"เพื่อไทย"รุกหนัก!!! ขนแกนนำหาเสียงเข้มข้น เช้า-ค่ำ ช่วย"บู้ จเด็ศ"เบอร์ 2 เวทีเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก จี้ใจดำ เลือก ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ทำงานได้ทันที ไม่ต้องรอลุ้นปี 70 ย้ำความเดือดร้อนประชาชนรอไม่ได้ เล็งแก้ปัญหา"บ่อขยะ-รถติด-อุบัติเหตุ" หวังดันเป็นเมืองหลวงภาคเหนือตอนล่าง "เสริมศักดิ์"แนะอย่าเอาคนไปค้านเพิ่ม ชี้จะทำให้คนพิษณุโลกเสียโอกาส
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่จังหวัดพิษณุโลก “บู้ จเด็ศ จันทรา” ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 ได้ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายพายัพ ปั้นเกตุ นายวรชัย เหมะ นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ และนายชัย วัชรงค์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ช่วย “บู้ จเด็ศ” หาเสียงเลือกตั้งด้วย ซึ่งเริ่มเดินจุดแรกที่ตลาดร่วมใจ ไปที่วงเวียนสถานีรถไฟ - ถนนเอกาฯ - ตลาด 3 - สี่แยกบ้านแขก - ถนนพระองค์ดำ - ห้าแยกโคกมะตูม ก่อนเดินเข้าตลาดโคกมะตูม - ถนนวิสุทธิกษัตริย์ หรือชุมชนวิเศษไชยชาญ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ได้รับเสียงตอบรับจากพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงพี่น้องประชาชน ที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการนำเสนอนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับพ่อค้าแม่ค้า และพี่น้องประชาชน รวมถึงการนำเสนอนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ที่จะช่วยให้พี่น้องประชาชน สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
จากนั้น “บู้ จเด็ศ” พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ไปปราศรัยย่อยต่อที่ ชุมชนธรรมบูชา วัดสระไม้แดง ก่อนเวลา 11.30 น.เดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี โดย นายชัย วัชรงค์ ได้เดินทางไปพบกับ ร้อยตรีทวี บูรณเขตต์ ที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2566 ซึ่งร้อยตรีทวี ได้อวยพรให้“บู้ จเด็ศ” ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ และขอให้เป็นตัวแทนของชาวพิษณุโลกไปแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน สร้างประโยชน์ให้กับสังคม และเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ด้วย ต่อมาเวลา 13.00 น. “บู้ จเด็ศ” พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางต่อไปที่ อนามัยวังน้ำคู้ เพื่อพบปะกับกลุ่ม อสม.ซึ่งในบริเวณนี้ ยังได้พบกับผู้สมัครพรรคประชาชนด้วย โดยได้ทักทายกันอย่างอบอุ่น
โดย “บู้ จเด็ศ” กล่าวว่า อสม.ถือเป็นจิตอาสาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะคอยดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยมาโดยตลอด ซึ่งการที่ตนเดินทางมาวันนี้ ก็จะขอให้พี่น้อง อสม.สนับสนุนตนไปทำงาน เพื่อประสานงานในสภาฯ จะได้ช่วยผลักดัน พ.ร.บ.อสม.ให้สำเร็จ โดยจะทำให้ อสม.มีสิทธิประโยชน์มากขึ้นในหลายด้าน เช่น การเพิ่มรายได้ รวมถึงเพิ่มเบี้ยสวัสดิการต่างๆ ซึ่ง อสม.นั้น จะมีความยั่งยืนมั่นคงมากขึ้น ส่วนปัญหาอื่นๆ เช่น เรื่องบ่อขยะ ตนก็ขออาสาไปแก้ไข ทำงานร่วมกับท้องถิ่นแก้ปัญหานี้ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ชาวพิษณุโลกไม่ต้องเจอปัญหาเรื่องนี้ซ้ำซากอีก
จากนั้น เวลา 17.00 น. “บู้ จเด็ศ” พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ปราศรัยย่อยที่สวนเฉลิมพระเกียรติเรือนแพ โดย “บู้ จเด็ศ” ปราศรัยว่า ตั้งแต่ปี 2500 สส.ที่เดินเข้าสภาฯ ไม่เคยมี ฝั่งรัฐบาลเลย ดังนั้น การผลักดันโครงการของเขต 1 พิษณุโลก จึงเป็นเรื่องที่ล่าช้า ซึ่งวันนี้ใกล้วันเลือกตั้งเข้ามาแล้ว ตนก็อยากให้พี่น้องที่มาวันนี้ กาเบอร์ 2 ตนจะได้เข้าไปช่วยเดินหน้าผลักดันการแก้ปัญหาในพิษณุโลกเขต 1 เช่น เรื่องบ่อขยะที่ทำให้พี่น้องเดือดร้อน ปัญหาการลดอุบัติเหตุที่มีอยู่หลายจุด เช่น หน้าโรงเรียนชาย โดยเราจะปล่อยให้ ลูกหลานเรามาเสียชีวิตแบบนี้ไม่ได้ การลดปัญหาการจราจรที่ติดขัดในเวลาช่วงเช้า-เย็น โดยจะไปพัฒนาเส้นทางรอง คือบริเวณถนนริมน้ำเป็นต้น
“รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญกับพี่น้องชาวพิษณุโลกมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นยุคของท่านเศรษฐา ทวีสิน โดยท่านได้ลงพื้นที่ ตรงนี้ถึง 2 ครั้ง เพื่อมาติดตามในเรื่องของระบบน้ำประปา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญของคนพิษณุโลก และในเวลานี้ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ก็ได้ประกาศแล้วว่า จะให้ความสำคัญในเรื่องของการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน โดยเฉพาะการ ผ่อนชำระ ทั้งบ้านและรถ ดังนั้น ถ้าเลือกผมเข้าไปทำงานติดตามในส่วนนี้ ในการดูแลพี่น้องประชาชน ผมก็จะทำให้พิษณุโลกดีขึ้น เราจะร่วมกันพัฒนาจังหวัดพิษณุโลกให้เป็นเมืองหลวงในภาคเหนือตอนล่าง ไม่ใช่ให้คนเข้าใจว่าเรา เป็นเพียงจังหวัดรองเท่านั้น และการเลือกผมในวันนี้ ผมสามารถทำงานกับรัฐบาลได้เลย ไม่ต้องรอถึงปี 70 ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไม่สามารถรอได้ ผมจะขยันลงพื้นที่ พบปะกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด เพราะเวลานี้ผมต้องแสดงความจริงใจว่าผมมีความพร้อมและตั้งใจมาทำงานตรงส่วนนี้ ขอให้มั่นใจว่า ส.ส.ที่มาจากรัฐบาล จะช่วยทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้เกิดประโยชน์ที่สุด" บู้ จเด็ศ กล่าว
ขณะที่ นายชัย กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ แม้ไม่ใช่คนพิษณุโลก แต่ก็ถือว่า เป็นคนบ้านข้างเคียง เพราะตนเป็นคนสุโขทัย จึงมีคนรู้จักในพิษณุโลก ซึ่งเพื่อนตน ก็มักบ่นว่า เบื่อ เพราะการไม่มี ส.ส.รัฐบาล ทำให้การเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่การเลือกรัฐบาล จะสามารถผลักดันได้ทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์ และแนวทางแก้ปัญหา ดังนั้น 15 ก.ย.นี้ กาเบอร์ 2 เราจะมี ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ที่เป็นรัฐบาลในรอบหลาย 10 ปี โดยตนมองเห็นว่า พิษณุโลก เขต 1 มีศักยภาพหลายด้าน แต่ที่ผ่านมารัฐบาลนั้น ไม่มีตัวเชื่อม ซึ่งวันนี้รัฐบาล ได้ประกาศนโยบายสำคัญ 10 ข้อที่ทำได้ทันทีคือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉีดเม็ดเงินเข้าไป นั่นคือดิจิทัลวอลเล็ต โดยสามารถทำได้ทันที แม้จะมีคนโจมตี แต่เราต้องทำ ซึ่งรอบแรกคนที่จะได้ 14.5 ล้านคน ไม่เกินสิ้นเดือกันยายน โดยคนพิษณุโลก จะได้ ถึง 2 แสนคน จะทำให้เม็ดเงินลงในจังหวัดพิษณุโลกกว่า 2,300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ให้ประชาชนลืมตาอ้าปาก การลดดอกเบี้ยช่วยหนี้ กยศ. กระตุ้นการท่องเที่ยว ยกระดับให้พิษณุโลก เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก ดังนั้น พี่น้องประชาชนมีความจำเป็นที่จะต้องได้ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล เพื่อไปช่วยกันประสานติดตามและรักษาผลประโยชน์ให้แก่คนพิษณุโลก เขต 1 จึงขอให้วันที่ 15 ก.ย.นี้ ออกมาช่วยกัน กาเบอร์ 2 เลือก บู้ จเด็ศ เป็น ส.ส.ฝั่งรัฐบาล
ด้าน นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเป็นคนบางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ด้วยประสบการณ์ทางการเมืองครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสำคัญ ของพี่น้องประชาชนในการตัดสินใจว่า เราต้องการฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล โดยหากเลือกรัฐบาล “บู้ จเด็ศ” จะสามารถลงมือทำงานได้ทันที เพื่อผลักดันความเดือดร้อนให้ได้รับการแก้ไข จึงขอให้เชื่อมือ พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น ซึ่งเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องเอาคนทำงานได้ อย่าเอาคนไปค้านเพิ่มอีกเลย จะยิ่งทำให้คนพิษณุโลกเสียโอกาสไปมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยเลือกทั้งทีตนมองว่า ต้องได้ประโยชน์สูงสุด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี