พรรคประชาชนร่วมวงสัมมนา“โอกาส ศักยภาพ การพัฒนาเศรษฐกิจ เมืองชายแดนจังหวัดสตูล"วิจารณ์เดือดนโยบายแจกเงิน 1 หมื่นไม่ยั่งยืน ชี้เหมือนให้ยาพาราคนเป็นมะเร็ง
28 ก.ย.2567 ที่ร้านเดอบัวคาเฟ่ ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย น.ส.ชุติมา คชพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ,นายศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์ โฆษกคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน , นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน,นายสมชาติ เตชถาวรเจริญ สส.เขต 1 ภูเก็ต และน.ส.ศนิวาร บัวบาน สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ร่วมสัมมนาในหัวข้อ “โอกาส ศักยภาพ การพัฒนาเศรษฐกิจ เมืองชายแดนจังหวัดสตูล” พร้อมเชิญภาคเอกชนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 14 หน่วยงานร่วมพูดคุย
น.ส.ชุติมา กล่าวว่า จังหวัดสตูลนับว่ามีศักยภาพมาก หลังจากได้เจอกับพี่น้องประชาชนภาคส่วนต่าง ๆ พบว่ายังสามารถที่ขยายเศรษฐกิจท้องถิ่นได้มากกว่านี้ พบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียสามารถที่จะเดินทางตรงมาถึงจังหวัดสตูลได้เลย แทนที่จะรอนักท่องเที่ยวจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถเดินทางตรงเข้ามาที่เกาะแล้วก็ตรงมาที่จังหวัดสตูลได้เลย นี่คือความโดดเด่นและความได้เปรียบ
และยังพบว่าท้องถิ่นเองมีวิสาหกิจชุมชนมีผลิตภัณฑ์ชุมชนมากมาย ที่มีศักยภาพ ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะถูกกดทับเอาไว้ ไม่ได้แสดงศักยภาพให้เฉิดฉายมากเต็มที่ ฉะนั้นวันนี้ได้นำหน่วยงาน 14 หน่วยงาน มาพูดคุยกัน รวมถึงพวกเราเองในฐานะ นักการเมือง จะนำเรื่องเหล่านี้ไปผลักดันต่อในสภาให้ และสิ่งที่ได้วันนี้เชื่อว่าภาคประชาชนจะเติบโตขึ้น ที่แน่ ๆ เลยก็คือประชาชนจะเห็นภาพมากขึ้น จะพบว่าจริง ๆ แล้วเขาสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ถ้าประชาชนสามารถเข้มแข็งกว่านี้ได้ ที่อยากช่วยให้สตูลเติบโตกว่านี้ได้ ในหน่วยงานราชการเอง
น.ส.ชุติมา กล่าวว่า วันนี้พบว่าเราเป็นคนกลาง ให้เกิดความใกล้ชิดกันมากขึ้น ภาคราชการและภาคประชาชน แล้วจากนี้การทำงานก็จะได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม และที่แน่ ๆ หลังจากที่ได้ข้อมูลไปในวันนี้ เรามองว่าเวลาเปิดปิดด่านชายแดน ที่จะต้องไปหารือกันต่อพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเยอะขึ้น แต่พบว่าเวลาปิดการแค่ 6 โมงเย็น อันนี้คือปัญหา ทำให้เกิดข้อจำกัดนักท่องเที่ยวจะคิดว่าจะทันไหมในการเดินทางไปกลับ ในขณะที่ฝั่งมาเลเซียปิด 20:00 น
"จะเห็นว่านี่คืออุปสรรคอันนึง ที่จะจูงใจนักท่องเที่ยวคงจะต้องไปคุยกันในประเด็นนี้ อีกเรื่องนึง นอกจากเรื่องด่านก็คือเรื่องของสถานที่ พบว่าด่านที่เคยมีอยู่ในตัวเมืองสตูล ไปตั้งอยู่ที่เกาะหลีเป๊ะ กลายเป็นว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียตรงไปที่เกาะ ไม่ได้เข้ามาในตัวเมืองสตูล เลยทำให้ตัวเมืองสตูลเงียบเหงา เมื่อเงียบแบบนี้ผู้ประกอบการในตัวเมืองก็จะเดือดร้อน เรื่องนี้คงต้องมานั่งทบทวนกัน ในประเด็นของสถานที่และเวลา เพื่อที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในตัวเมืองมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะไปปฏิบัติต่อในสภา"
น.ส.ชุติมา ยังกล่าวถึงประเด็นการแจกเงิน 10,000 บาทของรัฐบาล พบว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงชั่วคราว มันเหมือนคนป่วยเป็นมะเร็งแต่ให้กินยาพารา ยาพาราไม่ได้รักษาโรคร้ายได้อยู่แล้ว ก็จะได้ในช่วงนี้ ส่วนตัวคิดว่า เดือน 2 เดือนนี้หรืออาจจะไม่ถึงด้วยซ้ำ จะเห็นได้ว่าช่วงนี้ทุกคนจับจ่ายกันมากขึ้น ไม่กี่วันก็จะหมดไป ถ้าเป็นกราฟก็จะขึ้นดิ่งแล้วก็ลงทันที สิ่งที่เราต้องการจะเห็นก็คือความยั่งยืน ระยะยาว สิ่งที่พรรคประชาชนจะทำและมองว่า อยากจะเป็นเครื่องมือให้ประชาชนทำมาหากินได้ รู้วิธีจับปลาไม่ใช่เอาปลาไปเป็นตัวๆ ทำแกงส้มมื้อหนึ่งก็หมดแล้ว สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่คือเอาปลาเป็นตัวๆไปให้กิน กินหมดก็จบ หลังจากนี้ล่ะก็จะอดกันต่อหรอ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นแบบนี้ อยากให้มองระยะยาวมากกว่า
"สุดท้ายอยากจะบอกประชาชนว่าไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจท้องถิ่น หรือเศรษฐกิจมหภาคก็ตาม อยากให้ทุกคนเชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน ประชาชนสามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ ประชาชนมีศักยภาพ จังหวัดสตูลไปจังหวัดเล็กๆที่ทุกคนได้ลืมมาอย่างยาวนานมาก เราเองให้ความสำคัญกับจังหวัดสตูล เชื่อว่าเศรษฐกิจท้องถิ่นดีได้หากทุกคนเชื่อมั่น ภาคประชาชนต้องเข้มแข็ง ถ้าอุตสาหกรรมต้องเข้มแข็ง ด้านเศรษฐกิจท้องถิ่นดีชุมชนดีเศรษฐกิจภาพใหญ่มหัพภาค ก็จะดีตาม จะช่วยให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีได้"น.ส.ชุติมา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี