‘เรืองไกร’ถล่มซ้ำ!บุกร้องกกต.
ชู‘มินิฮาร์ท’พ่นพิษ
จี้สอบ‘นายกฯ-ภูมิธรรม-สุริยะ’
ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม
กระทบความเชื่อถือปชช.
“เรืองไกร”ลุยต่อ ร้องกกต.สอบ “นายกฯ-ภูมิธรรม-สุริยะ” ชูมือทำมินิฮาร์ท ขณะใส่เครื่องแบบปกติขาวถ่ายรูปหมู่ ครม.ที่ทำนียบฯเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯสิ้นสุดลงหรือไม่
เมื่อวันที่ 16 กันยายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองเปิดเผยว่า หลังจากยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบนายกรัฐมนตรีชูมือทำมินิฮาร์ทขณะใส่เครื่องแบบปกติขาวถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลไปแล้ว กรณีดังกล่าว นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ไปยืนยันในรายการคนดังนั่งเคลียร์ของช่อง 8 เมื่อวันที่ 10 กันยายนว่า การทำมินิฮาร์ทขณะใส่เครื่องแบบราชการ ทำไม่ได้นั้น ซึ่งเรื่องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ป.ป.ช. สามารถชี้มูลเพื่อส่งให้ศาลฎีกาพิพากษาได้ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้อีกทางหนึ่งด้วย
นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า ดังนั้น วันนี้ ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ขอให้ กกต. ตรวจสอบอีกทางหนึ่งว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทวงคมนาคม กรณีชูนิ้วมือทำมินิฮาร์ท ขณะใส่เครื่องแบบราชการชุดปกติขาวถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบฯ เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (5) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ มีข้อความในหนังสือดังนี้
1. เมื่อวันที่ 7 กันยายน เว็บไซต์ประชาชาติ หัวข้อ แพทองธาร นำ ครม. ถ่ายรูปหมู่ ชวนรัฐมนตรีทำท่า “มินิฮาร์ท” ซึ่งข่าวดังกล่าวมีรูปภาพคณะรัฐมนตรีประกอบด้วย เช่น รูปนายกรัฐมนตรี รูปนายภูมิธรรม รูปนายสุริยะ ซึ่งทำมือชูท่ามินิฮาร์ท พร้อมทั้งยิ้มแบบขาดความสำรวม เป็นต้น 2. การที่นายกฯ นายภูมิธรรม นายสุริยะ ร่วมทำท่ามินิฮาร์ทถ่ายรูปขณะใส่ชุดปกติขาวดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบว่า การกระทำดังกล่าวของทั้งสามคน เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ข้อ 21 หรือไม่
3. มาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ข้อ 21 กำหนดไว้ดังนี้ “ข้อ 17 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง” “ข้อ 21 ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ และยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม”
4. เฉพาะกรณีของนายกฯดังกล่าว ถูกตนร้องเรียนไปที่ป.ป.ช.แล้วสองครั้ง ตามหนังสือลงวันที่ 10 กันยายน และวันที่ 11 กันยายน ซึ่งกกต.สามารถสอบถามความคืบหน้าได้จาก ป.ป.ช. โดยตรงได้ 5.ต่อมาวันที่ 10 กันยายน กรณีดังกล่าว ช่อง 8 รายการคนดังนั่งเคลียร์ พิธีกรในรายการได้สอบถามนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงานว่าการทำมินิฮาร์ทดังกล่าวน่าเกลียดตรงไหน นายพีระพันธุ์ ตอบคำถามโดยสรุปได้ว่า “ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดหรือไม่ เป็นเครื่องแบบราชการ ผมแค่บอกว่าทำไม่ได้” นายเรืองไกรยังขอให้กกต.เรียกคลิปจากช่อง 8 มาประกอบการตรวจสอบด้วย ดังนั้น กรณีจึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย
6.กรณีฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ในคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขแดงที่ คมจ. 1/2567 วันที่ 10 มกราคม 2567 หน้า 42 ได้ระบุไว้ส่วนหนึ่งดังนี้ “นอกจากนี้ การกระทำของผู้คัดค้านทั้งสามดังกล่าวยังเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฐานกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง และฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ และยึดมั่นความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม ตามมาตรฐานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 17 และข้อ 21 อีกด้วย …”
7.กรณีเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรม ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 วันที่ 14 สิงหาคม 2567 หน้า 27 ระบุไว้ส่วนหนึ่งดังนี้ “เห็นว่า การวินิจฉัยว่ารัฐมนตรีผู้ใดมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5) เป็นหน้าที่และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อการวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของรัฐมนตรีผู้นั้นต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 เป็นคดีรัฐธรรมนูญโดยแท้ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญต้องดำเนินกระบวนพิจารณาไปตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561
ส่วนหน้าที่และอำนาจของศาลฎีกาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) กำหนดให้มีอำนาจวินิจฉัยคดีฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรงด้วย ศาลฎีกาดำเนินการพิจารณาตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 วรรคเจ็ด หากศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หรือทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดนั้น
เห็นได้ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง สภาพบังคับเป็นไปตามมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 หากศาลฎีกาพิพากษาตามมาตรา 235 วรรคหนึ่ง (1) สภาพบังคับเป็นไปตามมาตรา 235 วรรคสามและวรรคสี่ แม้การพิจารณาจากข้อเท็จจริงในมูลเหตุเดียวกัน แต่เป็นคดีคนละประเภท เพราะเหตุจากวิธีพิจารณาคดี วัตถุประสงค์ของการดำเนินคดี และสภาพบังคับแตกต่างกัน”
8.กรณีดังกล่าวยังเทียบเคียงได้จากคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม. 1/2550 วันที่ 17 กันยายน 2551 (คดีที่ดินรัชดา) ในหน้า 27 – 28 ระบุไว้ว่า “… ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งนายกฯได้รับมอบหมายไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน แต่จำเลยที่ 1 กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย ทั้งที่จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมือง ให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ จึงไม่สมควรรอการลงโทษ”
9.ดังนั้น การที่นายกฯเป็นผู้เริ่มชักชวนให้ครม.ที่ถ่ายรูปร่วมกัน ทำท่ามินิฮาร์ทขณะใส่เครื่องแบบราชการชุดปกติขาว และมีรัฐมนตรีหลายคนทำตาม เช่น นายภูมิธรรม นายสุริยะ ทั้งที่รู้หรือควรรู้ว่า ทำไม่ได้ ตามที่นายพีระพันธุ์กล่าวยืนยันไว้ในทางสาธารณะผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 8
“จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบอีกทางหนึ่งว่า การชูนิ้วมือทำมินิฮาร์ทถ่ายรูปขณะใส่ชุดปกติขาวที่ทำเนียบฯดังกล่าว ของนายกฯ นายภูมิธรรม นายสุริยะ จะเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ส่งผลภาพลักษณ์และกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือความศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯ ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ในการดำรงตำแหน่งของนายกฯ และเป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 ข้อ 21 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง หรือไม่”นายเรืองไกรระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี