หยุดบล็อกล็อกเก้าอี้กันได้แล้ว!!! "สว.กลุ่มอิสระ-เสียงข้างน้อย"ดาหน้าจี้เลือกเฟ้น"ประธานกมธ.21คณะ" ยึดเป็นอิสระ-ตรงตามความรู้ความสามารถ อัดยิ่งทำ"สภาสูง"เสียหายเข้าไปใหญ่ แฉปิดประตูตายไม่ให้โควตาแม้แต่คนเดียว ปลุกประชาชนจับตามอง
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มอิสระ ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญประจำวุฒิสภา 21 คณะ ว่า หลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาข้อบังคับเสร็จแล้ว จะต้องนำเข้าที่ประชุมวุฒิสภาเพื่อรับรองข้อบังคับ จากนั้นรอ สว.ที่แปรญัตติว่าจะออกมาอย่างไร ตนได้ยินมานานแล้วจะมีการล็อกประธาน กมธ.มีการพูดกันว่าจะไม่ให้ สว.กลุ่มอิสระเป็นประธาน กมธ.เลย ตามรัฐธรรมนูญ สว.มี 200 คน มีการถามว่าใครอยากอยู่ กมธ.ไหน ความเห็นส่วนตัวที่มาจาก สว.กลุ่มวิชาชีพ ก็ต้องมาดูว่าใครมีความรู้ความสามารถ ใครอยู่กลุ่มไหน บางคนก็ไม่อยากอยู่กลุ่มอาชีพที่ตนเข้ามา เวลาเลือกตนเห็นว่า ควรดูตามความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ ไม่เอาแล้วการจับฉลาก
นางอังคณา กล่าวว่า สว.กลุ่มอิสระ เป็นเสียงที่น้อยไม่ถึง 1 ใน 3 ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรถ้าใช้มติเสียงข้างมากก็แพ้อยู่ดี แต่ถ้าจะให้ประชาชนได้ประโยชน์ ผลงานวุฒิสภาออกมาดีต้องพิจารณาเลือกคนจากความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ แต่ถ้าจะเอาแค่มาเอาตำแหน่งได้เกียรติยศ พวกตนก็คงสู้ไม่ได้ แต่กลุ่มตนยืนยันเคยทำงานด้านที่ต้องการมาก็อยากทำงานต่อ แต่ถ้าสู้ไม่ได้ก็ต้องให้ประชาชนได้จับตามอง
นางอังคณา กล่าวถึงท่าทีประธานวุฒิสภา ว่า ดูเวลาโหวต สว.เสียงข้างน้อยก็แพ้ตลอด คนเป็นประธาน กมธ.มีห้องทำงาน มีงบรับรอง ได้เครื่องราชฯ ทุกปี ใครก็อยากเป็น แต่อยากบอกว่า ถ้าเอาประโยชน์เป็นที่ตั้ง ต้องดูความสามารถเป็นหลัก คนที่จะมาเป็นประธาน กมธ.จะต้องดูตัวเองด้วย ไม่ใช่เหมือนที่ได้ยินมาว่า ผลัดกันเป็นคนละปี ได้ฟังแล้วเป็นการเสนอประโยชน์กันเลย ไม่เหมาะสมเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ไม่ควรเป็นแบบนี้ จึงต้องรอดูการประชุมในวันพรุ่งนี้
"ดิฉันดูแล้วเป็นเสียงข้างน้อยตลอด ถ้าเขาเอาคนของกลุ่มใหญ่มารวมอยู่ในกลุ่มที่ต้องการ พอลงมติเสียงข้างน้อยก็แพ้อยู่ดี และได้ยินมาว่า จะไม่ให้ สว.เสียงข้างน้อยได้เป็นประธาน กมธ.เลยแม้แต่คณะเดียว สว.กลุ่มเสียงข้างน้อยก็ต้องออกมาช่วยกันยืนยันว่า พวกเรามีความรู้ความสามารถ ถ้าไม่ให้เป็นประธาน กมธ.เลยขอเรียกร้องให้ประชาชนช่วยจับตามอง" สว.กลุ่มเสียงข้างน้อย กล่าว
ด้าน นางประทุม วงศ์สวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า ได้ยินข่าวมาเหมือนกันว่าจะมีการล็อคประธาน กมธ.ได้ยินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา ตนมองว่าเป็นธรรมชาติ ถ้าคุณเจ๋งจริงเราหมอบได้ ยอมให้ทำงานตามที่ต้องการ แต่ถ้าคุณเอาหมอฟันมาทำคลอดแบบนี้เราไม่ยอม ถือว่าผิดฝาผิดตัว ตนเป็น สว.มาจากภาคการท่องเที่ยว แต่ถ้าจะเอาคนมาเป็นประธาน กมธ.ท่องเที่ยวและกีฬา เอาตำรวจหรือเอาคนหัวสี่เหลี่ยมมาเป็น ตนก็ไม่ยอม เพราะงานจะไม่ไปถึงไหนวนอยู่ที่เดิม เอาคนเดิมความคิดแบบเดิมงานก็จะได้แบบเดิมๆ ตนไม่ยอม
นางประทุม กล่าวว่า คนที่จะมาทำงานจะต้องมีความรู้ความสามารถ ขอวิงวอนการเมืองละเอาไว้ก่อน เพราะการทำงานต้องจริงจัง ตนเคยบอกว่า กีฬากับการท่องเที่ยวต้องแยกคณะกรรมาธิการกัน แต่ในที่สุดก็ไม่แยก เอามารวมกัน จะปิดฝาปิดตัว ตนก็ต้องแปรญัตติ แต่การเลือกประธาน กมธ. 21 คณะ ถ้าจะล็อกเอาไว้ทั้งหมด ก็ไม่แฟร์ พวกเราต้องส่งเสียงดังทำอะไรสักอย่าง คิดว่าพวกเขาต้องฟังแต่ทุกอย่างลงเอยที่การโหวต สว.หลายคนเห็นด้วยกับแนวคิดตน แต่ก็ต้องดูว่าเขาจะมีอิสระในการลงมติแค่ไหน ก็หวังว่าในวันโหวต สว.จะมีอิสระ อนาคตจะต้องทำงานร่วมกัน ถ้าเอาคนไม่รู้เรื่อง มาทำงาน ก็จะเสียหาย คนเราต้องทำงานร่วมกัน 5 ปี จะมองหน้ากันไม่ติด
สว.เสียงข้างน้อย กล่าวว่า กมธ. 21 คณะ ทราบว่า เขาจะแบ่งประธาน กมธ.มาให้ สว.กลุ่มอิสระบ้าง เช่น กมธ.ต่างประเทศ เขาบอกว่าเขาไม่เอาเพราะไม่มีคน หาคนมาเป็นประธาน กมธ.ไม่ได้ สำหรับตนมาจากกลุ่มท่องเที่ยว ถ้าเอาคนที่ไม่ผิดฝาผิดตัวมา คัดเลือกเป็นประธาน กมธ.ตนก็รับได้ ตนก็จะลงแข่งด้วยตามกติกา ไม่ใช่เอาหมูหมากาไก่ที่ไหนมาแข่งไม่รู้ ตนเป็นประชาธิปไตย ถ้าแข่งขันกันและมีการโหวตแพ้ตนก็ยอมรับได้ตามกติกาประชาธิปไตย
ขณะที่ นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ สว.กลุ่มผู้สูงอายุ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ยินมาเหมือนกันว่ามีการล็อกประธาน กมธ. ตำแหน่งประธาน กมธ.ควรสรรหาคนที่เหมาะกับงาน เลือกคนมีศักยภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด ดีกว่าเลือกใครพวกใคร สำหรับกระบวนการเลือกประธาน กมธ.ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติสามารถทำได้ ใครสนใจสมัครคณะไหน คนที่อยู่ในกลุ่มก็จะรู้ว่าใครมีความสามารถ แต่เมื่อเรามาอยู่ในระบบแบบนี้กังวลไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะกลุ่มที่เขาเข้ามาเป็นกลุ่มเป็นก๊วน เขาก็มีวิธีการของเขา
"ผมอยากให้คิดว่าได้เข้ามาเป็น สว.กันแล้ว มามองประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักดีกว่า พวกเราต้องกู้ชื่อเสียงที่คนมองว่ามีกลุ่มก๊วนเข้ามายึดสภาสูง จริงเท็จเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คนเขามองกันแบบนั้น ผมขอให้ สว.ทั้ง 200 คน ได้พิจารณาเอาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง หาคนที่เหมาะสมในแต่ละ กมธ. ท้ายสุดประโยชน์จะย้อนกลับมาที่ สว.เอง สำหรับผมเป็น ศ.ดร. ได้อุทิศตัวช่วยคนพิการมาตลอดชีวิต สนใจที่จะเป็นประธาน กมธ.ผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งได้รวมเด็กเยาวชนสตรีเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย อีกคณะหนึ่งที่สนใจในฐานะอดีตเคยเป็นคณบดีที่จุฬาฯ และอยู่ในสถาบันอุดมศึกษามาหลายปี สนใจตำแหน่งประธาน กมธ.การศึกษาอุดมศึกษา" นายชาญณรงค์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี