สื่อข่าวพยายามเกลี้ยกล่อมว่าเรื่องน้ำขอถามหลังประชุม ร.อ.ธรรมนัสจึงกล่าวว่า “หลังฝนตก ฟ้ามันก็สว่าง” เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้ฟ้าสว่างแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส หัวเราะและบอกว่าหมายถึงเรื่องฝน
‘เดชอิศม์’หงายไพ่ปชป.รอร่วมรบ.
เวลา12.50น.ที่รัฐสภา นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยประสานให้เข้าร่วมรัฐบาลว่า เบื้องต้นถ้ามีการพูดคุยเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาลนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนเดียวที่จะถูกติดต่อได้ ดังนั้นหากติดต่อมาก็ต้องติดต่อที่นายเฉลิมชัยโดยช่วงเย็นวันนี้ (22ส.ค.) ตนจะได้เจอกับนายเฉลิมชัย
เมื่อถามว่าค่อนข้างชัดเจนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาลนายเดชอิศม์ตอบว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังเหมือนเดิมคือถ้าพูดคุยเบื้องต้น หัวหน้ารับเทียบเชิญมาแล้วก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและสส.ประชุมร่วมกัน หากที่ประชุมบอกว่าไม่เข้าร่วมรัฐบาลก็ต้องไม่ร่วมรัฐบาล แต่ถ้าที่ประชุมส่วนใหญ่บอกให้ร่วมรัฐบาล แล้วเราจะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง เหมือนกับสมัยที่แล้วที่ถกเถียงกันถึง 1 วัน 1 คืน
ลั่นปชป.อยู่ได้เพราะมติพรรค
“ฝ่ายที่เห็นว่าควรร่วมรัฐบาล 61 คะแนน ฝ่ายที่ไม่เห็นชอบ นำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค 16 คะแนน พอผลลงมติออกมา 16 นั้น มาอยู่กับฝ่ายที่เห็นชอบ15 คะแนน ส่วนนายอภิสิทธิ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค จึงเป็นมติร่วมรัฐบาล วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ส่วนใหญ่จะว่าอย่างไร เราก็ว่าตามนั้น พรรคประชาธิปัตย์อยู่ได้เพราะมติพรรค”นายเดชอิศม์ ย้ำ
ปัด2โควตา รมต.ต้องถามเสี่ยต่อ
เมื่อถามว่าจะมีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคและสส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อใด นายเดชอิศม์ กล่าวว่าเดี๋ยววันนี้ตนจะเจอกับนายเฉลิมชัย หัวหน้าพรรคก็จะถามว่าประชุมเมื่อใดเทียบเชิญร่วมรัฐบาลมาแล้วหรือยังเมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์ได้โควตารัฐมนตรี 2 ตำแหน่ง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตนก็ได้แต่ข่าวเหมือนกัน ส่วนรายละเอียดต้องถามหัวหน้าพรรค
แบ่ง2กลุ่มเขย่าไม่ไว้หน้า’ผู้อาวุโส’
เมื่อถามว่า ตามกระแสข่าวมีรายชื่อนายเดชอิศม์ และนายเฉลิมชัย เป็นรัฐมนตรีด้วย หากพรรคประชาธิปัตย์มีการเข้าร่วมรัฐบาลจริง และมีการเสนอชื่อตามนั้น พร้อมจะทำหน้าที่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า สส.ในสภาฯ ส่วนใหญ่แบ่งเป็น2กลุ่มใหญ่ คือกลุ่ม ก. สส.ที่พูดเก่ง ตำหนิเก่ง วิจารณ์เก่ง พวกนี้เขาจะทำงานไม่ค่อยเก่ง พวกนี้ก็จะมีความคิดไม่อยากร่วมรัฐบาล ส่วนกลุ่ม ข.พูดอาจไม่เก่ง ตำหนิไม่เก่ง แต่เขาทำงานเก่ง เขาจึงถือว่ารอโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล เพราะจะได้มีโอกาสสร้างผลงานให้กับประเทศชาติและประชาชน เท่ากับสร้างผลงานให้กับพรรคตัวเองได้ด้วย ดังนั้นกลุ่มไหนมากกว่ากลุ่มนั้นก็ชนะ
เมื่อถามว่ากลุ่มของนายเดชอิศม์ ถือเป็นกลุ่มข.ไข่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของการเมือง เข้ามาเป็นสส.อยากช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว เรามองข้ามพรรคไปแล้วแต่เรามองไปถึงชาติและประชาชน ถ้ามีโอกาสช่วยเหลือประเทศและประชาชนต้องไม่ทิ้งโอกาสเมื่อถามว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่เพราะกลุ่มอาวุโสในพรรคไม่เห็นด้วย นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ท่านอาจจะพูดก่อนที่จะลงมติ แต่พอลงมติแล้วเชื่อว่าทุกคนเคารพมติพรรค
เชื่อเข้าร่วมรบ.ไม่ทำให้พรรคแตก
เมื่อถามว่าจะไม่ทำให้พรรคแตกใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่ทำให้พรรคแตก เพราะรอบที่ผ่านมา ทุกคนคิดว่าพรรคแตกแต่ก็ออกไปแค่คนเดียวคือนายอภิสิทธิ์ที่บอกว่าไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกฯ แล้วลาออกไป
เมื่อถามว่าหากมีการเข้าร่วมรัฐบาลจริงถือว่าจะไม่เสียอุดมการณ์ของพรรคที่เคยอภิปรายพรรคเพื่อไทยรัฐบาล นายเดชอิศม์ กล่าวว่าวันนี้ต้องรีเซ็ตประเทศไทย ไม่ใช่รุ่นปู่ ตนทะเลาะกับปู่ของสื่อมวลชน แล้วมารุ่นตนต้องโกรธกันด้วย ตนว่าไม่ใช่ ขอให้มองที่ประเทศชาติและประชาชน เพราะวันนี้เราเสียโอกาสไปเยอะมาก ถ้ามีโอกาสเราก็อยากช่วยเหลือ
ยันคุณสมบัติพร้อมจะเป็นรัฐมนตรี
เมื่อถามว่ามีการพูดถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ในส่วนของนายเฉลิมชัยและนายเดชอิศม์กลัวว่าจะมีปัญหาหรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตนไม่มีประวัติหรือคดีใดๆเลย ไม่เคยเป็นผู้ต้องหาใดๆดังนั้นคุณสมบัติของตนพร้อมที่จะเป็นรัฐมนตรี แต่อยู่ที่ประชุมพรรคและพรรคแกนนำด้วยว่าจะเชิญหรือไม่เชิญ
ปัดดีลธรรมนัสชี้ร่วมรบ.ต้องคุยพท.
เมื่อถามว่าเมื่อวันที่ 20 ส.ค. มีข่าวการพูดคุยกันที่บ้านดาวล้อมเดือนของนายเฉลิมชัยมีการเสนอเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายเดอิศม์ กล่าวว่าไม่ และขอปฏิเสธว่าร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มาพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่จริง ไม่เจอทั้งนายเฉลิมชัยและตน ยังไม่เคยพูดคุยเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีด้วย เพราะถ้าจะร่วมรัฐบาลก็เป็นเรื่องระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยวกับพรรคอื่นใดๆเลย หลายคนไปมองว่าพลังประชารัฐออกไป ประชาธิปัตย์ เข้าที่จริงไม่เกี่ยวกันเลย เขาจะอยู่จะไปก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ
เมื่อถามอีกว่าเบื้องต้นมีการพูดคุยกันไว้บ้างหรือไม่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างนายเดชอิศม์กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนายเดชอิศม์ กล่าวว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตนเคารพนับถือนายทักษิณ แต่เรื่องการร่วมรัฐบาลเราได้มอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนพูด
โวอยากสร้างผลงานให้ปท.-กู้ศรัทธา
เมื่อถามว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลอาจถูกมองว่าโดดเดี่ยวพรรคประชาชนให้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายเดชอิศม์กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ถ้ามองในเชิงฝ่ายค้านก็อาจจะมองได้ แต่ถ้ามองว่าเราอยากสร้างผลงานให้กับประเทศชาติ และสร้างผลงานให้กับพรรคเรา โดยแนวคิด อุดมการณ์ที่เรามีเพื่อช่วยเหลือประชาชนก็มองในมุมนั้นได้
เมื่อถามว่าหากไปร่วมรัฐบาลในระยะยาวพรรคประชาธิปัตย์อาจถูกปิดสวิทช์ได้เพราะเสียฐานเสียงคนภาคใต้ นายเดชอิศม์กล่าวว่าไม่มี ถ้าเราไปสร้างผลงานให้โดดเด่นระดับประเทศ เราสามารถกู้ศรัทธาได้ แต่ถ้าเราไปทำงานไม่ได้เลย ทุกพรรคก็โดนประชาชนลงโทษหมด
ไม่หวั่นปชป.สูญพันธุ์ถ้าร่วมรัฐบาล
เมื่อถามย้ำว่าแฟนคลับบอกว่า หากเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้ประชาธิปัตย์อาจสูญพันธุ์ นายเดชอิศม์ ย้อนถามว่า“แฟนคลับที่ไหนไม่ทราบ แต่บ้านผมที่จังหวัดสงขลาเชียร์ทุกวัน ถ้ามีโอกาสต้องร่วมรัฐบาลเพื่อมาแก้ปัญหา มาแก้ทุกข์ให้กับประชาชนให้ได้ และผมถามสส.เกือบทุกเขตพูดอย่างนั้น”
เมื่อถามว่าเป็นการแก้แค้นทางการเมืองหรือไม่ หลังจากที่นายทักษิณไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี แล้วกลับมาเชิญพรรคประชาธิปัตย์ให้ร่วมรัฐบาล นายเดชอิศม์กล่าวว่า ไม่หรอก ถ้านายทักษิณคิดแบบนั้นคงเอาเราเข้าร่วมรัฐบาลตั้งแต่รอบแรกแล้ว แต่ครั้งนี้นายทักษิณคงมาเห็นปัญหา อาจมีบางส่วนที่คิดว่าน่าจะเสริมให้กับประเทศ มาช่วยกันแก้ปัญหาประเทศมั้ง ซึ่งตนคิดว่าอย่างนั้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี