“จตุพร”ประเมินสถานการณ์ทางการเมือง คาดนักร้องเปิดศึกลวงตะลุมบอนกดดันรอบทิศ ชี้หลอกสร้างภาวะร้อนรน แล้วเล่นงานด้วยคำร้องเดียวให้จังหนับ จนทักษิณเดินเข้าสู่ผาตรอมใจ หนีอีกรอบก็หนีไม่พ้น ลั่น ปชช.อย่าเปิดโอกาสให้การเมืองชั่วมีอำนาจ ปลุกเข้มตรวจสอบ อย่าคิดแบบ “อะไรก็ได้” ทำให้พวกตระบัตสัตย์ได้ใจ
เมื่อ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า การยื่นคำร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมนายกฯ พ่อนายกฯ และครม.สืบสันดาน เป็นยุทธวิธีการศึกแบบตะลุมบอน เพื่อให้ฝ่ายรัฐบาลเกิดภาวะกระวนกระวายรอบทิศ แล้วที่สุดพุ่งเป้าเผด็จศึกด้วยคำร้องเรียนเรื่องเดียวเท่านั้น
อีกทั้งคาดว่า นับจากนี้ไป ทักษิณ ชินวัตร จะเดินไปสู่ผาตรอมใจ เพราะในความมั่นใจของเขานั้นมีความขาดกลัวไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จึงทำให้อารมณ์การเมืองวูบวาบไม่สม่ำเสมอ บางวันออกอาการกล้าเกินเหตุ แต่บางวันเก็บตัวเงียบไม่กล้าเปิดตัวต่อสังคม ถึงขั้นไปร่วมงานการเมืองต้องหลบซ้อนแอบเข้าประตูหลัง ดังนั้น อารมณ์การเมืองแบบนี้แสดงถึงอาการรนกระวนกระวาย สะท้อนไม่มีความมั่นใจใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ มีพฤติกรรมส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ทนใครเหมือนกัน จึงกล้าพูดไม่พร้อมข่มเหงใคร นั่นหมายความมุมกลับทางการเมืองว่า ถ้าพร้อมก็ข่มเหงใครก็ได้ และความพร้อมคงจะเกิดขึ้นจากการถูกร้องให้ตรวจสอบจริยธรรมของมนุษย์ที่เข้าข่ายไม่เหมาะสมกับงานการเมือง
อย่างไรก็ตาม คำร้องที่นักร้องหลายคนทั้งนิรนามและเปิดเผยตัวเอง เมื่อพิจารณาแล้ว ล้วนพุ่งเป้าลวง วางกับดักให้รัฐบาลเพื่อไทยกระวนกระวาย แต่เป้าหลักยังเป็นตัวทักษิณ เช่นเดิม โดยเริ่มตั้งแต่พฤติกรรมเอื้อประโยชน์การนอนป่วยชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไม่ติดคุกสักวัน เรื่อยมาจนถึงเรียกพรรคร่วมรัฐบาลไปประชุมการตั้งนายกฯ แทนนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ศาล รธน.ตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง
“ทักษิณ แสดงอาการร้อนรนครอบงำพรรคการเมืองชัดเจน ทั้งการตั้งรัฐบาล การดึง สส.พรรคอื่นมาร่วม และทำลายพรรคการเมือง ดังนั้น จึงเป็นเป้าหลักที่ฝ่ายนักร้องการเมืองต้องจัดการกรณีป่วยนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ครั้งนี้จะหนียาก และยังยากลำบากที่จะอยู่ในไทยด้วย เพราะอาจต้องกลับเข้าคุก”
นายจตุพร กล่าวว่า โครงการขายคอนโด การตั้งบ่อนคาสิโน และแลนด์บริดจ์ ที่พ่วงสิทธิ์ในที่ดิน 99 ปีไปด้วยจะสร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างมากมาย สิ่งสำคัญจะมีความเชื่อถือได้แค่ไหนกับพรรคการเมืองที่หลอกลวงประชาชนทุกอย่างแต่มาสัญญาฟื้นเศรษฐกิจด้วยโครงการที่กังขาผลประโยชน์มหาศาลเหล่านี้ หากบ้านเมืองหายนะใครจะรับผิดชอบ
ส่วนการยื่นคำร้องฟ้องรัฐบาลอุ๊งอิ๊งนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ที่มีจำนวนมากแสดงถึงการสร้างภาวะตะลุมบอนให้เกิดขึ้น เพื่อรัฐบาลจะได้อาการพะวักพะวงกับทุกเรื่องราวรอบตัวจนทำอะไรไม่ถูก เพราะต้องทำทุกอย่างที่ถูกยื่นร้องเรียน แล้วยังต้องเตรียมทีมงานกฎหมายมาแก้ต่างจำนวนมาก สำหรับฝ่ายผู้ยื่นคำร้องจะเล่นงานเพียงเรื่องเดียวเป็นหลักเท่านั้น
"การสู้กับคนตระบัดสัตย์ หลอกประชาชนมาตลอด จึงต้องพลิกแพลงวิธีโจรมาใช้กับโจรเหมือนกัน โดยยึดหลักกฎหมายเท่ากัน ซึ่งเชื่อว่าคำร้องให้องค์กรอิสระตรวจสอบ ต้องโดนสักเรื่องหนึ่ง ถ้าครอบครอง ครอบงำไม่มีปัญหากับการเรียกพรรคร่วมมาประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้า แม้การตั้งรัฐบาลแบบนี้ไปสมควรทำและเข้าไปแทรกแซง แต่ทักษิณ ยากจะดิ้นหนีกรณีชั้น 14 ไปได้ง่ายๆ"
นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยถ้าปล่อยให้เกิดหลักคิดแบบ อะไรก็ได้ จะสร้างความเสียหายมากมายในสิ่งที่ผิด แต่ทำไมจึงไม่คิดแบบเกาหลีใต้ว่า ถ้าอะไรผิดแล้ว อะไรก็ไม่ได้ และไม่ปล่อยไว้ให้เกิดความเสียหายเด็ดขาด ประชาชนของเขาจะลุกขึ้นมาคัดค้านทันที เช่นนี้นักการเมืองจึงไม่กล้าตระบัตสัตย์ ไม่หลอกลวงข้ามหัวประชาชน
อีกทั้ง กล่าวว่า ประเทศไทยที่ไปไหนไม่ได้ เพราะคิดแบบอะไรก็ได้ ซึ่งเป็นการทำลายหลักการของประเทศ จน (การพัฒนา) ต้องมายืนอยู่หลังเพื่อน แล้วยังกล้าพูดไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สิ่งสำคัญคือ การให้โอกาสคนชั่วแม้วินาทีเดียว ก็เกิดความเสียหาย ดังนั้น ประชาชนต้องเปลี่ยนหลักคิด อะไรที่ผิดกฎหมาย จริยธรรมการปฏิบัติ หรือตระบัดสัตย์ต้องไม่ให้โอกาสเด็ดขาด
"ประเทศศิวิไลซ์ทั้งหลาย ที่ประเทศมีความแข็งแรงเพราะประชาชนแข็งแรงต่างหาก นักการเมืองจึงไม่กล้าทุจริตทำชั่ว ไม่กล้าหลอกลวง ตระบัตสัตย์ ส่วนประเทศไทยประชาชนปล่อยปละละเลย ทำลายพรรคการเมืองและความไว้วางใจ แต่ประชาชนยังนิ่งเฉยกัน แล้วกล้าบอกให้โอกาสเขาก่อน"
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าประชาชนแข็งแรงแล้ว ไทยจะได้ผู้บริหารประเทศที่มีคุณภาพ และใครก็ไม่กล้าทำความผิด ดังนั้น ในประเทศที่อ่อนแอและสุ่มเสี่ยงหายนะ พลังของประชาชนยังมีความจำเป็นกับการปกป้องบ้านเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี