"ชาญ"ช้ำ!! ศาลปค.ยกฟ้องปม อบจ.-ผู้ว่าฯปทุม สั่งชดใช้ค่าเสียหายจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพง ชี้ประมาทเลินเล่อร้ายแรง ลงนามโดยไม่ตรวจสอบราคาท้องตลาด ทำอบจ.เสียหายจริง จำนวนที่ให้ชดใช้กว่า 2 ล้านบาท เหมาะสมแล้ว
วันนี้ (25 ก.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ยื่นฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (ผู้ถูกฟ้องที่ 1) ที่ได้มีคำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่02390/2564 ลงวันที่ 8 ธ.ค.64 ให้นายชาญ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีจำนวน 2,330,394.89 บาทกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 -2556 ในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย และขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (ผู้ถูกฟ้องที่ 2)
โดยศาลปกครองกลาง เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติแล้วว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 -2556 นายชาญได้อนุมัติสั่งซื้อเครื่องออกกำลังกายตามรายงานขออนุมัติจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนจังหวัดปทุมธานี จำนวน 7 สัญญา โดยมิได้มีการสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำการสืบราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดจากเอกชนที่เป็นผู้ประกอบการหรือผู้มีอาชีพจำหน่ายเครื่องออกกำลังกายนั้นมาวิเคราะห์และกำหนดเป็นราคาอ้างอิง แล้วนำผลการสืบราคาดังกล่าวมาประกอบการพิจารณากำหนดประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นเหตุให้ประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการดังกล่าวสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด ซึ่งหากนายชาญ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีและเป็นผู้มีอำนาจสั่งซื้อตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด 2540ประกอบกับข้อ5 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น 2535 ซึ่งมีผลใช้บังคับอยู่ในขณะเกิดเหตุพิพาทได้ควบคุมตรวจสอบกระบวนการและขั้นตอนในการจัดซื้อ ตลอดจนพิจารณารายงานขออนุมัติจัดซื้อในแต่ละโครงการที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอมาด้วยความละเอียดรอบคอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบข้างต้นแล้ว นายชาญย่อมจะตรวจพบได้ว่า การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามรายงานขออนุมัติจัดซื้อตามโครงการดังกล่าวยังมิได้ทำการสืบราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด เนื่องจากในรายงานขออนุมัติจัดซื้อนั้น ระบุเพียงว่า เป็นครุภัณฑ์ที่ไม่มีกำหนดไว้ในบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ตั้งงบประมาณตามราคาท้องถิ่น โดยไม่ปรากฏรายละเอียดของการสืบราคาหรือที่มาของประมาณการราคาในรายงานขออนุมัติจัดซื้อหรือเอกสารหลักฐานประกอบรายงานขออนุมัติจัดซื้อ อันถือเป็นสาระสำคัญในการจัดซื้อพัสดุตามระเบียบดังกล่าวแต่อย่างใด
"การที่นายชาญลงนามอนุมัติในรายงานขออนุมัติจัดซื้อที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอมาโดยมิได้ทักท้วงใด ๆ เป็นเหตุให้ประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด การกระทำของนายชาญ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยปราศจากความรอบคอบ ระมัดระวัง ที่เบี่ยงเบนไปจากวิสัยของผู้มีอำนาจอนุญาตสั่งซื้ออย่างมาก และเป็นการไม่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของทางราชการตามตำแหน่งที่ตนดำรงอยู่ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามข้อ 20วรรคหนึ่ง (3) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น 2535 ซึ่งมีผลใช้บังคับอยู่ในขณะเกิดเหตุพิพาท พฤติการณ์ของนายชาญ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้รับความเสียหายที่ต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการดังกล่าวในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด อันเป็นการกระทำละเมิดต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตามมาตรา 420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นายชาญ จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตามมาตรา 10 วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา 8 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ 2539 และเมื่อรวมความเสียหายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้รับจากการประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนจังหวัดปทุมธานีในปีงบประมาณ พ.ศ.2555 -2556 คำนวณเฉพาะรายการเครื่องออกกำลังกาย จำนวน 8 อุปกรณ์ ในส่วนที่นายชาญเป็นผู้ลงนามอนุมัติจัดซื้อ จำนวน 7 สัญญาสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด คิดเป็นเงินจำนวน 33,657,049.92 บาท "
อย่างไรก็ตาม เมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้ใช้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายกรณีดังกล่าวจากนายชาญเป็นเงินจำนวน 31,071,932บาท ศาลจึงไม่อาจวินิจฉัยเกินกว่าความเสียหายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใช้สิทธิเรียกร้องได้ และเมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่านายชาญปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้รับความเสียหายที่ต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการข้างต้นในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด อันเป็นการกระทำละเมิดต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายชาญจึงต้องรับผิดในความเสียหายดังกล่าว
แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนจังหวัดปทุมธานีขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีนั้นเป็นโครงการที่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้เสนอต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและปรับปรุงคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ อันเป็นโครงการที่มาจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งในขณะที่มีการตรวจสอบสืบสวนกรณีดังกล่าวอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายก็ยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับระยะเวลานับตั้งแต่วันที่มีการติดตั้งเครื่องออกกำลังกายจนถึงวันที่มีการตรวจสอบ เมื่อพิจารณาถึงระดับความร้ายแรงแห่งการกระทำและความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวแล้วเห็นว่า การที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งให้นายชาญชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีในอัตราร้อยละ 50 ของความเสียหายในส่วนที่นายชาญ เป็นผู้ลงนามอนุมัติจัดซื้อ จำนวน 7 สัญญา คิดเป็นเงินจำนวน 15,535,966 บาท และให้นายชาญ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 15 ของความเสียหายดังกล่าว คิดเป็นเงินจำนวน 2,330,394.90บาท จึงเป็นการกำหนดความเสียหายและสัดส่วนความรับผิดที่เหมาะสมและเป็นคุณแก่นายชาญมากแล้ว ดังนั้น คำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ 02390/2564 ลงวันที่ 8ธ.ค.64 ที่ให้นายชาญ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นเงินจำนวน2,330,394.89บาท จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
และเมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่า คำสั่งของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ให้นายชาญชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีที่วินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ของนายชาญ โดยอาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกัน ซึ่งได้แจ้งให้นายชาญ ทราบตามหนังสือ ลับมาก ที่ ปท 51001/013ลงวันที่ 24ก.พ.65 จึงชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี