"อนุทิน"นำภูมิใจไทย กะซวกกลับ"ประเสริฐพงษ์" ยันไม่เคยรู้จัก-รับเอกสาร ด้าน"สฤษฏ์พงษ์"อัดอย่าทำตัวเป็นนักประท้วง หลงระเริง เหลิงอำนาจ คิดว่ามีบทบาท ยันเตรียมถอดเทป-ตรวจเชาวเลข เล่นงานจริยธรรม
เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ที่รัฐสภา พรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) , นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ร่วมแถลงข่าวถึงกรณีที่ นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายพาดพิงถึง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน
โดย นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อตนได้ดูคลิปการอภิปรายของนายประเสริฐพงษ์แล้ว มีการพาดพิงถึงตนว่า ได้มีการส่งเอกสาร และพบตนหลายครั้งในสภา ตนขอยืนยันว่าไม่เคยพบกันแม้แต่ครั้งเดียว ไม่รู้จักกัน ต้องระมัดระวังคำพูดหน่อย การพูดต่อหน้าสภาซึ่งประชาชนทั้งประเทศรับฟังนั้น ความเป็น ส.ส.และความเป็นคนที่ต้องมีจริยธรรม ควรจะต้องเอาความจริงมาพูด ตนรู้จัก ส.ส.พรรคประชาชนมากมาย มีความเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่สำหรับนายประเสริฐพงษ์ ตนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพบ ไม่เคยคุยด้วย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นความจริง ในส่วนที่นายประเสริฐพงษ์ระบุว่าได้นำเอกสารอะไรมาให้ตน
ด้าน นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมานายประเสริฐพงษ์ มีนิสัยอย่างนี้มาโดยตลอด ตนพยามอดทนมาหลายครั้ง การใช้เวทีห้องประชุมกล่าวพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทย ซึ่งข้อความที่กล่าวนั้น ผิดข้อบังคับหมวดจริยธรรม ในการกล่าวหา ใส่ร้าย เสียดสี ซึ่งไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังกล่าวหาว่า ได้มีการเขียนหนังสือส่งถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแต่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่ทำ และ ส.ส.กระบี่พรรคภูมิใจไทยอีก 3 คน ก็ไม่มีผลงานอะไรในพื้นที่ ตนเป็น ส.ส.ตัวอย่างของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่ากระแสก็กระจายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ นี่เป็นตัวอย่างว่าประชาชนเห็น แต่นายประเสริฐพงศ์ไม่เห็น
"เขาไม่ได้พูดถึงผมอย่างเดียว กับคนอื่นเขาก็กล่าวร้าย โจมตี ทำตัวเป็นนักประท้วงอย่างเดียว โดยไม่คิดถึงจังหวัด ไม่คิดถึงบ้านเมืองเลย"
นายสฤษฏ์พงษ์ ยืนยันว่า การผลักดันกฎหมาย และการสร้างความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เราทำตามภายใต้อำนาจหน้าที่ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องประสานงานกับฝ่ายบริหารในการจัดสรรงบประมาณ โดยไม่ได้มีการแทรกแซงใดๆ แต่การที่นายประเสริฐพงศ์พยามเขียนจดหมายน้อยถึงรัฐมนตรี คือการแทรกแซงตามรัฐธรรมนูญชัดเจน ทำให้ตนมองว่าการทำงานเช่นนี้ ควรต้องรู้บทบาทตัวเองด้วย ซึ่งเมื่อทุกคนได้เห็น ก็มีการส่งข้อความมาให้ตน
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า แม้ตนไม่ได้อยู่ในห้องประชุม เนื่องจากติดประชุมคณะอนุกรรมธิการฯ อยู่ แต่ก็มีคนอื่นแจ้งเข้ามา ว่ามีการอภิปรายเช่นนี้ และหลายคนก็ถามตนว่า ทำไมปล่อยให้นายประเสริฐพงษ์ กล่าวโจมตีหัวหน้าพรรค พรรค และ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย
"ส.ส.ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย สร้างแต่วาทกรรม สร้างแต่ความเกลียดชัง สร้างแต่ศัตรู เวลาที่ลุกขึ้นพูด มาใส่ร้ายพวกผม ท่านหัวหน้าก็ทำงานเต็มที่เพื่อประเทศ และทำให้จังหวัดกระบี่ ไม่เช่นนั้นแล้ว ส.ส.ภาคใต้ ของพรรคภูมิใจไทย คงไม่ขยายหรอก ไม่อย่างนั้นประชาชนคงไม่เลือก" นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าว
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวอีกว่า การฉวยโอกาสในเวทีงบประมาณครั้งนี้ ตนเกรงใจประธานสภา เกรงใจประชาชน เพราะตนเป็น ส.ส.น้ำดีที่มีวินัย จึงได้ขออนุญาตประธานสภาฯว่า จะขอถอนเทป และตรวจเชวเลข เพื่อนำหลักฐานร้องจริยธรรมนายประเสริฐพงษ์ เพราะเขาหลงละเลิง เหลิงอำนาจ คิดว่ามีบทบาท ใส่ร้ายเพื่อนสมาชิกจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง ตนถามว่า ชีวิตเขา ช่วยหยิบมาสักอย่างว่า เขาสร้างผลประโยชน์อะไรทั้งในนามพรรค และในนามตัวเอง
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวด้วยว่า การที่ตนไม่ลุกขึ้นประท้วงในสภา เพราะเห็นว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง แต่อย่าใช้โอกาสในเวทีสภานี้ มาฉกฉวยเอาคะแนนแบบนี้ เป็นของปลอมที่พิสูจน์ให้เห็นว่า เราฝากประเทศและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนกับนักการเมืองแบบนี้ได้หรือไม่ มันแย่มาก และเป็นตัวอย่างที่พวกเราไม่ได้ศรัทธา สร้างความเสียหาย และศัตรูไปเรื่อยๆ ยืนยันว่า ทุกคนไม่ได้เป็นไปตามพฤติกรรมที่นายประเสริฐพงษ์ กล่าวหาในการอภิปรายมาตราของกระทรวงสาธารณสุข
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี