"ภูมิธรรม"เตรียมนัดพรรคร่วมหารือแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราสัปดาห์หน้า ก่อนเสนอสภา ยันไม่แก้เพื่อประโยชน์ตัวเอง แต่จะเป็นฉันทามติ เห็นปัญหาร่วมกัน ไม่หวั่นนิติสงครามจ้องเล่นงาน ชี้ยุคสมัยเปลี่ยน กฎหมายก็ต้องแก้ได้ ไม่หวั่นร่วงในชั้นทำประชาติผ่านเพราะปชช.ไม่อยากเห็นเครื่องประหารทางการเมือง
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 20 ก.ย. ที่ทำเนียบฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผย ถึงการหารือพรรคร่วมรัฐบาลกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ได้ให้เลขาประสานกับหัวหน้าพรรคเพื่อพูดคุยภายในสัปดาห์หน้า ก่อนวันศุกร์ (27 กันยายน) โดยจะเลือกวันที่ว่างพร้อมกัน ซึ่งจะเป็นการหารือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีฝ่ายค้าน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือปัญหาบางส่วนซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราจะเป็นทางออกที่ช่วยได้ โดยจะต้องหารือว่ามีประเด็นใดบ้าง ที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันก็จะเป็นฉันทามติ เพราะทุกฝ่ายต้องเห็นปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มพรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นตรงกันหมดหรือไม่ ในการแก้รัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
เมื่อถามย้ำว่า ทุกพรรคเห็นตรงกันในการแก้เรื่องมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกพรรคเห็นว่ามีหลายประเด็นที่จะต้องแก้ไข ประเด็นที่เห็นพ้องต้องกันทั้งหมดจะเป็นเรื่องง่ายที่สุด ส่วนประเด็นที่เห็นต่างก็ต้องคุยกันให้จบ
เมื่อถามว่า การแก้ไขอำนาจองค์กรอิสระที่จากเดิมมองว่ามีอำนาจล้นฟ้า พรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าต้องหารือกับทุกคน เพราะเราเป็นรัฐบาลพรรคร่วม ดังนั้นการที่จะจัดการกับหน่วยงาน หรือแก้ไขปัญหาอะไรก็ตาม ก็ควรจะเป็นการหารือกันทั้งหมด ขอเวลาคุยในสัปดาห์หน้าก็จะชัดเจน และจะสามารถประสานเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ทั้งนี้ต้องไปดูกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามว่าจะต้องคุยกับพรรคภูมิใจไทยเป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากการการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับสว. นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีอะไรพิเศษ คุยปกติ ถ้าเห็นว่าสิ่งใดเป็นปัญหาก็แก้ได้
เมื่อถามย้ำว่า ต้องคุยกับ สว. โดยตรงหรือไม่ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเพื่อทำให้ทุกอย่างดีขึ้นต้องมีความหวังและใช้ความพยายาม เราจะประสานกับวิปสว.ด้วยเพราะ สว.เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะแก้ไขปัญหา คิดว่าจะพยายามประสานทุกฝ่าย ซึ่งหากทุกคนเห็นพ้องต้องกันก็จะเป็นเรื่องดีที่สุด ถ้าไม่เห็นพ้องต้องกันก็ต้องดูที่เหตุผล และทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ว่าจะต้องใช้เสียงอะไร อย่างไร
เมื่อถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญในชั้นนักการเมืองจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ในชั้นทำประชามติจากประชาชนจะมั่นใจได้หรือไม่เพราะแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองฝ่ายเดียว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในทางปฏิบัติพิสูจน์ได้ชัดเจน ว่าเรื่องอะไรที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นปัญหา สิ่งสำคัญไม่ใช่แก้เพื่อตัวเอง แต่เป็นการแก้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการตรวจสอบ และการดำเนินการต่างๆให้ยุติธรรม ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมืองที่จะนำมาประหัดประหารกัน เป็นเรื่องที่เราพยายามจะทำให้ระบบการตรวจสอบทั้งหลายเกิดการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เห็นประเด็นปัญหาที่ชัดเจนมากขึ้นในการตัดสินปัญหาต่างๆ
เมื่อถามว่าจะเข้าทางนิติสงครามหรือไม่เพราะมองกันว่าเป็นเรื่องขัดกันแห่งผลประโยชน์ และส่อกระทำผิดกฎหมายเปิดช่องให้ยื่นตรวจสอบคนแก้รัฐธรรมนูญ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นนิติสงคราม เราเอาความตั้งใจ ปรารถนาดีเป็นที่ตั้ง ถ้าเราตั้งใจและปรารถนาดี และดูข้อกฎหมายครบถ้วน ทุกอย่างก็เดินหน้าได้ และปรับปรุงแก้ไขได้ สิ่งที่รัฐบาล หรือฝ่ายค้านสร้างไว้ไม่ว่าใครก็ตามต้องขึ้นอยู่กับความเป็นจริง อะไรที่แก้ไขแล้วเป็นสิ่งที่ดีขึ้นต้องแก้ไขได้ อะไรที่เหมาะสมกับยุคสมัยหนึ่ง แต่เมื่อเปลี่ยนยุคสมัยแล้วไม่สอดคล้องก็ต้องแก้ไข
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราจะทำควบคู่ไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่ขณะนี้กำลังรอการแก้ไข ร่างพ.ร.บ.ประชามติในที่ประชุมวุฒิสภาและรอให้มีผลบังคับใช้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘เพื่อไทย’ไม่แผ่ว!จ่อยื่นรื้อคุณสมบัติสมาชิก ยุบ-ครอบงำพรรค ริบอำนาจป.ป.ช. ปัดเอื้อ‘นายใหญ่’)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี