นายกฯเซ็นตั้ง‘บอร์ดกระตุ้นศก.’
ดันแจกเงิน1หมื่น
นั่งหัวโต๊ะถกนัดแรกสัปดาห์หน้า
กลุ่มไร้สมาร์ทโฟนเตรียมตัว
คาดเปิดลงทะเบียนตุลาคมนี้
นายกฯลงนามตั้ง “บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ” ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เน้นแจกเงินสด 1 หมื่นให้กลุ่มเปราะบาง “ผู้ถือบัตรคนจน-คนพิการ” เฟสแรกด้าน “จุลพันธ์” แจงกลางสภาลงทะเบียนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนตุลาคมนี้ รับจัดซื้อจัดจ้างระบบจ่ายเงินวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลถูกยกเลิก เลื่อนประมูลออกไปเป็นหลังปีใหม่ แต่ยืนยันรบ.พัฒนาแอปฯทางรัฐต่อเนื่อง การันตีเงินหมื่นเฟส 2ไม่ล่มแน่ แจงเตรียมงบไว้แล้ว ถ้าระบบเสร็จจะแจกผ่านดิจิทัลกระตุ้นศก.
เมื่อวันที่ 19 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงนามในหนังสือแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถสร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก และผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และพัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐ ที่มุ่งการพัฒนานโยบายที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน พร้อมเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน และการประกอบอาชีพ คาดว่าจะประชุมนัดแรกสัปดาห์หน้า
นายกฯเซ็นตั้งบอร์ดกระตุ้นศก.
สำหรับคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีหน้าที่กำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์โครงการ แนวทางการดำเนินโครงการ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ และแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงกำกับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินโครงการในภาพรวมให้เป็นไปตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกำกับ ติดตาม ขับเคลื่อน และเร่งรัดส่วนราชการ ให้การดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจบรรลุผลสำเร็จตามที่ครม.เห็นชอบ
ทั้งนี้ คณะกรรมการประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ 1 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2 นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 3 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 4
คณะกรรมการ ประกอบด้วย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์, น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง, เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์, ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), ประธานสมาคมธนาคารไทย, ประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ, ปลัดกระทรวงการคลัง, ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และประธานกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เป็นต้น
ฝ่ายค้านจี้ถามความชัดเจนเฟส2
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินให้กลุ่มเปราะบาง ถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งนายพิชัยมอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ชี้แจงแทน
น.ส.ศิริกัญญาถามถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะแจกเงินสดให้กลุ่มเปราะบาง โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารระหว่างวันที่ 25-30 กันยายนว่า ขอความชัดเจนถึงสาเหตุทำไมต้องรีบจ่ายไม่เกินวันที่ 30 กันยายน เป็นเพราะติดปัญหาด้านข้อกฎหมายใช่หรือไม่ และขอความชัดเจนถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในส่วนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนว่าจะลงทะเบียนเมื่อใด อีกทั้ง ยังด้สอบถามถึงการจัดซื้อจัดจ้างระบบชำระเงิน ซึ่งรัฐบาลตั้งใจจะวางให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบดิจิทัล แต่ขณะนี้การจัดซื้อดังกล่าวได้ยกเลิกไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จึงอยากทราบกำหนดการที่บอกว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้จะเลื่อนหรือไม่
คาดไร้สมาร์ทโฟนลงทะเบียนต.ค.
ด้านนายจุลพันธ์ชี้แจงว่า การโอนเงินเข้าบัญชีกลุ่มเปราะบางไม่เกินวันที่ 30 กันยายน ไม่ใช่เพราะติดปัญหาด้านข้อกฎหมาย เพราะทั้งตนและน.ส.ศิริกัญญาก็รับฟังการชี้แจงของสำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 พร้อมกันว่า ผูกพันข้ามปีงบประมาณได้ แต่รัฐบาลไม่อยากให้เกิดการฟ้องร้องขึ้น รัฐบาลจึงต้องการจำกัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพราะนอกจากจะกระทบเสถียรภาพรัฐบาลแล้ว จะกระทบปากท้องประชาชนด้วย ฉะนั้น รัฐบาลจึงพยายามลดผลกระทบด้านนี้
ส่วนสาเหตุการเลื่อนลงทะเบียนของกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น นายจุลพันธ์ชี้แจงว่า ไม่ใช่เลื่อนเพราะปัญหาของระบบ ทุกอย่างพร้อมหมด แต่ที่เลื่อนเพราะเกรงจะเกิดความสับสน หลังจากนี้ไม่นานเกินรอ คิดว่าอยู่ภายในกรอบเดือนตุลาคมคงเริ่มดำเนินการต่อให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการจัดซื้อจัดจ้างให้ทำระบบการจ่ายเงินยกเลิกจริง เพราะมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เราจึงไม่มีสิทธิ์ไปพูดคุยกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่น และกำหนดการที่วางไว้เดิมว่าจะเสร็จช่วงปลายปีคงต้องเลื่อนไปหลังปีใหม่ รวมถึงยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ภาครัฐก็ยังพัฒนาระบบการจ่ายเงินตลอดเวลา
ลั่นเงินหมื่นเฟส2ไม่ล่ม-เตรียมงบแล้ว
ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ยังยืนยันว่า รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อเนื่องในเฟส 2 หลังมีกระแสข่าวความไม่แน่นอนของโครงการฯ เนื่องจากเลื่อนวันประกาศผลผู้ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการในกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟนจากวันที่ 22 กันยายนออกไปไม่มีกำหนด รวมทั้งเลื่อนการเปิดลงทะเบียนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนออกไปเช่นกัน ยืนยันว่ายังแจกตามแผน เพราะรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้ 1.8 แสนล้านบาท โดยจะเป็นการแจกในรูปดิจิทัลตามเป้าหมายเดิมที่รัฐบาลวางไว้ เพราะนอกจากความต้องการที่รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วยังต้องการวางรากฐานไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลด้วย
เลื่อนประกาศผล-ลงทะเบียนกันสับสน
ส่วนสาเหตุการเลื่อนวันลงทะเบียนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนออกไปจากวันที่ 16 กันยายน เพราะไม่ต้องการให้ตรงกับช่วงวันที่ต้องจ่ายเงินให้กลุ่มเปราะบาง ไม่ต้องการให้ประชาชนสับสน เหตุผลที่แท้จริงไม่มีอะไรซ้ำซ้อน ลองนึกดูว่า กลุ่มเปราะบางส่วนมากไม่มีมือถือ สิ่งที่จะเกิดคือ เงินที่เตรียมจะโอนให้อยู่แล้วในกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มสวัสดิการแห่งรัฐ แต่กลุ่มนี้ยังห่วงและมาลงทะเบียนที่ธนาคารในกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน จะซ้ำซ้อนกันไป สุดท้ายต้องโดนตัดออก เราห่วงกรณีนี้ สุดท้ายจึงตัดสินใจร่วมกันให้เลื่อนไปสักระยะไม่นาน เลื่อนเพื่อป้องกันความสับสน ไม่ต้องการให้ประชาชนแห่มาลงทะเบียนทั้งผู้ที่ไม่มีมือถือสมาร์ทโฟน และผู้ที่รับเงินสด เหตุผลเพียงเท่านี้ เช่นเดียวกับ การจะเลื่อนวันลงทะเบียนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนออกไปเป็นวันใด ต้องรอให้มีคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหม่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาเดินหน้าโครงการ คณะกรรมการชุดเดิมถือว่าสิ้นสภาพโดยปริยาย เพราะเป็นอำนาจแต่งตั้งสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน
พัฒนาระบบแอปฯทางรัฐไม่สะดุด
นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ขณะที่การจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ซึ่งต้องว่าจ้างบริษัทเข้ามาดำเนินการเรื่องระบบการชำระเงิน แต่ล่าสุดยกเลิกประมูลไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคม อาจทำให้ถูกว่ามองโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีปัญหา และไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริงนั้น ขอยืนยันว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะยังคงเดินหน้ากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอาจสะดุดบ้าง แต่กระบวนการพัฒนาระบบยังคงไม่หยุด อาจปรับรูปแบบไปบ้าง เป็นขั้นตอนในของหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งไม่ได้อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง แต่ยืนยันได้ว่าโครงการยังเดินหน้า และมีกำหนดวันเสร็จที่พอได้เห็นภาพ ถ้าระบบเสร็จทันและไม่ดีเลย์มากเกินไป เราจะแจกในรูปดิจิทัลวอลเล็ตแน่นอน เพราะเราไม่ได้ต้องการเพียงกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล เป้าหมายเรายังยืนยันเหมือนเดิมคือ ต้องเป็นโครงการในรูปแบบวอลเล็ตสำหรับกลุ่มประชาชนที่มีสมาร์ทโฟน และได้ลงทะเบียนขอรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ซึ่งปิดลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 15 กันยายนแล้ว พบว่ามีประมาณ 36.4 ล้านคน แต่ในจำนวนนี้มีบางส่วนที่ข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้องประมาณแสนคน และมีอีกประมาณ 2 ล้านคนที่ยังยืนยันตัวตน (KYC) ไม่สำเร็จ เรื่องนี้ฝากให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบในแอปทางรัฐ ซึ่งจะแจ้งไว้ว่าลงทะเบียนสมบูรณ์หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี