พรรคประชาชนฟัดไม่แผ่ว! รุมถล่มศาลรธน.ปิดคอมเมนต์สำรวจความเห็น ข้องใจ ‘กกต.-อัยการ’ ของบฯอบรมอื้อ
5 ก.ย.2567 เมื่อเวลา 17.30 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 วาระ2-3 ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย เข้าสู่มาตรา 31 ศาล วงเงิน 8,725,721,200 บาท
ทั้งนี้ สส.พรรคประชาชน หลายคนเรียงหน้าลุกขึ้นมาอภิปรายงบประมาณของศาลรัฐธรรมนูญ อาทิ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายถึงหลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย (นปธ.) ของศาลรัฐธรรมนูญว่า ใช้งบ 8.8 ล้านบาท เป็นหลักสูตรคอนเน็คชั่น เมื่อดูตัวโครงการไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้เลย สิ่งที่ทำไม่ใช่เรื่องนิติธรรม แต่เป็นเรื่องปฏิบัติธรรมมากกว่า บางโครงการไปปฎิบัติธรรมไกลถึงอินเดีย เนปาล เป็นหลักสูตรเพื่อประชาธิปไตย หรือปฏิบัติธรรม เมื่อดูรายชื่อศิษย์เก่าโครงการไม่ต่างจากงานสังสรรค์รวมญาติ หลายรุ่นนามสกุลเดียวกัน พ่อเรียนเสร็จ แม่เรียนต่อ ลูกเรียนต่อ มีทั้งคนในกองทัพ กลุ่มนักการเมือง 2 ใน 3 ของรายชื่อเป็นคนสำคัญรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ด้วย
"ที่สำคัญประธานศาลก็จบหลักสูตรนี้ 3 ใน 9 ท่าน เป็นตุลาการมาจากหลักสูตรเดียวกัน หลักสูตรเหล่านี้ไม่ควรมีอยู่ในองค์กรที่ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ ความเป็นกลาง ขอตัดงบโครงการนี้ทั้งหมด เพื่อเป็นหลักประกันความเป็นกลางให้ศาลทำหน้าที่ตุลาการอย่างอิสระ"น.ส.ศศินันท์ กล่าว
ด้านน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายว่า ศาลรัฐธรรมนูญของบประมาณโครงการสำรวจความเชื่อมั่นต่อการอำนวยความยุติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ วงเงิน 1 ล้านบาท ผ่านทางออนไลน์ เพื่อสำรวจความเห็นประชาชนต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อไปตรวจสอบเฟซบุ๊กศาลรัฐธรรมนูญกลับปิดคอมเมนต์ ไม่ให้แสดงความคิดเห็นได้ แต่กลับมาของบ 1ล้านบาท เพื่อสำรวจความคิดเห็นผ่านทางออนไลน์ เป็นการของบย้อนแย้งกับการกระทำหรือไม่ ถ้าเปิดช่องให้แสดงความคิดเห็นสามารถฟังความเห็นได้ไม่อั้น ฟรี ไม่รู้ปอดแหกหรือไม่ที่ไม่กล้าเปิดช่องคอมเมนต์ การสำรวจความเห็นประชาชนไม่จำเป็นต้องงบแม้แต่บาทเดียว แค่เปิดคอมเมนต์ให้ประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นก็ได้แล้ว หลังสมาชิกอภิปรายครบถ้วน ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตราดังกล่าว
ต่อมาเวลา 18.40 น. เข้าสู่การอภิปรายมาตรา 32 หน่วยงานขององค์กรอิสระและอัยการ วงเงิน 10,327, 613,900 บาท โดยนายกันตพงศ์ ประยูรศักดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายตั้งข้อสังเกตงบประมาณของ กกต.และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่มีงบอบรมรวมกันสูงถึง 425 ล้านบาท เป็นงบอบรมของ กกต. 256 ล้านบาท ใน 3 ด้านคือ ด้านการเลือกตั้ง ด้านสร้างความเข้มแข็งเครือข่าย และด้านประชาธิปไตย ขณะที่อัยการสูงสุดมีงบอบรม 168 ล้านบาท ดูแล้วใช้งบอบรมมากเกินไป นำ 2 องค์กรมารวมกันเรียกว่าเป็นกิจการอบรมแห่งชาติ
ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า ขอตั้งข้อสังเกตการทำงานของ กกต.เรื่องการชี้มูลให้ใบเหลือง ใบแดง ไม่เคยเกิดขึ้น โดยเฉพาะการเลือกตั้งสว.ที่ผ่านมา ที่ประชาชนจับจ้องอยู่ ต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับมา ใครทำผิดต้องได้รับโทษ หลังจากอภิปรายครบถ้วนแล้วที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 32
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี