พท.ส่ง‘กฤษฎีกา-สลค.’ตรวจซา

ผวาครม.สะดุด!

เตรียมตัวสำรองกันเหนียว

‘ภูมิธรรม’มั่นใจจบก่อน15ก.ย.

เมินกระแสต้านปชป.ร่วมรบ.

‘บิ๊กป้อม’ปลุกใจลูกพรรคสู้

“ภูมิธรรม” ขุนพลใหญ่เพื่อไทย ยังกังวลรายชื่อรัฐมนตรี ส่ง “สลค.-กฤษฎีกา” ตรวจซ้ำไม่รู้ใครเสี่ยง-มีคดีกี่คน พร้อมเตรียมตัวว่าที่รัฐมนตรีตัวสำรองกันเหนียวคาดจบไม่เกิน 15 กันยายน ด้าน “ราเมศ” เดือด! สวน “แพทองธาร” ระบุ หัวหน้าปชป.ในอดีต ไม่โกง-ไม่หนีคดี ยันปชป.มีศักดิ์ศรี “มาร์ค” ชี้คงยากที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมา ฝ่าย “บิ๊กป้อม” ปลุกลูกทีมสู้

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดโผรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี(ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือ ครม.อุ๊งอิ๊งค์ 1โดย ล่าสุดน.ส.แพทองธารเปิดเผยว่า รายชื่อและตำแหน่งนิ่งแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติ ที่คาดว่า จะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้าหรือต้นเดือนกันยายนนี้

โดยรายชื่อรัฐมนตรี สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย มีรัฐมนตรี 17 คน แบ่งเป็น 9 รมว.และ 8 รมช. โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรมว.กลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯควบรมว.คมนาคม นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรมช.คลัง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข

‘น้องธรรมนัส’นั่งรมช.เกษตรฯ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตี น.ส.จิราพร สินธุไพร เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ และนางมนพร เจริญศรี เป็น รมช.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรมและนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และนายอัครา พรหมเผ่า เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์

‘ภูมิใจไทย’ 8 เก้าอี้เดิมไม่มีปรับ

พรรคภูมิใจไทย 8 เก้าอี้รัฐมนตรี 4 รมว.4 รมช. ยังคงเป็นรายชื่อเดิมทั้งหมด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.กระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงแรงงาน นางศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.กระทรวงพาณิชย์ และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงมหาดไทย

‘เอกนัฎ’คุมอุตฯ-‘บิ๊กเล็ก’รมช.กห.

พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 เก้าอี้ 5 ตำแหน่ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงพลังงาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.กระทรวงพาณิชย์

ในส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา และประชาชาติ ยังคงตำแหน่งเดิมคือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

นอกจากนี้ในส่วนเพิ่มเติม 2 ตำแหน่งซึ่งเป็นโควตาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 1 รมว.1 รมช. คือ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.เกษตรฯและนายอิทธิ ศิริลัทธยากร เป็น รมช.เกษตรฯ

เช่นเดียวกับ พรรคประชาธิปัตย์ ได้โควตา 2 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1 รัฐมนตรีว่าการฯ 1 รัฐมนตรีช่วยฯ โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคฯจะเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง จะเป็น รมช.สาธารณสุข

‘ภูมิธรรม’ส่งโผให้สลค-กฤษฎีกาเช็คซ้ำ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ได้ส่งรายชื่อตรวจคุณสมบัติและส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)แล้วตรงนี้ มีชื่อใครสุ่มเสี่ยง หรือมีข้อคิดอะไรหรือไม่ว่าพูดยากว่าสุ่มเสี่ยง หรือไม่สุ่มเสี่ยง เราไม่ได้เห็นรายละเอียด แต่เป็นเรื่องของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จะตรวจสอบซึ่งเขาได้รับเรื่องทั้งหมดแล้วก็จะตรวจสอบตามนั้นก็รอดูผลทั้งหมดออกมา จะเป็นอย่างไร ก็คิดว่าน่าจะเรียบร้อยได้โดยเร็วที่สุด ไม่นาน

เมื่อถามป.ป.ช.ระบุแค่ว่าใครมีคดีแค่นั้นใช่หรือไม่ไม่ได้บอกว่าผิดหรือไม่ผิดใช่หรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่าทุกหน่วยก็จะบอกว่ามีชื่อเหล่านี้อยู่ในหน่วยของเขา เป็นอะไรสมมุติว่านายภูมิธรรม มีคดีอะไรบ้างคดีเกี่ยวกับอะไรเขาจะให้รายละเอียดมาและหน้าที่ของสลค.และกฤษฎีกาไปตรวจสอบว่าใช่ หรือไม่ใช่ ส่วนป.ป.ช.ก็ต้องมีการตรวจสอบว่าใครมีคดีตรงนี้หรือไม่ ทุกหน่วยก็ต้องตอบกลับมา ตามความเป็นจริงที่แต่ละหน่วยงานดูอยู่

เมื่อถามย้ำว่ามีกี่คนที่มีคดีที่ป.ป.ช.แจ้งมา นายภูมิธรรมกล่าวว่าตนยังไม่ได้เห็นเลย ถ้าเป็นหน่วยงานต่างๆแต่ละหน่วยงานก็จะต้องส่งต่อกัน และตนคาดว่าหน่วยต่างๆน่าจะครบหมดแล้วคงจะอยู่ในดุลพินิจ ไม่เช่นนั้นเราก็จะช้า ซึ่งเราก็เร่งให้มีการส่งข้อมูลตั้งแต่แรกแล้วและทยอยส่งมาก็ทยอยไปตลอดฉะนั้นกระบวนการต่อเนื่อง

คาดไม่เกิน15ก.ย.ชัดเจนได้รบ.

เมื่อถามต่อว่าสัปดาห์หน้าจะเสร็จหรือไม่กระบวนการตรวจสอบทั้งหมด นายภูมิธรรมกล่าวว่า เหมือนเดิม เราคาดว่าพยายามให้เสร็จภายใน 15 กันยายน บวกลบแล้วไม่เกิน 3 วัน ถ้าเป็นไปได้ เพราะปัญหาที่สำคัญก็คือ ขั้นตอนการโปรดเกล้าฯซึ่งเราไม่อาจไปก้าวล่วงได้ เพราะเป็นพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน ถ้ากระบวนการตรงนั้นเร็วอันอื่นก็เร็วไปด้วย ถ้าตรงนั้นยังมีเรื่องราวที่ต้องตรวจสอบทางเราก็คงจะต้องรอตรงนั้น

เมื่อถามว่าสัปดาห์หน้าเราสามารถนำรายชื่อครม.ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าทั้งหมดเราพร้อมเรียบร้อยหมดทุกอย่าง และย้ำว่าเราอยากทำให้เร็วที่สุด

แต่งตั้งบิ๊กขรก.รอครม.ชุดใหม่

เมื่อถามถึงกรณีเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการต่างๆที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนกันยายนนี้ต้องรอครม.ชุดใหม่หรือครม.ชุดปัจจุบันแต่งตั้งได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลายเรื่อง ถ้าไม่เร่งด่วนรอครม.ชุดใหม่ได้ก็ควรรอครม.ชุดใหม่ แต่หลายเรื่องถ้าเร่งด่วนแล้วชัดเจน และเสนอขึ้นมาตนก็พร้อมจะเซ็นให้

เมินกระแสต้านดึงปชป.ร่วมรบ.

เมื่อถามว่ามีกระแสบางส่วนต่อต้านทั้งในฝ่ายของพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ในการร่วมรัฐบาลส่งผลต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ ของรัฐบาลชุดใหม่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าก็ต้องถามว่าความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของรัฐบาลใหม่อยู่ที่อะไร วันนี้เท่าที่ตนสำรวจและดูผลสำรวจต่างๆสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุด คือ ให้รีบเข้ามาดำเนินการทันที และขอให้รัฐบาลไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ขอให้จับมือร่วมกันเป็นเอกภาพมากที่สุด ดังนั้นตนคิดว่าตรงนี้ต้องเริ่มให้โอกาสรัฐบาลดำเนินการและเรารู้อยู่แล้วว่าเราเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศในช่วงที่มีวิกฤตการณ์ เพราะฉะนั้นทุกอย่างเราจึงเตรียมการทำงานร่วมกันและไปให้ดีที่สุดและเร็วที่สุด

เป็นสิทธิ์พรรคส่งชื่อสำรองกันเหนียว

เมื่อถามถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ส่งรายชื่อมาแล้ว2รายชื่อ นายภูมิธรรมตอบว่าเป็นไปตามกระบวนการ ถ้าชัดเจนมีการประชุมสรุปชัดเจน ก็มีการส่งชื่อไปตามกระบวนการ ขณะนี้ก็น่าจะถึงสลค.เรียบร้อยแล้ว

เมื่อถามอีกว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องมีชื่อสำรองมาเพื่อสำรองการตรวจสอบคุณสมบัติ ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ชื่อสำรองเราขอให้ในพรรคไหนที่รู้สึกว่า อยากจะเสนอก็เสนอ ก็ขึ้นอยู่แต่ละพรรคที่จะเสนอ อย่างที่ผ่านมาก็มีทั้งพรรคที่ยื่นแบบไม่มีชื่อสำรองมาก็มีหลายพรรค พรรคที่มีชื่อสำรองเพิ่มชื่อก็มีหลายพรรค ดังนั้นตรงนี้เป็นสิทธิ์โดยตรงของแต่ละพรรคการเมืองโดยตรงที่จะตัดสินใจเลือก

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ชื่อของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์อาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติซึ่งอาจต้องมีการสำรองชื่อหรือไม่นายภูมิธรรมตอบว่า ตนยังไม่ทราบว่าส่งชื่อใคร เป็นสิทธิ์ของพรรคเขา ถ้าเขามั่นใจว่าเขาส่งใครแล้ว ไม่มีปัญหาเขาก็ส่ง แต่ถ้าเขารู้สึกว่าจัดการภายใน และยังมีอีกหลายคนที่ต้องตัดสินใจและไม่รู้ว่าได้กระทรวงไหน เขาก็ส่งได้มี มันมีหลายเหตุผล

‘รบ.ใหม่’เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตแน่

นายภูมิธรรมกล่าวถึงความคืบหน้านโยบายรัฐบาลที่เตรียมแถลงต่อสภาว่า ใกล้เสร็จแล้ว ตั้งแต่วันที่เราเริ่มตั้งรัฐบาล ก็นั่งทำกันมาโดยตลอดจากทุกพรรค ถ้าเรากำหนดไว้ว่า ภายในวันที่ 15 ก.ย.บวกลบ เสร็จหมายถึงแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จ และเข้าปฎิบัติหน้าที่ได้เลย ซึ่งเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่เราคิดที่จะให้เป็นโครงการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นเรื่องนี้อย่างไรก็ตามรัฐบาลยืนยันมาโดยตลอด ยังไงก็ต้องทำ เพราะเศรษฐกิจประเทศ ยังเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นตรงนี้ไม่มีปัญหา ทันทีที่รัฐบาลใหม่เริ่มปฎิบัติงาน เราก็จะพิจารณาตามลำดับและจัดการทันที

โต้‘อิ๊งค์’หน.ปชป.ไม่มีโกง/หนีคดี

นายราเมศ รัตนะเชวง อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวถึงกรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวพาดพิงถึงพรรคปชป.ไม่สามารถยอมรับการกระทำของผู้บริหารพรรคในอดีตได้นั้นว่า หลายครั้งหลายคนในพรรคเพื่อไทยพยายามพาดพิงการดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองในอดีตของพรรคปชป.ก็ต้องตั้งคำถามกลับว่า อดีตหัวหน้าพรรคปชป.มีใครเคยติดคุก เคยโกงประเทศหรือไม่ มีหัวหน้าพรรคที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีต้องหนีคดีโกงชาติบ้านเมืองออกนอกประเทศบ้างหรือไม่

ผู้บริหารชุดปัจจุบันนำประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล แต่มีสมาชิก มีประชาชนที่มีความเห็นต่างไม่เห็นด้วย อดีตสส. อดีตรัฐมนตรีบุคคลที่ยังรักและศรัทธาพรรคที่ยังยืนหยัด เขายังรักศักดิ์ศรี และคุณความดีในอดีตของพรรคที่ได้สร้างได้สะสมมา การจะมาว่ากล่าวทับถมอดีต คงไม่ถูกต้อง เพราะถ้ากล่าวถึงอดีต นับแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน จนมาถึงเพื่อไทย พูดวันหนึ่งคงไม่จบ โดยเฉพาะเรื่องคดีทุจริต ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วเดือนหนึ่งไม่รู้จะพูดกันจบหรือเปล่า

ยันปชป.มีศักดิ์ศรี-ไม่เกี่ยวมติร่วมรบ.

“ต้องแยกพรรคประชาธิปัตย์กับมติให้ร่วมรัฐบาลออกจากกัน เพราะศักดิ์ศรีของพรรคทั้งหมดที่ผ่านมาไม่ได้จบตรงมติที่ให้ร่วมรัฐบาล ที่จะให้ใครมาย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นประชาธิปัตย์ในอดีตได้ ขอให้นายกรัฐมนตรีย้อนกลับไปดูอดีตพรรคของคุณ จนมาถึงปัจจุบันและอนาคตจะมาถึงเร็วๆนี้ว่าจะมีจุดหมายปลายทางเป็นอย่างไร”อดีตโฆษกพรรคปชป.กล่าว

นายราเมศกล่าวว่า การที่คนของพรรคเพื่อไทยพยายามพูดถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคเรื่องการสลายการชุมนุม ล้วนแล้ว แต่เป็นเท็จทั้งสิ้น กระบวนการทุกอย่างได้ดำเนินการไปตามกรอบของกฎหมายผ่านกระบวนการยุติธรรม ผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และที่ปรากฏข้อเท็จจริงชัดตามคำพิพากษาของศาลว่าการชุมนุม มิใช่การชุมนุมโดยสงบตามรัฐธรรมนูญและมีบุคคลที่มีอาวุธปืนปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม เรื่องนี้มีการหยิบยกมาฟ้องร้องกันในหลายคดี ข้อเท็จจริงจบไปแล้วนายอภิสิทธิ์ไม่ได้กระทำความผิด ที่พยายามพูดว่ายังรับเรื่องนี้ไม่ได้ ก็เพื่อให้พรรคเพื่อไทยดูดีในสายตาของกลุ่มผู้ชุมนุม

เพจ’ปชป.’ปิดช่องคอมเมนต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคกับสส.พรรคประชาธิปัตย์ มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยทำให้มีแฟนคลับของพรรคฯจำนวนมากเข้ามาความเห็นต่อว่าพรรคฯอย่างดุเดือดในเพจเฟซบุ๊ก“พรรคประชาธิปัตย์-Democrat Party, Thailand”เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมาทั้งวิจารณ์ว่าพรรคไม่มีอุดมการณ์ ไม่มีศักดิ์ศรี ขณะที่บางส่วนประกาศไม่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป การเลือกตั้งครั้งหน้าสูญพันธุ์แน่ และมีบางส่วนที่ประกาศไล่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนและนายเดชอิศม์ ขาวทอง ออกจากพรรค

จากนั้นในช่วงค่ำวันที่ 30 ส.ค.พรรคประชาธิปัตย์ได้ปิดช่องแสดงความคิดเห็นในเพจนี้ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่สามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมได้ แม้กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ก็ยังมีการปิดช่องคอมเมนต์

‘มาร์ค’ไม่แปลกใจปชป.ร่วมรบ.พท.

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวถึงการร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยว่า สิ่งแรกต้องบอกว่า ไม่ได้แปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่มองเห็นมาระยะหนึ่งแล้ว และเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบใจแฟนคลับอย่างรุนแรง ที่ผ่านมาประชาธิปัตย์อยู่มาได้เพราะมีจุดยืนเป็นฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่าเลขาธิการพรรคฯชุดปัจจุบันระบุที่ผ่านมาพรรคปชป.พ่ายแพ้มาโดยตลอดจึงตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อให้พรรคเติบโตนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เดี๋ยวรอพิสูจน์ได้ว่า เป็นจริงหรือไม่ แต่ประเด็นอยู่ตรงที่ว่าในการพ่ายแพ้ที่ผ่านมา ทุกคนก็พูดชัดเจนว่า หลายครั้งเราอาจจะทำด้วยวิธีอื่นแล้วก็ประสบความสำเร็จมากกว่านี้ก็ได้แต่ความเป็นปชป.ทำให้เราไม่ทำ นี่คือสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไป ขอย้ำมีคำว่าพี่ประชาที่ประชาธิปัตย์อยู่มายาวนาน ไม่ใช่เพราะว่าอะไรก็ได้ เพื่อก้าวเข้าสู่อำนาจ

เมื่อถามว่ามองว่า การเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้อะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ได้ตำแหน่ง”

เมื่อถามว่าในมุมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้อาจจะกระทบกับฐานเสียง โอกาสในการจะฟื้นฟูกอบกู้พรรคกลับมาคิดว่ามีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากลำบากในการที่จะกอบกู้ศรัทธากับคืนมาจะต่ำสิบหรือสูญพันธุ์ไม่รู้

วันเดียวกันนายวัน อยู่บำรุง แม่ทัพ กทม.พรรคพลังประชารัฐ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม พร้อมทีมงาน เข้าพบ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพปชร.ซึ่งใช้เวลาพักผ่อนช่วงวันหยุด ที่สนามกอล์ฟรามอินทรา หารือถึงยุทธศาสตร์พรรค โดยบิ๊กป้อม สั่งให้ทุกคนสู้เต็มที่ไม่มีวันถอย