"นายกฯอิ๊งค์"บอกเตรียมพร้อมพื้นที่อีสานล่างรับสถานการณ์น้ำ ฟรีค่าน้ำค่าไฟเดือน ก.ย.พื้นที่ประสบภัย เตรียมเคาะงบกลาง 3,000 ล้าน ช่วยน้ำท่วม เข้า ครม.พรุ่งนี้ มั่นใจกรุงเทพฯไม่ท่วมแน่ ขณะที่"ภูมิธรรม"เผย"นายกฯ"สั่งเร่งเยียวยาถึงมือผู้ประสบภัย ต้องใช้กรอบเดิมไปก่อนเพื่อความรวดเร็ว พร้อมพิจารณาเพิ่มเติมภายหลัง 18 ก.ย.นี้ ได้ข้อสรุป
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) ว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนสามารถประสานงานกันได้ ว่าตรงไหนเจอปัญหาอะไรบ้าง เพื่อให้การแก้ปัญหารวดเร็วชัดเจน
เมื่อถามว่า คณะกรรมการที่ตั้งมานี้เป็นชั่วคราวหรือเป็นคณะกรรมการถาวร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราตั้งไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และในขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานว่าน้ำเริ่มมาทางภาคอีสาน และปริมาณน้ำเริ่มลดลง จังหวัดไหนที่น้ำจะเข้าไปได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมสำหรับการแจ้งเตือนประชาชน ให้สามารถอพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ทันเวลา ซึ่งเราแจ้งล่วงหน้าไปแล้วหลายวัน โดยจังหวัดที่น้ำท่วมไปแล้วประมาณ 3 วัน ทุกอย่างน่าจะจบลง และการฟื้นฟูเราพยายามทำให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า การที่น้ำลดลงเกี่ยวข้องกับกรณีประเทศจีนยังไม่ปล่อยน้ำมาทางแม่น้ำโขงเพิ่มใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จีนปล่อยน้ำปกติ ไม่ได้มีส่วนทำให้น้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น
เมื่อถามว่า ได้เตรียมความพร้อมในพื้นที่อีสานตอนล่างที่ต้องรับมวลน้ำหลังจากนี้ไว้อย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราแจ้งไปหมดแล้วว่าน้ำจะมาปริมาณเท่าไหร่ และที่ประชุมได้พูดคุยกันว่าปีนี้น้ำไม่ได้จะหนักมาก แต่ก็มีน้ำผ่าน โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้เข้าไปเตรียมพร้อมในพื้นที่แล้ว ไม่ต้องเห็นห่วง ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ ความสามารถรับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีมากพอ กรุงเทพฯ น้ำก็จะไม่ท่วม
เมื่อถามว่า กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่าการเยียวยาให้ยึดความเสียหายมากกว่าจำนวนวัน ต้องปรับมาตรการอย่างไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องกรอบการเยียวยาเราต้องมาดูที่รายละเอียดข้างในว่าจะปรับได้อย่างไรบ้าง แต่ประเด็นตอนนี้คือความรวดเร็วในการเยียวยา ที่ประชุมหลายฝ่ายถกกันว่าความรวดเร็วต้องมาก่อน โดยจะยึดกรอบเดิมก่อน เพราะถ้าจะใช้กรอบใหม่ก็ต้องใช้เวลา และในที่ประชุมมีความเห็นว่าจะไม่เก็บน้ำค่าน้ำค่าไฟพื้นที่ประสบภัยในเดือน ก.ย.และในเดือน ต.ค.จะลดลง 30% แต่หากเหตุการณ์น้ำท่วมยาวกว่านั้นเราสามารถขยายได้อีก มาตรการที่ออกมานี้เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้รับการเยียวยาที่เร่งด่วน
สำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนได้พูดคุยกับกองทัพ ซึ่งระดมกำลังอย่างเต็มที่แต่ติดปัญหากำลังพลไม่เพียงพอ ก็จะให้กระทรวงศึกษาดูเรื่องทีม Fix it Center อาชีวะจิตอาสา ที่มีหลายจังหวัดให้ระดมพลมาช่วยกัน เพื่อให้ความเสียหายได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่า เรื่องการเยียวยาจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 ก.ย.หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า งบส่วนนี้ไม่ต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะเราใช้มาตรการเดิม ส่วนที่จะเพิ่มก็ต้องดูว่าจะเพิ่มตรงไหนได้บ้าง เช่น ที่ตนยกตัวอย่างเวลา 3 วัน แต่มีความเสียหายมากกว่านั้น จึงต้องดูว่าจะปรับอะไรได้บ้าง
เมื่อถามว่า ขณะนี้กรอบเยียวยา อยู่ที่เท่าไหร่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กรอบเยียวยากรณีบ้านเสียหายทั้งหลังยังคงยึดกรอบเดิม คือ 2.3 แสนบาท แต่จะมีการเยียวยาหลายหมวด และมีงบกลางที่เราสำรองไว้สำหรับเรื่องน้ำท่วมโดยเฉพาะแล้ว
เมื่อถามว่า การเยียวยากรณีมีผู้เสียชีวิต จะปรับเปลี่ยนหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนั้นต่างหาก เดี๋ยวต้องไปดูกรอบอีกที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังประชุม คอส. น.ส.แพทองธาร ได้รับฟังข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือง และอีสาน จึงมีความเห็นจะอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเยียวยาน้ำท่วม จำนวน 3,000 ล้าน โดยจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.ให้ความเห็นชอบวันที่ 17 ก.ย.นี้
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงมาตรการและงบเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ว่า ในส่วนของงบเยียวยาไม่ต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 17 ก.ย.เนื่องจากยังใช้มติเดิมไปก่อน ซึ่งการเยียวยาเราทำตามกรอบเดิมทุกอย่าง หัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาคือเรื่องความเร็ว ซึ่งทุกอย่างที่ผ่านมากว่าจะได้บางทีหลายเดือน บางทีเป็นปี ฉะนั้นตรงนี้เราจะกันไปเลย ส่วนจะเยียวยามากขึ้นกว่านี้เราจะพิจารณาตามหลัง เพราะหากรอตรงนี้ก็จะช้า ดังนั้น คณะกรรมการที่นายกฯ ตั้งขึ้นจะคุยกันวันพุธที่ 18 ก.ย.เป็นวันแรก โดยสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะมาพิจารณาประเมินร่วมกัน และจะออกมาเป็นข้อสรุปพร้อมไทม์ไลน์
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ครั้งนี้เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งมี 2 ประเด็น คือ การส่งกำลังทั้งหมดเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดอุทกภัยต่างๆ โดยเร็ว ส่วนการเยียวยาจะตามหลัง และจะคลีนนิ่งทุกอย่างเข้าสู่สภาพปกติทันที ซึ่งจะต้องดำเนินการในขณะนี้จนกว่าเหตุการณ์ประมาณต้นเดือน ต.ค.จะปกติ และคณะทำงานจะดูหน้างานทั้งหมดนำมาสรุปแก้ปัญหาต่อไปไม่ให้เกิดขึ้นอีก ซึ่งเรื่องเหล่านี้นายกฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯไปพิจารณาในรายละเอียด วันนี้เราคุยกันเพียงหลักการ ข้อห่วงใย และความรวดเร็วในการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งหมด จากนี้ไปจะคุยในรายละเอียดและเสนอนายกฯ เป็นระยะ
ผู้สื่อข่าวถามถึงช่องทางการเยียวยาจะใช้ช่องทางไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ช่องทางเยียวยาเดิมมีอยู่แล้ว แต่เราจะไปพิจารณาอีกว่าจะสามารถมีช่องทางไหนที่เข้าถึงได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นโจทย์ที่นายกฯ มอบให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปช.) ไปดำเนินการ
เมื่อถามว่า การเยียวยาไร่นา หรือพืชผลทางการเกษตรจะได้มากขึ้นหรือไม่ เพราะสภาพเศรษฐกิจตอนนี้เปลี่ยนไป และที่ผ่านมาค่าเยียวยาน้อยมาก นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากเรามัวแต่ปรับตอนนี้ มันจะช้า ตอนนี้เราเอาตามเดิมไปก่อน เพราะชีวิตคนต้องรักษาต้องดำเนินการก่อน ซึ่งจริงๆ มีกระบวนการอยู่แล้ว แต่ปัญหาสำคัญการทำให้รวดเร็วทันใจ ฉะนั้น วาระปกติหน่วยงานต่างๆ ทำได้อยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของงบกลาง ซึ่งนายกฯ เปิดแล้วสามารถดำเนินการได้เลย และมาแจ้งทีหลัง โดยให้หลักการให้กรอบไปแล้วว่าจะทำอย่างไร ในวันที่ 18 ก.ย.จะสรุปภาพให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี