‘จักรพงษ์’เผยหลังประชุมติดตามสถานการณ์‘น้ำท่วม’ ยันไม่หนักเท่าปี54-กทม.ไม่ท่วมแน่นอน จับตา‘สุโขทัย’ปริมาณน้ำสูงสุดพรุ่งนี้ ขณะที่‘เลขาฯสนทช.’ระบุเขื่อนยังรับน้ำได้อีกมาก
เมื่อเวลา 12.25 น.วันที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม ว่า มีหน่วยงานต่างๆเข้าร่วม อาทิ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ยืนยันได้ว่าปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะไม่เท่ากับปี 2554 อย่างแน่นอน เพียงแต่ช่วงนี้มีฝนฉับพลันเข้ามาทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยทุกกระทรวงร่วมมือกันจัดส่งอุปกรณ์ช่วยเรื่องการระบายน้ำเพื่อที่จะระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ทาง สนทช.จะเร่งรัดประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดูเรื่องการระบายน้ำ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ขณะที่กระทรวงกลาโหมได้จัดส่งอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งจัดส่งอาหาร และน้ำดื่มสะอาดให้ผู้ประสบภัยด้วย
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า ช่วง 2-3 วันนี้ฝนจะยังตกอยู่ แต่จะตกน้อยลงช่วงวันที่ 29-31 ส.ค. ทุกหน่วยงานจึงต้องเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ส่วนปัญหาเรื่องอินเตอร์เน็ตมีการประสานงานกับรมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แล้ว ซึ่งท่านได้ประสานให้ทาง กสทช. ประสานกับเครือข่ายโทรศัพท์ทั้งดีแทค และเอไอเอส ในการขยายสัญญาณในพื้นที่ที่ประสบภัยทั้งหมด
“ช่วงปี 2554 ระดับน้ำฝนเกินค่ามาตรฐานมาตั้งแต่เดือน เม.ย. ประกอบกับน้ำในเขื่อนต่างๆมีปริมาณสูงอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับปีนี้ค่าเฉลี่ยต่ำกว่าอย่างนัยสำคัญ และน้ำในเขื่อนยังอยู่ในปริมาณที่สามารถดูแลได้” นายจักรพงษ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าที่บอกว่าปริมาณน้ำไม่เท่าปี 2554 หมายความว่ากรุงเทพฯจะไม่ท่วมแน่นอนใช่หรือไม่ นายจักรพงษ์ ระบุว่า ไม่ท่วม
นายจักรพงษ์ กล่าวถึงมวลน้ำที่จะลงมาที่ จ.สุโขทัย ว่า กำลังกระจายออกไปด้านข้างบ้างแล้ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.67) ปริมาณน้ำจะสูงที่สุด ขณะนี้หน่วยงายพยายามบริหารจัดการให้น้ำกระจายออกด้านข้างได้มากที่สุด หากผ่านพรุ่งนี้ไปได้ก็จะอยู่ในสถานะที่ดี
เมื่อถามว่า จะไม่เกิดพายุขนาดใหญ่เหมือนปี 2554 ใช่หรือไม่ นายจักรพงษ์ กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีพายุเข้ามา 1-2 ลูกในเดือน ก.ย. ปริมาณน้ำอาจจะเพิ่มขึ้น เราจึงต้องรีบเร่งบริหารจัดการน้ำในช่วงนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในส่วนของงบประมาณจะมี 3 ส่วนโดยจะทำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วที่สุด คือ 1.งบประมาณของรองนายกรัฐมนตรี 2.ส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ใช้ทดลองจ่ายอยู่ท่านละ 50 ล้านบาท และ 3.งบประมาณของแต่ละกระทรวงที่จะขอตรงเข้ามาในการขอซื้ออุปกรณ์ระบายน้ำ เบื้องต้นกระทรวงกลาโหมส่งเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือแล้ว
ขณะที่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.67) ปริมาณน้ำที่สุโขทัยจะมากที่สุด คือ จุดสถานี Y14A อำเภอศรีสัชนาลัย ก่อนที่จะมาถึงประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ ดังนั้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำหน้าประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์จะระบายไปทางคลองยมน่านเป็นหลัก และก่อนหน้านี้ได้มีการรื้อทางรถไฟที่เป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อที่จะระบายระบายได้ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีซึ่งเพียงพอ อีกส่วนจะระบายในคลองในแม่น้ำยมเก่าซึ่งจะระบายได้ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เหลือจะระบายในส่วนของท้ายหาดพระจันทร์ ซึ่งขณะนี้ตัวเมืองสุโขทัยระบายได้ 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อาจมีน้ำล้นพนังกั้นน้ำบ้างเล็กน้อย แต่พี่น้องประชาชน และหน่วยงานต่างๆได้ช่วยกันเสริมกระสอบทรายจึงเป็นลักษณะน้ำล้นในระดับหนึ่ง แต่ก็มีเครื่องสูบน้ำที่จะสูบออก เพื่อบริหารจัดการรักษาพื้นที่เศรษฐกิจของตัวเมืองสุโขทัย
นายสุรสีห์ กล่าวว่า หลังจากนี้น้ำจะมาทาง จ.พิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ จึงจะมีการเร่งระบายน้ำลงในแม่น้ำน่านเพื่อให้น้ำในทุ่งน้อยลง เนื่องจากมีการประเมินว่าในเดือนก.ย.มีแนวโน้มปริมาณฝนค่อนข้างมากเข้ามาอีก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ส่วนเดิมๆที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอยู่แล้ว และหลังจากนี้น้ำจะมารวมกันที่ จ.นครสวรรค์ ซึ่งปริมาณน้ำจะอยู่ที่ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำให้การระบายน้ำเจ้าพระยาจะอยู่ที่อัตรา 700 ถึง 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นจะไม่ส่งผลกระทบตามที่เป็นข่าวว่าจะเหมือนปี 2554 เพราะปี 2554 น้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่ จ.ชัยนาท ถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงยืนยันว่าปริมาณน้ำที่มาในครั้งนี้ต่างจากปี 2554 โดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม การระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยากรมชลประทานจะมีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนก่อนในการให้ยกของขึ้นที่สูง
นายสุรสีห์ กล่าวด้วยว่า นายจักรพงศ์สั่งการว่าพื้นที่ต่างๆที่เข้าสู่สถานการณ์ปกติ แต่ยังไม่สามารถระบายน้ำตามธรรมชาติได้ ให้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยเหลือให้เข้าสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว ขณะที่เรื่องของพายุ กรมอุตุฯใช้หลักสถิติว่าช่วงเดือนก.ย. - ต.ค. ยังเป็นช่วงฤดูฝนมีโอกาสที่จะเกิดพายุที่จะเข้าประเทศไทยได้ 1-2 ลูก แต่จะเข้ามาหรือไม่ต้องติดตามอีกครั้ง แต่เราก็ไม่ประมาทที่จะมีการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ที่ขณะนี้อยู่ในจุดที่ยังรองรับน้ำได้อีกมาก
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี