ถกค่าแรง 400 บ.ล่ม
ฝั่งลูกจ้าง-รบ.เบี้ยว
ประชุม 3 ฝ่ายสะดุด
นัดหารือใหม่ 24 ก.ย.
ประชุม “บอร์ดไตรภาคี” เรื่อง ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ล่มอีก! ฝั่งตัวแทน “ลูกจ้าง-รัฐบาล”ไม่ร่วมถก นัดประชุมใหม่ 24 ก.ย. หลังเลื่อนพิจารณาจากครั้งก่อน
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 เป็นประธานการประชุมบอร์ดค่าจ้าง ครั้งที่ 9/2567 ที่กระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ครั้งที่ 3 ในรอบปี 2567 ตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ในบางประเภทกิจการทั่วประเทศ ที่จะให้มีผลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
โดยการประชุมวันนี้ ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ หลังจากที่การประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา กรรมการฝ่ายนายจ้าง 5 คน ได้ลาประชุมจนที่ประชุมไม่สามารถลงมติปรับตัวเลขอัตราค่าจ้างรอบใหม่ได้
สำหรับวาระเร่งด่วนที่จะหารือครั้งนี้ คาดว่า ที่ประชุมจะมีการหารือประเด็นสำคัญที่ค้างมาจากการประชุมครั้งก่อนเกี่ยวกับการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรอบใหม่ โดยจะพิจารณาผลการกลั่นกรองข้อเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละจังหวัดรอบใหม่ รวมทั้งพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของสถานประกอบการขนาดใหญ่ที่มีลูกจ้าง 200 คนขึ้นไป ที่มีค่าจ้างเฉลี่ย 400 บาทต่อวัน ขณะเดียวกัน ยังคาดว่าบอร์ดไตรภาคี จะหารือเกี่ยวกับการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของสถานประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือกลุ่มเอสเอ็มอี ว่า จะเลื่อนเวลาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อไปหรือไม่ เช่น อาจไม่ปรับขึ้นค่าแรง 3 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ได้มีเวลาปรับตัวด้วย
จนกระทั่ง เมื่อถึงเวลานัดหมายเวลา 13.30 น. ปรากฏว่ากรรมการไตรภาคี รวม 15 คน ยังเข้าประชุมไม่ครบ มีคณะกรรมการเข้าร่วมประชุม เพียง 9 คน จากไตรภาคี (15 คน) ขาดไป 6 คน แต่รอบนี้ ปรากฏว่า ฝ่ายนายจ้าง มาครบทั้ง 5 คน ส่วนฝ่ายลูกจ้างมาเพียงแค่ 3 คน (ขาด 2 คนติดต่อไม่ได้) และฝ่ายรัฐบาล ไม่มาทั้ง 4 คน ซึ่งมาเพียงแค่ปลัดกระทรวงแรงงาน เพียงผู้เดียวที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม
จากนั้นเวลา 15.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการปิดการประชุมในวันนี้ และนัดประชุมครั้งต่อไปในช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายนนี้
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 มีดังนี้ 1. นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล (ไม่มา) 2. นางสาววรวรรณ พลิคามิน ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล (ไม่มา) 3.นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล (ไม่มา) 4. นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้แทนฝ่ายรัฐบาล (ไม่มา) 5. นางสาวศุภานัน ปลอดเหตุ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง 6. นายณัฏฐกิตติ์ เขตตระการ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง 7. นายอรรถยุทธ ลียะวณิช ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง 8. นายเนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง 9. นายชัยยันต์ เจริญโชคทวี ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง 10. นายกัมปนาท ศรีพนมวรรณ ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง 11. นายสมชาย มูฮัมหมัด ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง 12. นายอ่อนสี โมฆรัตน์ ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง (ไม่มา)
13. นายไพโรจน์ วิจิตร ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง (ไม่มา) 14. นายวีรสุข แก้วบุญปัน ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง
รายงานข่าวจากหอการค้าภาคใต้ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆได้มีการประชุมหอการค้าภาคใต้และมีมติคัดค้านการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ตามที่ รมว.แรงงานให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เนื่องจากมติของอนุกรรมการไตรภาคีแต่ละจังหวัด ที่ได้ข้อสรุปและนำเสนอไปยังส่วนกลาง คือให้มีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามบริบทของแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีค่าแรงขั้นต่ำแตกต่างกัน โดยไม่ได้วิ่งตามนโยบายฝ่ายการเมือง กลุ่มแรงงานที่ได้ประโยชน์โดยตรงคือแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยๆประมาณ 2-3 ล้านคน แล้วส่งเงินกลับประเทศ สินค้าขึ้นราคารับการปรับค่าแรงขั้นต่ำแล้ว คนที่เดือดร้อนอีกกลุ่มคือกลุ่มรากหญ้าที่ต้องบริโภคสินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้น
นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สมาชิกหอการค้า จ.สงขลาไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแบบพุ่งพรวดรวดเดียว 400 บาททั่วประเทศ เพราะผลประโยชน์ไม่ได้กับทุกฝ่าย แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือผู้ประกอบการขนาดเล็กส่วนใหญ่พึ่งพาเกษตร และเอสเอ็มอี ซึ่งใช้กำลังคนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์และมีทุนต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่จ้างแรงงานต่างด้าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี