‘จตุพร’มึนคนไทย‘อะไรก็ได้’ให้โอกาสรัฐบาลโกหกทำงาน ซัดตระบัดสัตย์ไม่น่าเชื่อถือ ถามทำไมไม่คิดป้องปรามไว้ก่อน ส่วนแถลงนโยบายแค่คำพูดหลอกๆไม่คิดจะทำจริง เชื่อประชาชนประเมินสถานการณ์ รอจุดร่วมเกิดเปลี่ยนแปลง ลั่นต้านคาสิโนซ่อนผลประโยชน์ส่วนตน ย้ำค้านขายแผ่นดิน 99 ปี
10 กันยายน 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 ว่า คนไทยเป็นประเภท “อะไรก็ได้” และมักให้โอกาสการทำชั่ว แล้วมักมาจัดการภายหลังแบบวัวหายล้อมคอก โดยไม่ระงับยับยั้งป้องปรามกันไว้ก่อน
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลเกิดจากการโกหกทุกฝ่าย แต่คนไทยประเภทอะไรก็ได้ยังให้โอกาสทำงานก่อน จึงไม่รู้คนไทยเป็นคนประเภทไหนกัน เช่น รัฐบาลก่อนเข้ามาบริหารประเทศบอกจะไม่จับมือกับใคร พรรคไหน ก็เป็นตรงกันข้ามหมด หากบอกจะตั้งรัฐบาลสามัคคีความขัดแย้ง สมานฉันท์ทุกฝ่ายแล้ว ย่อมไม่มีใครว่ากล่าวหรือวิพากษ์วิจารณ์อย่างใดทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังโกหกคนเสื้อแดงว่า เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้วสามารถให้คนเสื้อแดงยื่นฟ้องตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีทางการเมืองได้ภายใน 100 วัน โดยคนที่พูดหาเสียงเช่นนี้ไว้กลายเป็นคนสาบสูญไปแล้ว ซึ่งเหมือนมนุษย์ย่อมมีเส้นประสาทส่วนจำถูกทำลายอย่างรวดเร็วมาก
“เมื่อมาเป็นรัฐบาลแล้ว ก็ทำตรงข้ามที่พูดกับประชาชนไว้หมด และยังบอกให้โอกาสทำงานก่อน แล้วคุณเคยให้โอกาสประชาชนหรือไม่ คุณโกหกประชาชนทำไม ถ้าต้องการตั้งรัฐบาลแบบนี้ก็บอกความจริงกับประชาชนมา ผมหรือประชาชนจะไปทักท้วงอะไรได้ เพราะประชาชนตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตนี้เอง แต่เมื่อโกหก ตระบัดสัตย์มาแล้ว มาขอโอกาสทำงานก่อน จะให้ได้อย่างไรกัน”
ส่วนนักยื่นคำร้องตรวจสอบ รมต.นั้น นายจตุพร กล่าวว่า อะไรก็ตาม ถ้าไม่ผิดถึงให้ร้องมากมายย่อมไม่ผิดอยู่ดี ดังนั้นเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและ รธน.ให้โอกาสประชาชนยื่นคำร้อง คงไม่ได้หมายความว่ายื่นคำร้องแล้ว ผู้ถูกร้องจะผิดเลย อาจยื่นไป 100 เรื่องคงมีสักเรื่องที่ รมต.เข้าข่ายผิดและเป็นจุดชี้ขาดของชาติบ้านเมือง ดังนั้นประชาชนมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยจึงยื่นคำร้อง ซึ่งไม่ใช่เป็นการหาเรื่องอย่างเดียว
นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลพยายามปั่นและใส่ความประชาชน โดยการต่อสู้ที่ผ่านมาแต่ละยุคสมัย ประชาชนสนับสนุนในการต่อสู้เป็นปกติ จึงต่อสู้กับฝ่ายอำนาจกันได้ โดยการชุมนุม 14 ตุลา 16 หรือพฤษภา 35 และมาถึงความขัดแย้งของสีเสื้อล้วนมีประชาชนสนับสนุนทั้งกำลังแรงและบริจาคเงินให้เป็นค่าใช้จ่ายในการต่อสู้ทั้งสิ้น
“เชื่อว่าสาเหตุที่ประชาชนยังอยู่เฉยเพื่อตั้งหลักอยู่ ส่วนตนอยู่ระหว่างการพิจารณาสถานการณ์อารมณ์ร่วมทุกฝ่าย อย่างไรก็ตามตนไม่คิดว่าประชาชนจะไม่ต่อสู้อะไรเลย เพียงแต่รอจุดร่วมอะไรบางอย่างที่จะจุดประกายความพร้อมของประชาชนและการต่อสู้ต้องเป็นเรื่องจุดยืนประเทศไทยเท่านั้น”
นายจตุพร กล่าวว่า ตนมีความเข้าใจประชาชนทุกฝ่ายร่วมต่อสู้ในแต่ละเหตุการณ์ที่ผ่านมา มีตาย บาดเจ็บมากมาย และล้มละลาย สุดท้ายการต่อสู้ของประชาชนก็ถูกหลอกเหมือนเดิม ดังนั้น ถ้ามองถึงอนาคตข้างหน้ากับการได้รัฐบาลแบบนี้ หากประชาชนยังมาติดรูปแบบเก่าๆ กันอยู่บ้านเมืองจะไม่เหลืออะไรเลย
“ผมถูกพวกปั่นกล่าวหาว่าเป็นไส้ศึก รับงานทักษิณ ชินวัตร มาด่าทักษิณ โดยฝ่ายนั้นไม่ตอบสักเรื่องเลย ซึ่งพวกนั้นตอบไม่ได้เพราะผมอยู่หัวแถวตรงฝ่ายนั้น ฝ่ายนั้นย่อมรู้ว่า ออกมาสวนการพูดของตน ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์สวนกลับ แล้วอย่างนี้เป็นความผิดของผมเหรอ สาเหตุที่ประชาชนจุดกันไม่ติด เป็นเพราะฝ่ายการเมืองสมประโยชน์กันหมดทุกฝ่าย”
นายจตุพร กล่าวว่า เราไม่มีหน้าที่ต้องอวยใคร หรือพูดให้ใครสบายใจ เพื่อให้เกิดการเคารพนับถือ ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ไม่จำเป็น และไม่อยากได้ ที่พูดกันมาร่วม 2 ปีในรอบนี้ เพื่อให้บ้านเมืองได้หยุดยั้งความเลวร้าย โดยประชาชนทุกฝ่ายที่ร่วมต่อสู้ล้วนเจ็บปวดกันทั้งนั้น แล้วยังไม่ได้ข้อเรียกร้องสักข้อที่ต่อสู้กันมาด้วย
นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองมาถึงรอยต่อที่สำคัญของอนาคต ดังนั้น เราต้องมาร่วมกำหนดชะตากรรมความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ทั้งดิจิทัลจะทำลายระบบเงินตรา หรือขายคอนโดพ่วงที่ดิน 99 ปี และขายที่ดินแลนด์บริดจ์ 3 แสนไร่ให้อยู่นาน 99 ปี ส่วนรัฐบาลการันตีว่า เมื่อครบเวลาขายแผ่นดินแล้วจะนำที่ดินมาสร้างที่อยู่ให้คนจน แต่พิสูจน์ไม่ได้ เพราะในการหาเสียงไว้ยังโกหกและไม่ทำเลย แล้วจะให้ประชาชนเชื่อถืออนาคต 99 ปีกันได้อย่างไร
“สิ่งสำคัญการตั้งบ่อนคาสิโน 8 แห่งทั่วประเทศนั้น ประเทศได้ผลประโยชน์ตลอดอายุ 30 ปีคิดเป็นเงินตอบแทนแค่ 2.8 แสนล้าน เฉลี่ยเพียงปีละกว่า 9 พันล้าน แล้วอย่างนี้จะปลุกปั่นว่า ฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างไร ซึ่งสิ่งนี้ชี้ได้ชัดถึงผลประโยชน์ที่มีนอกมีในจากการตั้งบ่อนคาสิโน”
อย่างไรก็ตาม ถ้าประชาชนไม่แข็งแรง เราต้องเสียทั้งแผ่นดิน 3 แสนไร่ใน 99 ปี แล้วยังได้บ่อนเป็นอบายมุขมาทำลายเมืองพุทธ จึงเป็นจุดที่บ้านเมืองเสื่อมทรามที่สุด นอกจากนี้ยังมีปลุกปั่นกรณีรัฐบาลถวายสัตย์ต่อในหลวง จนทำให้ประชาชนหลงเข้าใจผิดกันไปใหญ่ทั้งที่เป็นสิ่งปกติ เพราะทรงตรัสให้กำลังใจเช่นนั้นทุกรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ส่วนการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเพียงคำพูด และไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะทำตามนโยบายที่แถลงไว้ โดยสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า ไม่ได้แถลงนโยบายขายคอนโด และตั้งบ่อนคาสิโน แต่ยังพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น
นายจตุพร กล่าวว่า ดังนั้นจึงเชื่อลมปากนักการเมืองในการแถลงนโยบายไม่ได้ เพราะสิ่งที่ต้องการจะได้คือบ่อนคาสิโนด้วยนั้น ประชาชนต้องเตรียมความพร้อมในการรักษาชาติไว้เช่นกัน โดยหวังว่า ประชาชนทุกฝ่ายที่เจ็บปวดกับการต่อสู้ที่ผ่านมา แล้วถูกหลอกจะเข้าใจสถานการณ์ได้เร็วขึ้นและไม่เผลอไปกับการให้โอกาสทำงานก่อน
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าบ้านเมืองมีคนคุณภาพทำงานการเมืองตรวจสอบกันอย่างจริงจังแล้วประเทศไทยย่อมไม่พัฒนาแพ้ประเทศอื่น แต่ระบอบการเมืองเส็งเคร็งแบบนี้ ประเทศจึงมีคุณภาพล้าหลังเช่นทุกวันนี้ ดังนั้นตนอยากให้ประชาชนไทยเป็นเหมือนประเทศเกาหลีใต้ ที่ลุกขึ้นคัดค้านนักการเมืองทุจริตอย่างเด็ดขาด
“ถ้าประชาชนทนได้จะทำอย่างไง ปกติประเทศที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเพราะประชาชนมีสำนึกและทนไม่ได้กับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมกับประชาชน ดังนั้นจึงไม่ใช่การยุยงปลุกปั่นให้ลุกขึ้นต่อสู้แต่อย่างใด โดยสำนึกในการรักชาติบ้านเมืองต้องเกิดกับบุคคลนั้นเองที่จะลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเมือง และไม่อยู่ในสถานการณ์ของการหลอกลวงกันอีก”
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี