‘รมช.คลัง’ยันโยกงบ‘5 ธนาคารรัฐ’เติม‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ไม่ขัดกฎหมาย ด้าน‘สส.เพื่อไทย’ลุกหนุนงบกลางใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ลั่นประชาชนหวังสร้างความเข้มแข็งรากหญ้า
เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 3 กันยายน 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระ2-3 เรียงตามรายมาตรา
ทั้งนี้ ในส่วนของสส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้อภิปรายสนับสนุนงบกลางในส่วนของค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าให้จีดีพีโต 5% ซึ่งสิ่งที่จะช่วยได้ คือ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต หากโครงการนี้ไม่ออกจะทำได้ไม่ตามเป้า
ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนว่าตนไม่ตัดงบกลาง แต่จะขอเพิ่มแต่ทำไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และไม่รู้จะเอาเพิ่มจากไหน ดังนั้นขอให้ทีมการคลังรีบช่วยนายกรัฐมนตรี และขอให้สภาฯ เห็นชอบผ่านเงินก้อนดังกล่าว เพื่อช่วยประชาชนรากหญ้าและแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยไว เพื่อให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่เข้ามาเชื่อมต่อนโยบายสร้างเศรษฐกิจ ให้ประชาชนมีเงินใช้สอย ซึ่งเมื่อรากหญ้าเข้มแข็งแล้วตลาดบนจะเข้มแข็งด้วย โดยตนสนับสนุนการเปลี่ยนจากเงินดิจิทัลเป็นการแจกเงินสดให้ประชาชน
ด้านนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนงบกลางในส่วนของรายการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หากไม่มีเงินก็ต้องกู้ ซึ่งประชาชนรอคอย อีกไม่กี่วันข้างหน้าขอให้เงินไหลสู่ประชาชนภายในเดือนก.ย. ทั้งนี้ไม่ว่าออกมาในรูปแบบไหนขอให้เงินถึงมือประชาชน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรองประธานกมธ.คนที่2 ชี้แจงว่า ในส่วนของบกลางรายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนที่ห่วงในการเปลี่ยนแปลงงบของธนาคารรัฐ 5 แห่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นชอบด้วยกฎหมายทุกประกาศ ซึ่งได้ตั้งในงบประมาณวาระแรกผ่านมติ ครม. และเสนอต่อสภาฯ ซึ่งได้รับความเห็นชอบในการพิจารณาวาระแรก การเสนอเปลี่ยนแปลงรัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง 3.5หมื่นล้านบาท เพราะได้ทบทวนแล้ว ปรับลดงบที่ชะลอดำเนินการได้เพื่อให้รัฐบาลใช้นโยบายในโครงการเร่งด่วน
“ยืนยันว่าไม่ขัดต่อกฎหมาย ไม่ได้ปรับลดในมาตรา 40 รายจ่ายเพื่อชำระหนี้ภาครัฐ แผนบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ซึ่งได้ตั้งไว้ 4.1 แสนล้านบาท ซึ่งจำนวนดังกล่าวนั้นมี 2.8 หมื่นล้านบาท ในการชำระหนี้ของ ธกส. ไม่ได้ปรับลดจนชำระคืนในสัดส่วนที่ต้องชำระคืน กระบวนการพิจารณาในชั้นกมธ. ในการเปลี่ยนแปลงงบรายจ่ายมาตรา 29 เป็นมาตรา 6 นั้นชอบด้วยกฎหมายทุกประการ” รมช.คลัง กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
+ กะซวกกล่องดวงใจ!‘ศิริกัญญา’ลากไส้รัฐบาลชักดาบ 5 ธนาคาร 3.5หมื่นล้านดันดิจิทัลวอลเล็ต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี