พายุหมุน หรือแค่ลมพัด!‘สว.พันธุ์ใหม่’หยันล่วงหน้า‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ล้างหูรอฟังนโยบายรัฐบาล รับหนักใจถูกกินรวบประธานกมธ. สับ‘งบ68’จัดสรรแบบไร้ยุทธศาสตร์ หมดหวัง กระตุ้นเศรษฐกิจน้อยมาก
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 กันยายน 2567 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กลุ่มพันธุ์ใหม่ กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 12 -13 ก.ย.นี้ ว่า รัฐบาลยังผลักดันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แต่อาจเปลี่ยนรูปแบบ ต้องรอดูเพราะงบประมาณถูกจัดสรรและดำเนินการไปแล้ว และดูนโยบายนี้จะทำได้ตามกฎหมาย กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ และจะเป็นพายุหมุนหรือเป็นแค่ลมพัด ส่วนกรอบเวลาอภิปราย เชื่อว่า ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายจะจัดสรรเวลาให้ สว.ได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง สว.จะมีข้อสังเกตให้ใช้งบอย่างระมัดระวัง
“เชื่อว่าจะมีการจัดสรรให้สว.ได้อภิปรายอย่างกว้างขวางเพราะครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการที่เราจะได้ช่วยกัน หากรัฐบาลยังใช้นโยบายแบบนี้ จะสอดคล้องและเหมาะสมอย่างไร ก็จะมีข้อสังเกตเพื่อให้เกิดความระมัดระวัง โดยสว.ได้มีการเตรียมความพร้อมในการอภิปราย และกำลังเงี่ยหูฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลอยู่” น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวถึงปัญหาการเลือกประธานคณะกรรมาธิการสามัญ 21 คณะ วุฒิสภา ว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆจากกลุ่มใหญ่ ต้องจับตาดูจะจัดสรรให้เป็นไปตามสัดส่วน สว.ที่เข้ามาตามกลุ่มอาชีพ หรือเพียงเป็นการกินรวบอยู่ฝ่ายเดียว หากเป็นกระบวนการจัดตั้งจะมีผลระยะยาวอย่างมาก จะได้เห็นการขับเคลื่อนวาระที่ไม่ใช่ของประชาชน แต่เป็นวาระของกลุ่มสนับสนุนให้กลุ่มคนจำนวนนั้นเข้ามาในสภา ทำให้การขับเคลื่อนปัญหา การริเริ่มพัฒนาอะไรต่างๆไม่เป็นตามที่ควรเป็น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ กลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ได้เสนอตัวแทนเป็นประธานกรรมการบ้างแล้ว เพราะบุคลากรมีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพตรง แต่ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่การทำหน้าที่ของกรรมาธิการเป็นการทำงานเชิงรุก หากทั้ง 21 คณะ มีประธานกมธ.เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด จะไม่เห็นการนำปัญหาประชาชนมาสะท้อนของกลุ่มอาชีพต่างๆ
“เท่าที่ดูจำนวนเสียงส่วนใหญ่น่าหนักใจมากที่จะไม่ได้ประธานกรรมาธิการของกลุ่มเสียงข้างน้อยเลย จึงอยากให้สัดส่วนเสียงข้างมากพิจารณาว่าการทำงานตลอด 5 ปี ถ้าประธานกมธ.ใน 21 คณะ ไม่มีสัดส่วนของ สว.อิสระ ภาพการทำงานจะกลายเป็นสภาอำนาจนิยมหรือไม่” น.ส.นันทนา กล่าว
เมื่อถามถึงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 น.ส.นันทนา กล่าวว่า สว.ไม่สามารถปรับ ลด ปลด เพิ่ม ไปได้เลย ได้แต่พิจารณาและตั้งข้อสังเกตไป และจากการดูรายละเอียดร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 68 เป็นการจัดที่ไม่มียุทธศาสตร์ โดยเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของงบประมาณทั่วไป เชื่อว่าเป็นการจัดทำงบประมาณของข้าราชการประจำ ทำให้ไม่มีลักษณะของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นงบประจำ 68% และที่เหลือเป็นงบที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งน้อยมาก
“งบที่เข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นงบประมาณในส่วนของดิจิทัลวอลเล็ต และซอฟต์พาวเวอร์ หากยังจัดงบประมาณแบบนี้ต่อไป ปีหน้าคงหมดหวัง ตนให้ข้อสังเกตไปว่าในการจัดงบประมาณปีต่อไปควรจะทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ตั้งแต่เริ่มใช้งบปี 2568 โดยมุ่งในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ” น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวด้วยว่า สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี68 ซึ่งจะพิจารณา 3 วาระรวดนั้น หากดูช่วงเวลาในการดำเนินการตรงนี้ มีการปฏิเสธร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ฯ จะเป็นปัญหาในการที่จะ ทำให้ชะลอและต้องส่งกลับไปยังสส. คิดว่าคงจะให้ผ่านแต่ก็จะให้ข้อสังเกต และเสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งคงไม่ทำให้เกิดการฉุดรั้งให้งบไม่สามารถเดินต่อไปได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี