‘วันนอร์’กางไทม์ไลน์‘รบ.แพทองธาร’
แถลงนโยบาย12-13ก.ย.
‘อิ๊งค์’เข้าทำเนียบฯวันแรก
นำครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์
‘บิ๊กป้อม’ปรับทัพพปชร.ใหม่
ประกาศอยู่ยาว-ไร้แตกแยก
ทำเนียบรัฐบาลคึกคัก ตัดแต่งต้นไม้-ขัดปืนใหญ่ รอรับครม.ใหม่“นายกฯอิ๊งค์”เข้าทำเนียบฯครั้งแรกหลังรับตำแหน่งก่อนนำเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ รอฤกษ์เข้าสักการะพระพรหม-ศาลตายายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบ “บิ๊กป้อม” คัมแบ๊กหัวหน้า พปชร.ประกาศต่อไปนี้ไม่มีแตกแยก-เป็นหนึ่งเดียว เปลี่ยนวิธีบริหารใหม่ รีแบรนด์แต่งโฉมใหม่24กก.บห.ยึดอุดมการณ์’ปกป้องสถาบัน-ทันสมัยเศรษฐกิจ-มีชีวิตที่สดใส’ ขณะที่‘วันนอร์’เผย แถลงนโยบาย‘รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์’12-13 ก.ย.นี้ยันไม่มีอะไรต้องระวัง
เมื่อวันที่ 6กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทำเนียบรัฐบาล ว่า วันเดียวกันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดย ครม.ชุดใหม่จะทยอยเดินทางเข้าทำเนียบฯเพื่อถ่ายรูปติดบัตร ที่ตึกสันติไมตรี ตั้งแต่เวลา 14.00น.
รมต.ขึ้นรถตู้เข้าถวายสัตย์พร้อมกัน
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร เดินทางเข้าทำเนียบฯในเวลา 15.00น.ถือเป็นการเดินทางเข้าทำเนียบฯเป็นครั้งแรกหลังรับตำแหน่งนายกฯ ก่อนที่เวลา16.00น.นายกฯและครม.จะเดินทางออกจากทำเนียบฯพร้อมกันด้วยรถตู้ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณในเวลา 18.15น.บรรยากาศทำเนียบฯตั้งแต่ช่วงเช้าคนสวนได้ทำความสะอาด ตัดแต่งต้นไม้บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า หน้าตึกสันติไมตรี และบริเวณโดยรอบศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตาศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ทำความสะอาดปืนใหญ่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยเคลือบสีให้ดูใหม่และทรงพลังมากยิ่งขึ้น ขณะที่บรรดาสื่อมวลชนได้มารอทำข่าวกันตั้งแต่ช่วงเช้าอย่างคึกคัก
‘อิงค์’ตื่นเต้น-มือเย็นเข้าทำเนียบ
เวลา 14.40 น.น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึงด้วยรถเบนซ์ รุ่น Vito Tourer สีบรอนซ์ เลขทะเบียน ขจ 995 กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อลงจากรถ น.ส.แพทองธาร ได้สวัสดีและโบกมือทักทายสื่อมวลชน โดเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ชี้มาที่สื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า “นี่แหละที่ทำให้ตื่นเต้น” จากนั้นนายกฯได้ส่งมือให้สื่อมวลชนจับและถามว่า “มือเย็นมั้ย”ซึ่งสื่อตอบว่า ไม่ได้ตื่นเต้นเลย แต่มือเย็นมาก ขณะที่นายกฯ ตอบว่า”แอร์ในรถเย็น อากาศหนาว”โดยก่อนจะขึ้นไปถ่ายรูปในตึกสันติไมตรี น.ส.แพทองธาร ได้บอกกับช่างภาพว่า”เลือกรูปสวยๆ หน่อยนะคะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า รัฐมนตรีที่ติดโควิด2คน คือ นายทรงศักดิ์และน.ส.ซาบีดา ที่ผลตรวจออกมาแล้วพบว่าติดโควิด เดินทางไปที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ด้วยตัวเองและเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณได้ แต่จะมีการแบ่งเป็นสัดส่วนแยกห้อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
2รมต.’ทรงศักดิ์-ซาบีดา’ติดโควิด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ก่อนการถ่ายรูปติดบัตร ครม.ชุดใหม่ ว่า มี 2รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย ติดโควิด-19 จำนวน 2คน ภายหลังเข้ารับการตรวจRT-PCR ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5ก.ย.คือ นายทรงศักดิ์ ทองศรีและนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย โดยหลังผลตรวจออกแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งผลไปยังรัฐมนตรีทั้ง 2 คนว่าผลตรวจเป็นลบ ซึ่งรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ได้แจ้งว่าจะขอไปตรวจ RT-PCR เองอีกครั้งที่โรงพยาบาลเอกชน ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวว่า ในการถ่ายภาพหมู่ครม.ชุดใหม่ ที่สนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เวลา 09.00 น. วันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ จะเลื่อนออกไปก่อน
‘อนุทิน’แจงยังไม่แบ่งงานรองนายกฯ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีรัฐมนตรีของพรรคติดโควิด-19 จำนวน 2 คน คือ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ซึ่งตนให้ไปตรวจ 2 ครั้ง ผลก็ออกมายืนยันว่าติดโควิด ขณะนี้จึงยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้จนกว่าจะถวายสัตย์ปฏิญาณ ตนก็ต้องทำงานแทนไปก่อน เพราะตนรับผิดชอบทั้งกระทรวงอยู่แล้ว ส่วนการแบ่งงานจะดูตามความเหมาะสม คงไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมมาก เมื่อถามว่า น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย จากพรรคเพื่อไทย (พท.) จะได้รับผิดชอบงานด้านใด นายอนุทิน กล่าวว่า นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมช.มหาดไทย เคยดูกรมการพัฒนาชุมชน ก็คงไม่แตกต่างจากเดิม และ น.ส.ธีรรัตน์ เป็น ส.ส.กทม.คงจะดูส่วนนั้น ทุกงานมีความสำคัญ แต่ทั้งหมดต้องรอคำสั่งแต่งตั้งและการแบ่งงานจะเกิดขึ้นหลังแถลงนโยบาย ส่วนการแบ่งงานของรองนายกฯขึ้นกับนายกรัฐมนตรีจะพิจารณา แต่คาดว่าตนจะได้ดูกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ดูแลอยู่ เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ได้เรียกรองนายกฯ มาแบ่งงานใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังและยังไม่ได้พบท่าน
ปมจริยธรรมเกิดครม.สืบสันดาน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวอธิบายคำว่าสืบสันดานทางกฎหมาย ว่านั้นมีจริง เขาเรียกว่าเป็นบุพการีผู้สืบสันดาน นั่นเป็นคำในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกฎหมายต่างๆ ซึ่งตนเข้าใจว่าการที่นำมาเปรียบเทียบกันคงจะเปรียบในทางการเมือง แต่ในทางกฎหมาย หมายความว่าหากบุพการีไม่อยู่ และไม่สามารถทำหน้าที่ได้ก็ให้ผู้สืบสันดานทำหน้าที่แทน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องในทางกฎหมาย เบื้องต้นมองว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เพราะเรามีพรรคการเมือง ซึ่งแต่ละพรรคก็ได้โควตาที่แตกต่างกันไป ระบบก็เป็นเช่นนี้
นายชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขออย่าไปซีเรียสอะไรเลย กับเรื่องเหล่านี้ เมื่อถามว่า การนำมาเปรียบเทียบเช่นนี้แรงไปหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เป็นศัพท์ธรรมดา แต่ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงศัพท์ทางการเมืองที่ใช้กัน เหมือนกับในช่วงปีใหม่ที่ทางผู้สื่อข่าวจะมีการตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรี ก็ให้มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เมื่อสภาพการเมืองไทยเป็นเช่นนี้ มีพรรคการเมือง มีคณะรัฐมนตรี เราจะไปขอให้พรรคเพื่อไทย ตั้งโควตารัฐมนตรีทั้งหมดก็คงไม่มีใครเล่นด้วย ก็จะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เมื่อถามว่า เป็นผลพวงมาจากคำว่าจริยธรรมของการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จึงใช้วิธีการสืบสันดานเพื่อแก้ไขปัญหาใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะมองอย่างนั้นก็ได้ เพราะเมื่อวาน (5 ก.ย.) ตนก็บอกไปแล้ว ว่าบางถ้อยคำอาจมีปัญหา อาจจะต้องปรับต้องแก้ ซึ่งก็แล้วแต่มุมมอง ตนจึงอยากให้ทุกคนมองเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการเมือง อย่าไปเครียดอะไรมาก เมื่อถามว่า ถือว่าเป็นการแก้เกมของขั้วอำนาจเดิมใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ อย่าไปมองอย่างนั้น ให้มองเป็นเรื่องปกติธรรมดา จะสบายใจกว่า
ครม.ใหม่ถ่ายรูปหมู่7กันยายน
น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เปิดเผยว่า เรียนสื่อมวลชนทราบคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณพร้อมเพียงกันเย็นวันที่6กันยายนนี้ ย้ำว่าเข้าเฝ้าฯทุกคน ทั้งนี้ วันที่ 7ก.ย. เวลา 09.15น.ครม.ถ่ายภาพหมู่ หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น. และ เวลา 10.00 น.ประชุม ครม.นัดพิเศษ และหลังเสร็จสิ้นการประชุม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และครม.แถลงข่าวร่วมกัน ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน ด้วยชุดผ้าไทยสีเหลือง
‘บิ๊กป้อม’คัมแบ็กหัวหน้า พปชร.’
เวลา 10.25น.วันเดียวกัน ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคพลังประชารัฐ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่2 มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรค สส. และสมาชิกพรรคกว่า 500 คน เข้าร่วมประชุม อาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน,นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ , นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นที่น่าสังเกตว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ไม่ปรากฏตัวร่วมประชุม ระหว่างเดินเข้าห้องประชุม พล.อ.ประวิตร ทักทายสมาชิกพรรค ที่มารอมอบพวงมาลัยดาวเรือง พร้อมตะโกนให้กำลังใจ “ลุงป้อมสู้สู้“ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้น นายไพบูลย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยแจ้งวาระการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพิ่มเติม แทนคนเดิมที่ลาออก และแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มเติม ตามที่กฎหมายกำหนด ใช้เวลาประชุม 1ชั่วโมง
พรรคเลือกกก.บห.ชุดใหม่24คน
ต่อมา เวลา 11.20น.นายไพบูลย์ แถลงผลประชุม ว่า ช่วงเช้าวันนี้ พล.อ.ประวิตรได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค ส่งผลให้กก.บห.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะและที่ประชุมได้ทำการเลือกกก.บห.ชุดใหม่ 24คน ดังนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เป็นกรรมการและเหรัญญิกพรรคนายสมโภชน์ แพงแก้ว นายทะเบียนพรรค รองหัวหน้าพรรค 8 คน ตามลำดับ ดังนี้ 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 2.นายชัยวุฒิ ธนาคมาอนุสรณ์ 3. น.ส.ตรีนุช เทียนทอง 4.นายอุตตม สาวนายน 5.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ 6. นายฉกาจ สส.กระบี่ 7.นายชัยมงคล ไชยรบ และ 8. นายอภิชัย เตชะอุบล กก.บห.12คน ดังนี้ 1.นายยงยุทธ สุวรรณบุตร 2.นายอัครวัฒน์ อัศวเหม 3.นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช 4.นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย5.น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ 6.นายคอซีย์ มามุ ส.ส.ปัตตานี 7.นายทวี สุระบาล สส.ตรัง 8.นายวัน อยู่บำรุง 9.พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย 10.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี 11.นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ 12.นายอนันต์ ผลอำนวย
ทั้งนี้ เห็นชอบตั้งกรรมการสรรหา 5คนในสัดส่วน กก.บห.เพิ่มเติม ดังนี้ 1.สันติ พร้อมพัฒน์ 2.นายไพบูลย์ นิติตะวัน 3.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 3.น.ส.ตรีนุช เทียนทเง และ5. พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ จากนี้เราจะไม่มีความแตกแยกกันอีกแล้ว เราจะบริหารใหม่โดยใช้รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้คุมพื้นที่ และให้เลขาธิการพรรคเป็นฝ่ายสนับสนุน พรรคพปชร.จะยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพรรคเศรษฐกิจทันสมัย ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ ที่ดี มีชีวิตสดใสขึ้น จะทำเพื่อให้พรรคของเราเข้มแข็ง ให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขต่อไป
‘บิ๊กป้อม’ให้ไปถาม’ธรรมนัส’เอง
เวลา 11.50น.ผู้สื่อข่างรายงานว่า ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร เดินลงจากเวทีหลังการประชุมพรรค ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการเดินหน้าพรรค พปชร.หลังจากที่ได้ย้ำว่าจะไม่มีการแตกแยกอีกแล้ว โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เรียบร้อย”เมื่อถามว่า เรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรค จะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ พล.อ.ประวิตร หันมาพูดเสียงแข็งว่า “เรื่องของธรรมนัส ก็ไปถามธรรมนัสสิ”
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เดินเข้ามายังจุดที่ได้เตรียมให้สัมภาษณ์ พร้อมกล่าวย้ำ”อุดมการณ์พรรคว่า เรายึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์และจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันดับแรก”ก่อนยกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว ผู้สื่อขาวพยายามสอบกรณี ร.อ.ธรรมนัส อีกครั้ง แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถาม ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับ พร้อมโบกมือให้สมาชิกพรรคที่มาประชุม
ปรับโครงสร้างกก.บห.อุดรอยรั่วพรรค
เวลา 12.00 น.ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับตำแหน่ง ว่า แนวทางหลักคือจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของตำแหน่งเลขาธิการพรรค จากเดิมเข้าไปดูผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ แต่ในส่วนการสนับสนุนฝ่ายต่างๆอาจจะไม่ได้ทำมาก พล.อ.ประวิตร จึงปรับโครงสร้างให้เป็นฝ่ายสนับสนุนรองหัวหน้าพรรคทั้ง 8คนและให้รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้ดูแลผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย ที่สำคัญการปฏิบัติงานต้องขึ้นตรงต่อหัวหน้าพรรค เพื่อให้พรรคมีความมั่นคงสถาพร เชื่อว่าการตั้งกก.บห.ชุดใหม่จะสร้างความเข้มแข็งเป็นปึกแผ่นให้กับพรรค พปชร.เพื่อก้าวต่อไป
เมื่อถามว่า จะปรับแนวทางพรรคอะไรบ้าง นายไพบูลย์ กล่าวว่า คงมีการประชุมกันเพื่อกำหนดแนวทางต่าง ๆ ย้ำว่ากก.บห.ชุดใหม่ มีโครงสร้างที่เข้มแข็ง เพราะรองหัวหน้าพรรคผสมผสานทั้งนักวิชาการ สส.แกนนำพรรคและรัฐมนตรี สำหรับแนวทางพรรคหลังจากนี้ ต้องรอการประชุมกก.บห.ครั้งต่อไป และจะแถลงข่าวให้ทราบเป็นระยะ เมื่อถามว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะอุดรอยรั่วภายในพรรคได้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การปรับครั้งนี้จะทำโครงสร้างเป็นหนึ่งเดียวและมั่นคง เพราะกก.บห.เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานในนามพรรค ฉะนั้นหากมีความเป็นเอกภาพ เชื่อว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อว่ากก.บห.ชุดนี้ จะไม่ใช่ชุดที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อะไร หรือไม่มีบทบาทแบบที่ผ่านมา เมื่อถามว่ามีความพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านมากน้อยแค่ไหน นายไพบูลย์ กล่าวว่า พร้อมอยู่แล้ว เพราะการมี สส.ไม่ว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราก็พร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว และจะทำให้ดีที่สุด ตนเองเชื่อว่าเราจะก้าวไปสู่ยุคใหม่ของการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมากขึ้น
ไม่ใช่พรรคทหารตั้งขึ้นเฉพาะกิจ
เมื่อถามว่าปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคพลังประชารัฐเกิดขึ้นโดยทหาร จะทำอย่างไรให้พรรคแตกต่างจากพรรคทหารในอดีต นายไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เป็นนายทหารนอกราชการ ซึ่งทหารที่มาร่วมในพรรคเป็นสัดส่วนน้อยมาก ฉะนั้นพรรคเราไม่ใช่พรรคทหารอย่างที่เขาว่า แต่เป็นพรรคการเมืองที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่วันก่อตั้งถึงปัจจุบันและพรรคมีความมุ่งมั่นทำประโยชน์ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่องและยืนยาว แม้หลายฝ่ายจะปรามาสว่า เป็นพรรคเฉพาะกิจ ซึ่งตนยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นหัวหน้าพรรคตลอดไป เมื่อถามย้ำว่าในอดีตพรรคที่ก่อตั้งโดยทหารมีอายุไม่ยืนยาวเท่าไร นายไพบูลย์ กล่าวว่า เห็นว่าพรรคใดที่ก่อตั้งโดยคนที่ไม่มียศทหาร ก็ล้มหายตายจากไปเยอะแล้ว ฉะนั้นก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป แต่เรายังอยู่ เมื่อถามถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐเป็นฝ่ายค้าน แต่มี สส.โหวตสนับสุนนรัฐบาล จะดำเนินการอย่างไร นายไพบูลย์ กล่าวว่า เมื่อมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คงมีการประชุมโดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานสภาฯ ส่วนจะเป็นอย่างไรขอให้รอมติที่ประชุม เพราะหากเอาความเห็นส่วนตัวมาพูดคงไม่ดี
ขับ’ธรรมนัส’หรือไม่รอมติกก.บห.
เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องขับออกหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่อยากพูดถึง แต่เรายังไม่มีแนวคิดอะไรทั้งสิ้น ขอให้มีมติจากกรรมการบริหารพรรคก่อน เมื่อถามต่อว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบในสภาฯ เข้มข้นหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่าเรื่องการตรวจสอบไม่เคยเกรงใจใคร ตนเองชอบมากเพราะเป็นงานถนัด ตั้งแต่ตนเองเป็น สว.ตรวจสอบรัฐบาลมาตลอด 6ปี เมื่อถามว่าจะได้เห็น พล.อ.ประวิตร อภิปรายในสภาฯ หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ดำริอยู่บ่อยว่าจะเข้าสภาฯ ในเวลาที่สะดวก ส่วนการอภิปรายขอให้รอดู
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร ตั้งเป้าซักฟอกใครเป็นพิเศษหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ต้องไปถามท่านเอง แต่ส่วนตัวคงรู้ว่าจะตรวจสอบใคร พูดไปหลายครั้งแล้ว
‘ชัยวุฒิ’ชี้.มีปัญหาคนนอกครอบงำ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมใหญ่สามัญ ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ประกาศรีแบรนด์พรรคใหม่ ว่า ไม่ถึงกับรีแบรนด์ ยังคงเป็นพรรค พปชร.เหมือนเดิม เพียงแต่ได้เน้นถึงอุดมการณ์ให้ชัดเจนและแนวทางการทำงานต่อไปที่เราจะต่อสู้ในอนาคต ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เมื่อถามว่า สมาชิกพร้อมรับกับการรีแบรนด์พรรคใหม่ครั้งนี้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า คนที่อยู่สู้กับพรรคมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานการเมืองต่อกับเรา มีอุดมการณ์ร่วมกัน ส่วนคนที่ไม่อยู่ถือว่าออกไปแล้ว ซึ่งมีความชัดเจน และตนไม่อยากจะพูดถึง ส่วนคนที่อยู่คือรักกัน ทำงานร่วมกันแน่นอน เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคย้ำเรื่องของการไม่แตกแยก แต่ภาพที่ปรากฏออกมามันสวนทางกัน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า มันเป็นธรรมดาของพรรคการเมือง มีคนหลายกลุ่มหลายฝ่ายอยู่ด้วยกันก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง ตนว่าอย่ามองที่พรรคพลังประชารัฐเลย ทุกพรรคมีปัญหาแบบนี้ เพียงแต่ว่าแต่ละพรรคจะบริหารจัดการภายในพรรคอย่างไร ซึ่งของพรรคพลังประชารัฐที่เกิดปัญหาในครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากภายในพรรคอย่างเดียว แต่เกิดจากบุคคลภายนอกพรรคที่เข้ามาครอบงำ เข้ามาสั่งการด้วย จึงทำให้เกิดปัญหา
ไม่ขอพูดถึงอดีต-มุ่งเดินหน้าพรรค
เมื่อถามว่า คนที่ครอบงำเป็นคนจากพรรคอื่นใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ดูจากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาสั่งการ ครอบงำ มีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกในพรรค ถ้าภาษาการเมืองเขาเรียกว่าดูด หรืองูเห่า แบบนี้มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย มันไม่ใช่กระบวนการทางการเมืองแบบตรงไปตรงมา ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับพรรคพลังประชารัฐ แต่เรื่องนี้ผ่านไปแล้วไม่อยากพูดถึง ตอนนี้เราเดินหน้าทำงานต่อไป
เมื่อถามว่า กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ได้โหวตสวนในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2568 ไม่ได้เป็นพฤติการณ์ให้ขับออกจากพรรคได้ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น ถ้าถึงจุดนั้นค่อยว่ากันอีกที และในพรรคเรายังไม่มีการพูดคุยถึงการขับ ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ เมื่อถามว่า ท่าทีขึงขังของ พล.อ.ประวิตร ในที่ประชุมใหญ่สามัญ เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่า กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส อยากให้พรรคขับออกเพื่อจะไปร่วมงานกับพรรคอื่น แต่ดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐพยายามดึงรั้งไว้ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่มีการพูดคุยกัน ตนว่าเรื่อง ส.ส.ที่แยกตัวออกไป คงต้องดูสถานการณ์อีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตอนนี้พรรคยังไม่มีท่าที เรื่องนี้ปล่อยให้ฝ่ายต่างๆ ทำหน้าที่กันต่อไป ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาแตกหักกัน
รบ.แถลงนโยบาย2วัน12-13ก.ย.
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์การแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า วิปรัฐบาลเสนอมาว่า ขอเป็นวันที่ 12-13 ก.ย.โดยในวันที่ 9ก.ย.นี้ ตนได้นัดประชุมวิปสามฝ่ายเพื่อทำการพูดคุยและตกลงเรื่องเวลาที่แต่ละฝ่ายจะใช้ในการประชุม
เมื่อถามว่าการแถลงนโยบายจะเกิดขึ้น2วัน ใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตามที่ตกลงกันไว้จะเป็น 2วัน เพราะเรายึดการแถลงนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ขณะนี้จำนวนสมาชิกรัฐสภาก็ลดลงเนื่องจากชุดที่แล้วทางสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มี 250คน แต่ชุดนี้เหลือเพียง200คน ฉะนั้น2วัน น่าจะคุยกันพอเมื่อถามว่า ต้องมีข้อระวังอะไรหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่มีอะไร รัฐบาลกับฝ่ายค้านก็ร่วมมือกันดี เห็นได้จากตอนอภิปรายงบประมาณ ก็จบด้วยดี
ชี้เรื่องส่วนตัว’บิ๊กป้อม’โดดร่มสภาฯ
นายวันนอร์ ยังให้สัมภาษณ์กรณีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ไม่ได้มาโหวตอะไรเลย ว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ประวิตร หากไม่มา ก็ต้องส่งใบลา เพราะเป็นสิทธิ์ของสมาชิกที่หากใครไม่สบายหรือมีเหตุจำเป็นก็สามารถส่งใบลามาได้ ส่วนเรื่องการอนุมัติใบลานั้น ต้องไปถาม พล.อ.ประวิตร เอง
เมื่อถามว่า ในส่วนของการอนุมัติใบลาที่เป็นอำนาจของประธานสภาฯ หรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า หากสมาชิกไม่สบายหรือมีภารกิจก็ลาได้ แต่ต้องส่งใบลามาที่สภาฯ และทางสภาฯ ก็รับทราบ เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเป็นการช่วยเหลือกันในเรื่องของการอนุมัติใบลาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องดูข้อบังคับและกฎหมายรัฐธรรมนูญ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี