ครม.ไฟเขียวจ่ายเงินสด 1 หมื่น
เริ่มแจก 25 ก.ย.
แบ่งโอน 4 วัน/กลุ่มเปราะบางเฮ!
ตั้งกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เดินหน้าเคาะเฟส 2 อีก 36 ล.คน
ครม.เห็นชอบแจกเงินสด 1 หมื่น ให้กลุ่มเปราะบางเฟสแรก 14.5 ล้านคนเริ่ม 25 กันยายนตามไทม์ไลน์ รมว.คลังมั่นใจกระตุ้นศก.โตเฉียด 3% ส่วนดิจิทัล วอลเล็ต เฟสสอง ลุยต่อแน่นอน โดยจะตั้งบอร์ดมาศึกษาอนุมัติให้อีก 36 ล้านคนที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯทางรัฐไว้แล้ว ส่วนรายละเอียดการโอนเงินนั้น เปิดให้เช็คสิทธิ์ 5 ช่องทาง เริ่ม 24 กันยายน –โอนครั้งแรกไม่ผ่าน โอนซ้ำให้อีก 3 ครั้ง
เมื่อวันที่ 17 กันยายน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติตามที่กระทรวงการคลังเสนอจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมาย 14.5 ล้านคน เป็นเงินสด 10,000 บาท จะเริ่มทยอยจ่ายเงินวันที่ 25 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานกฤษฎีกา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสภาพัฒน์ฯเห็นชอบในหลักการและเป็นไปตามกฏหมายทุกประการ ส่วนรายละเอียด เชิงลึก กระทรวงการคลังจะเป็นผู้แถลง ยืนยันว่า โครงการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการทำเฟสแรกก่อน ส่วนเฟสที่สองและต่อไป ขอให้กระทรวงการคลังให้รายละเอียด
ครม.ไฟเขียวแจก1หมื่น14.5ล.เริ่ม25กย.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยรัฐจะจ่ายเงินสด 10,000 บาทต่อคน ให้กลุ่มเป้าหมายรวมประมาณ 14.55 ล้านราย สามารถนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต โดยไม่จำกัดประเภทร้านค้า มั่นใจว่าสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบและกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศช่วงปลายปี 2567 ได้อย่างรวดเร็ว
มั่นใจกระตุ้นศก.โตเฉียด3%
“คาดว่าการมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจ 145,552.40 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 0.35% ต่อปี เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ เชื่อว่าโครงการนี้จะมีผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ให้ขยายตัวได้ อาจไม่ถึง 3% แต่ก็ใกล้เคียง” นายพิชัยระบุ และชี้แจงขั้นตอนดำเนินการว่า รัฐจะจ่ายเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการ ประมาณ 12.40 ล้านราย ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน หรือผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่แจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ ณ สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง เฉพาะกรณีผู้ป่วยติดเตียงและผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป
ส่วนกลุ่มคนพิการ ซึ่งเป็นผู้เปราะบางที่ขาดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ประมาณ 2.15 ล้านราย รัฐจะจ่ายเงินสด 10,000 บาทต่อคน ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1.ช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการที่ได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา 2.บัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของคนพิการ (กรณีไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการตามข้อ 1 ให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่ตอบโจทย์ความต้องการและความจำเป็นของคนพิการแต่ละประเภท
โอนครั้งแรกไม่ผ่านโอนซ้ำอีก3ครั้ง
นายพิชัยกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะเริ่มทยอยจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนเป็นต้นไป โดยพร้อมจ่ายเงินกลุ่มคนพิการและผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0 จะได้รับเงินวันที่ 25 กันยายน คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1-3 จะได้รับเงินวันที่ 26 กันยายน คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4-7 จะได้รับเงินวันที่ 27 กันยายน คนพิการ และผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8-9 จะได้รับเงินวันที่ 30 กันยายน
“ในกรณีที่จ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายไม่สำเร็จในครั้งแรก จะดำเนินการจ่ายเงินซ้ำ (Retry) ให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว 3 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ภายในวันที่ 22 ตุลาคม ครั้งที่ 2 ภายในวันที่ 22 พฤศจิกายน และครั้งที่ 3 ภายในวันที่ 22 ธันวาคม โดยเมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการ”นายพิชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม ขอให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการและคนพิการตามเป้าหมายของโครงการตรวจสอบบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนว่ายังใช้งานได้หรือไม่ หรือหากมีบัญชีธนาคารเดิมอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ขอให้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน และสำหรับคนพิการที่ไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการหรือบัตรประจำตัวคนพิการหมดอายุ ขอให้ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรให้เรียบร้อยภายในวันที่ 3 ธันวาคม เพื่อรับสิทธิตามโครงการดังกล่าว
แจง5ช่องทางเช็คสิทธิ์เฟสแรกเริ่ม24กย.
นายพิชัยยังชี้แจง ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิและผลได้รับเงินในโครงการว่า ตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน ผ่านเว็บไซต์ https://โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ2567.cgd.go.th เว็บไซต์ https://govwelfare.cgd.go.th เว็บไซต์ https://govwelfare.dep.go.th/check (เฉพาะคนพิการ) แอพพลิเคชั่น “รัฐจ่าย” (โดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง) ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติ โทร 0-2109-2345 กด 1 กด 5 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
ช่องทางติดต่อสอบถามเพิ่มเติม . คนพิการ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรศัพท์สายด่วน (Call Center) 1300 โทร 0-2354-3388 ต่อ 701-702 (หน่วยงานออกบัตรประจำตัวคนพิการ) ศูนย์บริการคนพิการจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานที่ตั้งและเบอร์โทรศัพท์ของศูนย์บริการคนพิการแต่ละแห่งได้ทางเว็บไซต์ www.dep.go.th/th/contact-us/dsc-contactcenter อปท. กทม. หรือเมืองพัทยา ที่คนพิการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร 0-2109-2345 ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-17.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ –และวันหยุดนักขัตฤกษ์ Call Center กรมบัญชีกลาง โทร 0-2270-6400 ตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
36ล.คนลุ้นตั้งบอร์ดเคาะเฟส2ยันลุยต่อ
นายพิชัยยังยืนยันว่า การดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 สำหรับกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นทางรัฐ ซึ่งมีประมาณ 36 ล้านคนนั้น คงต้องมี เพราะมีคนลงทะเบียนเข้ามาแล้ว ซึ่งในระยะถัดไปรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาหนึ่งชุด โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณที่มีอยู่ รวมทั้งรายละเอียดอื่นที่ต้องเดินหน้าต่อไปด้วย พร้อมยืนยันว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 2 จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะนอกจากเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันระยะยาว
ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยินดีที่ประชาชนในกลุ่มสวัสดิการให้ความตื่นตัวในกระบวนการผูกพร้อมเพย์ หากใครตกหล่นหรือบัญชีมีปัญหาโอนไม่สำเร็จครั้งแรก จะมีการโอนซ้ำ 3 ครั้ง (Retry) คือ วันที่ 22 ตุลาคม วันที่ 22 พฤศจิกายนและวันที่ 22 ธันวาคม ทั้งนี้ ประชาชนสามารถใช้บัญชีที่มีอยู่แล้วผูกบัญชีพร้อมเพย์ได้ สำหรับกลุ่มคนที่ได้รับสิทธิรอบนี้คือ กลุ่มเปราะบาง คนพิการ เป็นกลุ่มคนที่มีความจำเป็นในการใช้จ่ายสูง คาดว่าเม็ดเงินที่ลงไปจะเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็วและเป็นรูปธรรม จากการคำนวณคาดว่ามีผลต่อเศรษฐกิจ ร้อยละ 0.35 ต่อปี อีกทั้ง เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนกลุ่มนี้
นายจุลพันธ์กล่าวย้ำด้วยว่า ส่วนการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังเดินหน้าต่อไป โดยจะเป็นเฟสต่อไปที่ต้องพิจารณา ยังไม่ลงรายละเอียด แต่มีกรอบระยะเวลาแล้วว่าจะเสร็จเมื่อใด โดยจะตั้งคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อดูงบประมาณที่มีอยู่ และโครงการต่างๆ รวมถึงดิจิทัลวอลเล็ต
ก.ดิจิทัลฯยันดิจิทัลเฟส2ไม่ล้ม
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำแอพพลิเคชั่นซัพพอร์ตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ขอให้เป็นเรื่องของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร.หรือDigital Government Development Agency (DGA) เดิมทีตั้งใจให้แอพพลิเคชั่นทางรัฐ เป็นแอปฯที่รองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งหลังรัฐบาลแถลงนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงอยากให้รอดูการทำงานของคณะทำงานก่อนว่ามีนโยบายอย่างไรต่อ คิดว่าก่อนสิ้นปีงบประมาณน่าจะมีข่าวดีให้ประชาชน
นายประเสริฐยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟสสองไม่ล้ม แอพฯดำเนินการอยู่ การช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน มีความพร้อมอยู่แล้ว และเพิ่งตั้งรัฐบาล หลายอย่างต้องอาศัยการแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งวันนี้เรียบร้อยแล้ว การขับเคลื่อนเรื่องนี้คงไม่ช้าแล้ว
พม.ยันผู้พิการไม่ต้องผูกพร้อมเพย์ใหม่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแจกเงิน 10,000 ผ่านโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตในส่วนของผู้พิการ โดยยืนยันว่า ผู้พิการไม่ต้องไปลงทะเบียนหรือผูกพร้อมเพย์ใหม่ เพราะกระทรวง พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เรามีฐานข้อมูลของผู้พิการอยู่ในขณะนี้ ประมาณ 2,400,000 - 2,500,000 คนและคนพิการก็จะมีบัตรคนพิการที่ลงทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว แล้วก็มีบัญชีที่ผูกกับบัตรนี้อยู่แล้ว คิดว่าสามารถให้ข้อมูลกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลังหรือสำนักงบประมาณในการโอนเงินไป ส่วนที่จะไปลงทะเบียนอะไรเพิ่มหรือไม่นั้น ได้รับรายงานว่ามาว่าไม่จำเป็น เพราะเรามีฐานข้อมูลทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว ตรวจขั้นตอนการโอน เมื่อไหร่กลไกเป็นอย่างไร หน่วยงานที่เป็นเจ้าของเงินชี้แจงในรายละเอียดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี