หนุน‘เสรีพิศุทธ์’
‘เทพไท-จตุพร’เชื่อในฝีมือ
นำทาสเทวดา‘แม้ว’เข้าคุก
“เทพไท” มั่นใจยี่ห้อ “เสรีพิศุทธ์”! เปิด ข้อเท็จจริงชั้น 14 ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ต้องมีคนรับใช้เทวดาติดคุกเพียบ ด้าน “จตุพร” วอนเร่งเปิดข้อมูลต่อเนื่อง เพื่อสกัดคนไม่ดีมีอำนาจ ย่ำยีบ้านเมืองเสียหาย
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2567 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไทคุยการเมือง” หัวข้อ“เชื่อถ้าเสรีพิศุทธ์ไม่ล้มมวย มีคนติดคุกเพียบ!!!”ระบุว่า กรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ตั้งโต๊ะแถลงเปิดหลักฐานข้อความ
ในแอปพลิเคชันไลน์ ว่า มีบุคคลนัดหมายพาเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ ณ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีการนัดแนะพูดคุยถึงรายละเอียดการเข้าเยี่ยมถึง 2 ครั้งนั้น
หลังจากนั้นนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกมาขอยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ไม่เคยอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าเยี่ยมนายทักษิณ เพราะในบรรดารายชื่อผู้ที่สามารถเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ตามที่ระบุไว้ 10 รายชื่อนั้น มีเพียงญาติและทนายความเท่านั้น
ผมเห็นว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ออกมาชี้แจงตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่ถือปฏิบัติ แต่ในทางปฏิบัติจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คนอย่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ สามารถหาโอกาสเข้าไปเยี่ยมนายทักษิณได้โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของเรือนจำที่เฝ้าอยู่ และในตอนนั้นอาจจะไม่มีเจ้าหน้าที่เรือนจำอยู่ก็ได้
ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า ได้ไปเยี่ยมนายทักษิณจริง และไม่ได้เจอเจ้าหน้าที่ของเรือนจำอยู่เลย แสดงให้เห็นว่า กรมราชทัณฑ์ปล่อยให้นายทักษิณ พักอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจตามลำพัง โดยไม่มีผู้คุมเรือนจำเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดตามที่ได้ชี้แจง
ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ถ้าพิสูจน์ได้ว่า ข้อมูลของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นความจริง จะต้องมีผู้รับรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หลายคน นับตั้งแต่ผู้คุมของเรือนจำขึ้นไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตามลำดับชั้น และถ้าหากว่า พล.ต.อ.เสรีมีพิศุทธ์ ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบรรยากาศการเข้าเยี่ยม และอาการป่วยของนายทักษิณว่าเป็นอย่างไร มีอาการป่วยจริงหรือไม่ หรืออยู่สุขสบาย มีการพูดคุยกันอย่างคนปกติทั่วไป ก็แสดงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ได้ร่วมกันปกปิดความจริงเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ ซึ่งอาจทำให้มีผู้ต้องรับโทษติดคุกแทนนายทักษิณจำนวนหลายคน
เพื่อให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่างชัด ขอให้หน่วยงาน ป.ป.ช.ได้เร่งรัด เชิญตัวพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าให้รายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด เชื่อว่าความจริงเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และหวังว่าด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียงของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และวีรบุรุษนาแก จะไม่ทำให้เรื่องนี้ เป็นมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2567 ว่า กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดแชทไลน์บางส่วนไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถึง 2 ครั้ง แต่ยังปกปิดอาการป่วยหรือไม่ไว้ ดังนั้นควรรีบเปิดเผยข้อมูลให้หมด เพื่อความจริงจะได้ปรากฏ และประชาชนจะได้สิ้นสงสัยว่านายทักษิณป่วยจริงหรือป่วยทิพย์
นายจตุพร ระบุว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกจะทยอยข้อมูลเป็นระยะ ตนขออย่าทำให้สังคมสงสัยเพิ่มอีก แต่เร่งทำความจริงให้กับชาติโดยเร็วที่สุดตามภารกิจของคนได้รับเหรียญมาลาต้องสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งประสงค์ให้คนดีปกครองบ้านเมืองและไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจ
“การเปิดเผยข้อมูลจึงควรต้องจัดเต็ม เพื่อให้ความเป็นจริงได้ปรากฏต่อชาติบ้านเมือง เรื่องที่เขารับปากให้ตำแหน่งทางการเมืองขอให้วางไว้ก่อน เพราะเขาไม่ได้รับปากกับ เสรีพิศุทธ์ คนเดียวหรอก ขอให้วางเรื่องของตัวเองก่อน แล้วทำสิ่งที่ผิดให้ออกไปจากการเมืองไทย อันจะนำพาไปสู่ความเสียหายในเรื่องอื่นๆตามมาอีก”
นายจตุพร กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุถึงการขอภาพกล้องวงจรปิดของชั้น 14 รพ.ตำรวจ และขอภาพถ่ายทุกช่วง 2 ชั่วโมงตลอดเวลา 180 วันรวมกว่า 2,000 รูปจากกรมราชทัณฑ์ สิ่งสำคัญถ้าบ้านเมืองนี้มีคนจริง ต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เรื่องนี้จะเป็นการปิดฉากนายทักษิณ โดยสิ้นเชิง
“การข่าวที่ได้ยินมา หมอ รพ.ตำรวจ อยากลาออกจาก รพ.ตำรวจ มากที่สุด ไม่อยากอยู่อีกต่อไป และเมื่อ ป.ป.ช.ไปขอตรวจกล้องวงจรปิดที่มีข่าวว่าเสียนั้น แสดงว่ารู้ข้อมูลมันไม่เคยเสีย รวมทั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่แวดล้อม รพ. เข้าใจว่า อยู่ในมือ ป.ป.ช.ครบถ้วนแล้ว”
นายจตุพร กล่าวว่า การตรวจสอบของแพทยสภาต้องไม่ปล่อยให้บ้านเมืองเสียหายมากกว่านี้ รีบเปิดเผยผลสอบสวน 4 หมอจาก รพ.ตำรวจกับ รพ.ราชทัณฑ์ ออกมาอย่างไม่ชักช้า เพื่อนำทางให้การตรวจสอบของส่วนอื่นได้เดินหน้า ดังนั้นหวังว่าทุกกระบวนการตรวจสอบ ทั้ง ป.ป.ช. และแพทยสภา ควรขยับอย่างมีนัยยะสำคัญและปิดการตรวจสอบตามกำหนดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่ควรดึงเวลาออกไปเพราะบ้านเมืองจะเกิดความเสียหาย
“คิดด้วยตรรกะธรรมดาแล้ว ถ้า ทักษิณ ป่วยจริง ทั้ง รพ.ตำรวจ กรมราชทัณฑ์ และ ป.ป.ช. ไม่รู้จะกั๊กข้อมูลไว้ทำไม ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาพูดขนาดนี้ จึงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ ซึ่งไม่แตกต่างจากหัวหน้าพยาบาล ชั้น 14 รพ.ตำรวจ บอกว่านานๆญาติมาครั้ง ย่อมแสดงถึงป่วยจริงหรือไม่และอยู่ รพ.ตำรวจหรือไม่ เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้สิ้นสงสัยของสังคม” นายจตุพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี