‘รมช.เกษตรฯ’แจงวุฒิสภา เตรียม3มาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด สั่งทุกหน่วยงานช่วยเหลือเยียวยาประชาชนประสบอุทกภัย เผย‘นายกฯ’เรียกประชุมเงินเยียวยาช่วยเกษตรกร 24 ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้มีการพิจารณา กระทู้ถามของนายประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เรื่องมาตรการเยียวยา และช่วยเหลือเกษตรกรจากภัยพิบัติอุทกภัย และแนวทางยุทธศาสตร์บูรณาการจากกระทรวงต่างๆ ในการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต โดยถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ซึ่งมอบหมายให้นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ มาตอบแทน
นายอิทธิ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้บริหารจัดการมาตลอดโดยอ้างอิงว่า สถานการณ์ปัจจุบันสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมาจากภาวะ “โลกเครียด” ทำให้ไม่สามารถประมาณการน้ำฝนได้ชัดเจนเหมือนอดีต และพฤติกรรมฝนไม่เหมือนเก่า โดยเกษตรกรด้านพืชได้รับความเสียหาย 160,000 คนพื้นที่เสียหาย 1,000,000 ไร่ เช่น ข้าว พืชไร่ พืชผักไม้ผลไม้ยืนต้น ส่วนเกษตรกรด้านประมง เกษตรกรได้รับผลกระทบ 10,000 คน ผู้ประกอบการบ่อปลา บ่อกุ้ง กระชังต่างๆ ส่วนด้านปศุสัตว์ผู้ได้รับผลกระทบ 3,604,513 ตัว รวมโคกระบือ สุกร แพะ แกะ และสัตว์ปีก พื้นที่แปลงหญ้ากว่า 3,700 ไร่ โดยมีข้อสั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมเพื่อเตรียมพร้อมการเยียวยาให้กับเกษตรกร
รมช.เกษตรฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้สั่งให้กรมชลประทาน ใช้แผนที่น้ำระดับจังหวัดบริหารจัดการน้ำ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ระบายน้ำ พร้อมทั้งระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 2,000 เครื่อง ใช้ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงสั่งให้กรมการข้าว กรมส่งเสริมเกษตร กรมวิชาการจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าว พันธุ์ผักให้กับเกษตรกรปลูกหลังน้ำลด และเตรียมหัวเชื้อสำหรับฟื้นฟูพื้นที่ทางเกษตรหลังน้ำลด ในส่วนของกรมปศุสัตว์ ได้มีการอพยพสัตว์ต่างๆ ราว 600,000 ตัว และส่งหญ้าอาหารสัตว์ หญ้าพระราชทานให้ผู้เลี้ยงสัตว์ไปแล้ว 522,203 กิโลกรัม และตั้งสถานที่พักพิงสัตว์ชั่วคราว สัตว์หน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ไปยังที่ต่างๆในพื้นที่ได้รับผลกระทบ รักษาโรคสัตว์ที่มากับน้ำ
รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรมฝนหลวงการเกษตรได้ลงพื้นที่น้ำท่วม ช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของ ในพื้นที่ที่เข้าได้ยาก ส่วนกรมประมงจัดชุดเฉพาะกิจพร้อมเจ้าหน้าที่ส่งเสบียงอาหารน้ำดื่ม และอพยพประชาชนผู้ป่วยคนชราในพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ยังให้สำนักปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินและชะลอการชำระหนี้และลดดอกเบี้ยให้กับสมาชิกสหกรณ์
รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า หลังจากนี้ยังมีแผนงานฟื้นฟูเกษตรกรหลังจากน้ำลด 3 มาตรการ คือ 1. การฟื้นฟูอาชีพ เตรียมพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์น้ำให้เกษตรกรกลับมาทำอาชีพโดยไว 2.ฟื้นฟูพื้นที่ทางเกษตรให้กลับสู่ภาวะปกติ โดยกรมพัฒนาที่ดิน 3.ลดหนี้สินให้กับสมาชิกสถาบันการเกษตร และขยายเวลาชำระหนี้
รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลตระหนักถึงความเสียหายของอุทกภัย นายกรัฐมนตรีได้สั่งการทุกกระทรวงเร่งแก้ไขปัญหาและรับมือสถานการณ์น้ำในอนาคต สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เน้นให้หน่วยงานภายใต้การกำกับทำงานสอดคล้องกัน และทำแนวทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กับเกษตรกร ทั้งการวางแผนการจัดสระน้ำในฤดูฝน บริหารจัดการน้ำไปจนถึงฤดูแล้ง ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีมีดำริให้ปรับอัตราการเยียวยาให้กับเกษตรกรให้สอดคล้องกับต้นทุนความเสียหายที่เกิดขึ้น และตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยวาตภัยและดินโคนถล่ม
“ผมยืนยันได้ว่ามาตรการเยียวยา และยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรของรัฐบาลต้องการทำให้การเยียวยาถึงประชาชน และเกษตรกรอย่างรวดเร็วที่สุด เพราะว่านายกรัฐมนตรีทราบว่าความเดือดร้อนของประชาชนหากช่วยได้เร็วขึ้นซักช่วงเวลาหนึ่ง นี่คือนโยบาย” นายอิทธิ กล่าว
นายอิทธิ กล่าวทิ้งท้ายถึงเงินเยียวยาที่จะช่วยเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาลว่า ในวันที่ 24 ก.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีจะประชุมเร่งรัดมาตรการเยียวยาเพื่อให้ถึงมือประชาชนและเกษตรกรโดยเร็ว แต่ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอน ซึ่งรัฐบาลและวุฒิสภาต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันด้วยความเป็นห่วงเกษตรกร หวังให้เกษตรกรกลับมาใช้ชีวิตได้ ปกติโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี