(ต่อจากอาทิตย์ที่แล้ว)

(4) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้หารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาหลายประการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบข้อหารือดังกล่าว ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ นร 0501/166 ลงวันที่ 23 มกราคม 2527 ดังนี้

(4.1) ปัญหาที่ 1 กรณีที่ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นสั่งลงโทษโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากการกระทำผิดวินัยนั้นเกิดก่อนวันที่ 6 เมษายน 2525 และได้สั่งลงโทษก่อนวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2526 ใช้บังคับผู้ถูกลงโทษจึงได้รับการล้างมลทินหรือไม่ หรือจะดำเนินการพิจารณาต่อไปหรือไม่

ตอบ ข้าราชการผู้ถูกลงโทษโดยคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายย่อมเป็น“ผู้ถูกลงโทษทางวินัย” ตามความหมายในบทนิยาม..ตามพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ นี้แล้ว จึงได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวหากต่อมาผู้บังคับบัญชาซึ่งมีตำแหน่งเหนือผู้สั่งลงโทษสั่งให้ดำเนินการใหม่และสั่งยกโทษ ข้าราชการผู้นั้น ก็มิใช่ผู้ถูกลงโทษทางวินัย จึงไม่มีโทษที่ต้องล้างมลทิน แต่ถ้าเห็นว่าข้าราชการผู้นั้นยังมีโทษอยู่ไม่ว่าโทษจะหนักขึ้นหรือเบาลงหรือเท่าเดิมก็ตาม ข้าราชการผู้นั้นย่อมเป็นผู้ถูกลงโทษทางวินัยจึงได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัตินี้

(4.2) ปัญหาที่ 2 กรณีที่ข้าราชการซึ่งถูกลงโทษทางวินัยและอยู่ในข่ายได้รับการล้างมลทินตามพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ ได้อุทธรณ์คำสั่งลงโทษก่อนหรือหลังวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับมีปัญหาว่า

(1) จะต้องพิจารณาอุทธรณ์ของผู้นี้ต่อไปหรือไม่ หากจะต้องพิจารณาเพิ่มโทษ ลดโทษ ยกโทษ หรือยกอุทธรณ์ได้หรือไม่ และผู้อุทธรณ์จะได้รับการล้างมลทินหรือไม่

ตอบ ผู้พิจารณาอุทธรณ์จะต้องพิจารณาอุทธรณ์นั้นต่อไปถ้าฟังว่าไม่ผิดและสั่งยกโทษ ผู้อุทธรณ์ย่อมมิใช่ผู้ถูกลงโทษทางวินัยจึงไม่มีโทษที่จะต้องล้างมลทิน แต่ถ้าพิจารณาได้ว่ายังมีโทษอยู่ไม่ว่าโทษจะหนักขึ้น เบาลงหรือเท่าเดิมก็ตามข้าราชากรผู้นั้นย่อมเป็นผู้ถูกลงโทษทางวินัยจึงได้รับการล้างมลทินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินฯ

(อ่านต่ออาทิตย์หน้า)