ถกงบฯปี 68 วันที่ 2 ! ‘ภท.’เปิดฉากระดมทวงโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง-ช่วยชาวนาไร่ละพัน แห่เอาใจเกษตรกร
เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผูัแทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เริ่มที่มาตรา 14 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และหน่ยงานในกำกับ วงเงิน 5.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ปรับลดจากวงเงินเดิม ที่ 5.6 หมื่นล้านบาท
โดยนายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายขอปรับลดงบของกระทรวงเกษตรฯ ในส่วนของค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการต่างประเทศ 8 โครงการเพื่อศึกษาดูงานการบริหารจัดการน้ำ การสร้างเขื่อน และการดูแล ที่ประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา รวมวงเงิน 7.6 ล้านบาท โดยมองว่าไม่เหมาะสมเนื่องจากประเทศไทยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้าง และดูแลเขื่อนมากว่า 40 ปีแล้ว นอกจากนั้นมองว่ามีนัยสำคัญถึงทิศทางของรัฐบาลต้องการพัฒนาสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น หรือเขื่อนน้ำยม แต่เชื่อว่าไม่ใช่แค่แห่งเดียว ทั้งนี้เขื่อนมีประโยชน์ แต่เป็นการจัดการน้ำ และแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งได้จริงหรือไม่ เพราะมีผลการศึกษาว่าการสร้างเขื่อนได้ไม่คุ้มเสีย
“โครงการจัดการน้ำมีความจำเป็น แต่เขื่อนขนาดใหญ่ทั่วโลก มีข้อสรุปว่าไม่ใช่ทางออก ทั้งนี้ประเทศที่พัฒนา เลิกสร้างเขื่อน และเขื่อนที่หมดอายุได้ทยอยทุบทำลาย ความรู้ยุคสมัยใหม่มีวิธีการบริหารจัดการน้ำเองได้ไม่ต้องศึกษาดูงาน” นายเลาฟั้ง อภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายมาตราดังกล่าว พบว่า สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ได้ใช้สิทธิอภิปรายเพื่อทวงถามความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลในส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร ที่ต่อยอดมาจากรัฐบาลที่ผ่านมา
โดยนายอำนาจ วิลาวัลย์ สส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายขอความชัดเจนเกี่ยวกับรายการที่จะชดเชย และเยียวยาชาวนาในโครงการไร่ละ 1,000 บาท ในส่วนของการสนับสนุนปัจจัยการผลิต อย่าให้ชาวนาหมดกำลังใจขายที่นาไปทำอย่างอื่น ประเทศไทยจะไม่มีข้าวกิน ทั้งนี้ตนขอฝากไปยังนายกฯ และสำนักงบประมาณ ช่วยชาวนาในการเยียวยา ที่จัดสรรให้ไร่ละ 1,340 บาท ไม่พอกับต้นทุนขอให้เพิ่มอย่างสมเหตุสมผล
ขณะที่นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายขอปรับลดงบ 2% ทั้งนี้ขอทวงถามโครงการที่ช่วยเกษตรกร เพื่อลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตโดยเฉพาะชาวนา ทั้งนี้มีนโยบายที่ตั้งใจผลักดัน คือ ปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งในกระทรวงเกษตรกร ไม่มีรายการที่ช่วยเหลือเกษตรกร แม้จะอยู่ในช่วงตั้งรัฐบาลใหม่ เปลี่ยนรัฐมนตรี แต่โครการที่ช่วยชาวนาจำเป็น และต้องมี ทางกมธ.ได้ซักถามหน่วยงานหรือไม่ หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงโครงการปุ๋ยคนละครึ่งเป็นรายการอื่นของงบประมาณขอให้ กมธ. ชี้แจง นอกจากนั้นในส่วนของกรมชลประทาน ได้ตั้งงบไว้ 1.9 หมื่นล้านบาท แต่ปรับลด 57 ล้านบาท ซึ่งส่งผลต่อการแก้ปัญหาระบบน้ำในประเทศให้ลดน้อยลง ทั้งนี้ในกมธ.ได้พูดถึงการแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรมหรือไม่
ทางด้านนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกี้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย อภิปรายตอนหนึ่งด้วยว่า กระทรวงเกษตรต้องแก้ปัญหาราคายางที่ยุทธศาสตร์ เพื่อให้มีราคาที่ดี และชาวสวนยางมีความมั่งคั่ง นอกจากนั้นในราคาของทุเรียน ที่พบว่ามีราคาตกต่ำ โดยเฉพาะ พื้นที่ จ.สงขลา ราคาที่ 80 บาท ทั้งที่ในช่วงต้นฤดูกาล และท้ายฤดูกาลของทุเรียนมีราคาสูงถึง 250 บาท ดังนั้นขอฝากให้กระทรวงเกษตรฯ พิจารณา ทั้งนี้ตนฝากรัฐบาลในรอบหน้า วันนี้ตนตัด 5% แต่สิ่งที่อยากฝากคือ การดูแลเกษตรกร เพราะถือเป็นหัวใจหลักของประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี