‘อิ๊งค์’โยนสภาฯแก้รธน.
พท.เล็งยื่นแก้ 2 ปมสัปดาห์หน้า
จริยธรรม-อำนาจองค์กรอิสระ
“ชูศักดิ์” ยันสัปดาห์หน้า“เพื่อไทย” ยื่นร่างแก้ไข รธน.รายมาตรา 2 ประเด็น ปม“จริยธรรม”วางกรอบให้ชัด-รื้อมติศาลรธน.“ประชาชาติ”หนุนแก้รธน.รื้อปมมาตรฐานจริยธรรมชี้ต้องให้ชัดเจน สกัดองค์กรอิสระใช้อำนาจมากเกินไป ด้าน นายกฯ “อิ๊งค์” ปัดให้ความเห็นแก้รธน.โยนเป็นเรื่องของสภา พูดคุยกันขณะ‘พรรคปชน.’ดอดยื่นร่างแก้รธน.รื้อปม‘จริยธรรม’ทั้งระบบ-หั่นอำนาจปปช.สอบส.ส.ไม่ขัดเลื่อนประชุมร่วมรัฐสภาอีก1สัปดาห์ รอร่าง‘เพื่อไทย’
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 17 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.45 น.นายกฯเดินลงจากตึกไทยฯไปยังห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ1เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรกซึ่งมีบรรดารัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียงเป็นที่น่าสังเกต นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่มีชื่อเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินร่วมขบวนมากับนายกฯด้วย
พท.ยันยื่นแก้รธน.รายมาตรา2ปมร้อน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยเปิดเผยถึงความคืบหน้าการยกร่างแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราเกี่ยวกับประเด็นจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตว่า พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพซึ่งเรากำลังยกร่างอยู่ เข้าใจว่าใกล้จะเสร็จแล้วมีทั้งหมด 4-5มาตรา โดยจะกำหนดกรอบกฎหมายให้มีความชัดเจน ไม่ต้องตีความอะไรมาก ขณะที่ฝ่ายค้านก็กำลังพิจารณายกร่างกฎหมายเรื่องนี้เช่นกัน โดยแต่ละพรรคจะต่างคนต่างยื่นร่างเข้าสภาแล้วจึงไปว่ากันในการพิจารณาของรัฐสภา
“สมมติว่าคุณอ่านรัฐธรรมนูญ ไม่มีพฤติกรรม ฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรงซึ่งไม่ทราบว่าตีความอย่างไรจึงอยากกำหนดให้หากใครถูกร้องหรือระหว่างถูกฟ้องในชั้นศาลว่าฝ่าฝืนจริยธรรมซึ่งจะทำให้การตีความชัดเจนขึ้น”รมต.ประจำสำนักนายกฯย้ำ
ปมจริยธรรมต้องศาลฎีการับฟ้อง
เมื่อถามย้ำว่า หากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องร้องเรียนหรือชี้มูลว่าฝ่าฝืนจริยธรรมแล้ว จะถือว่ายังไม่มีความผิดใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ เพราะการร้องไปที่ ป.ป.ช. ยังไม่รู้ว่าเขามีความผิดแล้วหรือยัง ถ้าจะสกัดกั้นด้วยวิธีการนี้ก็เป็นเรื่องง่ายๆคือมีคนไปร้องป.ป.ช. ก็จะทำให้คนที่ถูกร้องได้รับผลกระทบและจบเลยเมื่อถามว่าแสดงว่าเส้นตัดที่จะพิจารณาว่าใครเข้าข่ายขัดจริยธรรมหรือไม่ซื่อสัตย์สุจริตคือศาลฎีกาต้องรับฟ้องในคดีจริยธรรมใช่หรือไม่นายชูศักดิ์ตอบว่าเราคิดเช่นนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนขึ้น
ทำให้ดีขึ้นปัดแก้เอื้อประโยชน์ตัวเอง
เมื่อถามถึงที่สังคมมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้นักการเมืองเป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์ นายชูศักดิ์กล่าวว่าเราคิดว่าเราไม่ได้ประโยชน์อะไร เราก็ระมัดระวังไม่ให้เป็นการแก้เพื่อประโยชน์ตัวเอง พรรคเพื่อไทยจึงขอแก้แค่พอดีๆให้มีเกณฑ์มาตรฐานรับได้ ไม่ใช่เราไปยกเลิกเขาทั้งหมดและต้องการแก้ไขให้เกิดความชัดเจน ทำให้การปฎิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและป้องกันไม่ให้การบริหารประเทศลำบาก เรามองว่ามีความจำเป็นไม่ใช่ทำเพื่อให้เราได้รับประโยชน์และเพื่อให้บ้านเมืองมีกฎหมายที่เป็นธรรมยุติธรรมมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
รื้อมติศาลฯเรื่องสำคัญใช้เสียงเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้ไขประเด็นเสียงข้างมากของรัฐธรรมนูญในการลงมติเรื่องสำคัญ เช่นการยุบพรรคหรือเอาคนออกจากตำแหน่ง จะต้องใช้เสียงข้างมากเด็ดขาด แทนการใช้มติเสียงข้างมากธรรมดา นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเช่นกัน โดยความคิดเรื่องสำคัญใหญ่ๆ ใช้เสียงข้างมากธรรมดาทั่วไป ยกตัวอย่างกรณีของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯที่พ้นจากตำแหน่งด้วยมติ 5-4 เสียง เราก็ใช้วิจารณญาณคิดดูว่าเรื่องใหญ่แบบนี้ควรหรือไม่จึงมีแนวความคิดว่าให้มติมากขึ้นดีหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้กับเรื่องจริยธรรมจะทำไปพร้อมกัน
เล็งยื่นในนาม‘เพื่อไทย’ในสัปดาห์หน้า
นายชูศักดิ์กล่าวว่า การยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญคิดว่าเร็วที่สุดอาจจะภายในสัปดาห์หน้า ขอยืนยันว่าทำในนามพรรคการเมืองไม่ใช่รัฐบาล เพราะรัฐธรรมนูญจะทำแต่การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ส่วนการแก้ไขกฎหมายเพื่อเอาผิดนักร้องนักยื่นตรวจสอบนั้น มีกฎหมายควบคุมเรื่องนี้อยู่แล้ว ส่วนจะทำให้เข้มขึ้นหรือไม่ก็ต้องมีการพิจารณาต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มนักร้องที่หวังผลทางการเมืองแต่ขอยืนยันว่าขณะนี้มีกฎหมายควบคุมเรื่องนี้อยู่แล้ว
‘อิ๊งค์’โยนแก้รธน.เป็นเรื่องสภาฯ
ขณะที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)กรณีพรรคเพื่อไทย(พท.)เตรียมเสนอแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราเกี่ยวกับประเด็นจริยธรรมนายกฯมีความเห็นอย่างไรว่า“อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันในรัฐสภา ก็ขอให้เป็นเรื่องที่ได้พูดคุยกันทั้งหมดดีกว่า”
‘ทวี’หนุนแก้รธน.ปมจริยธรรมให้ชัด
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวถึงที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในประเด็นมาตรฐานจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริต โดยเห็นว่าควรมีการกำหนดนิยามให้ชัดเจน เพราะถ้ากฎหมายเขียนคลุมเครือไม่ชัดเจนก็จะทำให้เป็นสมบัติส่วนตัวขององค์กรอิสระที่จะเอาไปใช้อย่างไรก็ได้ จึงควรมีการแก้ไขเพื่อกำหนดกรอบให้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเลือกตั้ง สส.และสว.ซึ่งได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน ผู้ที่จะทำหน้าที่ไปตัดสินก็ควรได้รับมอบอำนาจจากประชาชน
รื้ออำนาจองค์กรอิสระมีมากเกินไป
“พรรคประชาชาติได้นำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปรณรงค์หาเสียงในการเลือกตั้งเราต้องการให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)และมีการทำประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งพรรคอยากให้มีการแก้ไขเรื่องการกระจายอำนาจ สวัสดิการของประชาชนและอยากให้มีการทบทวนบทบัญญัติในหมวดที่เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนรวมถึงการแก้ไขบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการให้อำนาจองค์กรอิสระมากเกินไป”พ.ต.อ.ทวี ย้ำ
‘ท๊อป’ปัดตอบแก้รธน.ไม่เห็นรายละเอียด
ด้านนายวราวุธศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยการแก้รายมาตราว่าพรรคชาติไทยพัฒนายังไม่มีการพูดคุยเป็นกิจจะลักษณะ ถึงเวลาคงต้องมาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง จะต้องรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย ส่วนตัวยังไม่เห็นรายละเอียดจึงไม่อาจให้ความเห็นได้ในขณะนี้ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนกับประชาชนเพราะเป็นเรื่องจริยธรรมความซื่อสัตย์ ต้องพูดคุยหารือกัน ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้
ปชน.ดอดยื่นแก้รธน.รื้ออำนาจทั้งระบบ
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.)เผยว่าพรรคประชาชนได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในกลุ่มประเด็นว่าด้วยจริยธรรมทั้งระบบรวมถึงเกี่ยวกับการใช้อำนาจขององค์กรอิสระที่ตัดสินผู้ดำรงตำแหน่งทางเมืองที่เป็นนามธรรมมากเกินไปทั้งนี้ ในประเด็นที่แก้ไขกับอำนาจขององค์กรอิสระดังกล่าว ตามเงื่อนไขจะต้องทำประชามติ ซึ่งอาจเป็นการทำประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) ทั้งประเทศตามที่รัฐบาลวางไทม์ไลน์ไว้
ไม่ขัดเลื่อนถก1สัปดาห์รอร่างพท.
นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ตามกระบวนการต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อนและบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระภายใน 15 วันตนเชื่อว่าหากจะนำเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภาที่กำหนดไว้เบื้องต้นวันที่ 25 กันยายนนี้อาจจะทัน
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย(พท.)เตรียมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราต่อรัฐสภาในสัปดาห์หน้านั้นและมีเวลา 2-3วัน เวลาอาจไม่พอกับการตรวจสอบและบรรจุวาระดังนั้นในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมวิปร่วมอีกครั้งซึ่งตนรับได้หากจะเลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภาออกไปอีก1 สัปดาห์
เมื่อถามว่ามีประเด็นที่จะตัดในส่วนของข้อกำหนดในคุณสมบัติที่ต้องซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ด้วยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้ปิดการแก้ไขในส่วนนี้ แต่ต้องพูดคุยในชั้นกรรมาธิการว่าทุกพรรคเห็นอย่างไร ส่วนใหญ่ใช้หลักการกว้าง และต้องพิจาณาแก้ไขในชั้นกรรมาธิการได้
เลี่ยงถูกมองผลประโยชน์ทับซ้อน
เมื่อถามว่าบางประเด็นการแก้ไขจริยธรรมนั้นพรรคเพื่อไทยระบุว่าไม่เห็นด้วยเนื่องจากอาจเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนนายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าหากจะมองแบบนั้น การแก้ประเด็นอื่นๆก็อาจถูกโยงว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนได้ทั้งสิ้นและส.ส.จะแก้อะไรไม่ได้ ในประเด็นที่ไม่เห็นตรงกันนั้นรายละเอียดอาจนำไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการเพื่อหาจุดลงตัวได้และเพื่อไม่ให้ถูกมองว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งในรายละเอียดจะเป็นการยกเลิกอำนาจของ ป.ป.ช.ในการสอบจริยธรรมของส.ส.
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สส.พรรคประชาชนได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวต่อประธานรัฐสภา ผ่านฝ่ายธุรการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสส.พรรคประชาชน ที่ถูกยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้สอบจริยธรรมกรณีร่วมยื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ได้ร่วมลงชื่อด้วย เพื่อไม่ให้ถูกมองว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งในรายละเอียดนั้น จะเป็นการยกเลิกอำนาจของ ป.ป.ช. ในการสอบจริยธรรมของ สส.
ทั้งนี้ ในรายละเอียดของการยื่นร่างแก้ไขนั้น นายพริษฐ์วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนจะแถลงที่รัฐสภาวันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.)อีกครั้ง
ฝ่ายค้านไม่ปิดซักฟอกม.152รอเวลา
นอกจากนี้ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152ว่า ยังมีอยู่ เรายังไม่ตัดโอกาสนั้นแต่ช่วงเวลาการอภิปรายเราไม่ได้จำกัดอยู่แค่สมัยประชุมนี้เรายังไม่ได้ปิดโอกาสนี้ คงต้องดูสถานการณ์ก่อนเราก็เข้าใจว่าหากมีเหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาก่อน เมื่อถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมค่อยเปิดอภิปรายก็ได้เราไม่ได้ล็อกเอาไว้ว่าภายในเมื่อไหร่ แต่ดูสถานการณ์และเวลาที่เหมาะสม
เมื่อถามว่าปัจจัยการยื่นอภิปรายจะคล้ายกับสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน หรือไม่ที่เป็นการอภิปรายแบบไม่ลงมตินายปกรณ์วุฒิกล่าวว่าจะอภิปรายแบบไม่ลงมติ หรือไม่ไว้วางใจ สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ข้อมูลว่าจะนำไปสู่การไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ เรายึดจากเนื้อหาสาระเป็นหลัก
ส่วนความคืบหน้าการเสนอชื่อผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ได้รับการประสานว่ามีการเสนอชื่อไปแล้ว คงใช้ระยะเวลาระดับหนึ่งเหมือนกัน
นายกฯเซ็นต์ตั้ง‘จิรายุ’ นั่งที่ปรึกษานายกฯ
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าในวันนี้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของรัฐบาล และอื่นๆ ตามที่นายกฯ มอบหมาย โดยให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีตามที่ได้รับการร้องขอ และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีซึ่งถือเป็นตัวเต็งที่มีชื่อถูกเสนอให้นั่งตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
มอบรองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบคำสั่งนายกฯเกี่ยวกับการมอบหมายและมอบอำนาจรองนายกฯและรมต.ประจำสำนักนายกฯ โดยมอบหมายให้รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯ ตามลำดับ ดังนี้ 1.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม 2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม 3.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย 4.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน 5.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง 6.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ ในระหว่างรักษาราชการแทนนายกฯ ผู้รักษาราชการแทนจะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกฯได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกฯก่อน ครม.ยังรับทราบคำสั่งนายกฯเรื่องมอบหมายและมอบอำนาจให้นายกฯและรมต.ประจำสำนักนายกฯปฏิบัติราชการแทนนายกฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี