‘อนุทิน’เผยตั้งกรรมการสอบ‘ผู้ว่าฯเชียงราย’ทิ้งทวนก่อนเกษียณฯพรุ่งนี้ ปมไม่อยู่พื้นที่แก้น้ำท่วมซ้ำซาก จวกแรงอัปยศอดสู ขอโทษชาวเชียงราย รับปาก 1 ต.ค.เป็นต้นไป‘มหาดไทย’จะเป็นปึกแผ่น ทิศทางทำงานดีขึ้น
29 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียล ที่เกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก รวมถึงการเข้าช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนมูลนิธิ อาสาสมัคร ขณะเดียวกันในโลกโซเชียลได้มีการโจมตีการทำงานของนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่จะเกษียณอายุ 60 ปี ในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.67) ถูกตั้งข้อสังเกตว่าหายตัวจากพื้นที่ รอนับวันทำงานที่เหลือ ในขณะที่ชาวเชียงราย ต้องระทมทุกข์จากอุทกภัยครั้งนี้ อย่างแสนสาหัส
ในขณะที่โลกโซเชียลมีการพูดถึงนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ในพื้นที่ ลงพื้นที่ คอยประสานงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ภาครัฐ ทหาร ภาคเอกชน ตลอดจน อาสาสมัครกู้ภัย เพื่อช่วยเหลือชาวเชียงใหม่ แบบถึงลูกถึงคน ทำให้เกิดการเปรียบเทียบการทำงานของผู้ว่าฯ 2 จังหวัด ที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวท่ามกลางปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้
ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีที่ขณะนี้สังคมออนไลน์ รุมถล่มการทำงานของผู้ว่าฯเชียงราย ว่า ในการลงพื้นที่ จ.เชียงราย ของนายกรัฐมนตรีและ ครม.ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯเชียงราย ก็มาอยู่ต้อนรับเพียงครู่เดียว เพื่อรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายกฯ ก็มาถามตนว่า ผู้ว่าฯเชียงราย กลับไป กทม. แล้วได้มาขออนุญาตหรือไม่ ซึ่งตนได้กราบขอโทษนายกฯทันที ซึ่งผู้ว่าฯเชียงรายก็ไม่ได้มาบอก หรือมาขออนุญาตอะไรเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ตรงนี้เป็นปัญหาเดิมๆ พฤติกรรมเดิมๆที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่จะต้องออกนอกพื้นที่ เพราะตอนนี้ชาวเชียงรายเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ทั้งน้ำท่วม ดินถล่ม ถือว่าสาหัสมากๆ เท่ากับผู้ว่าฯเชียงราย ทิ้งงานแล้วให้นายกรัฐมนตรีมาทำแทนใช่หรือไม่ และถ้าหากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไม่เข้ามาช่วยในพื้นที่ ก็จะไม่สามารถจัดการปัญหาแบบเร่งด่วน ได้เลย
“การจะมาอ้างว่าจะเกษียณอายุราชการคงไม่ได้ เพราะคนมหาดไทยลมหายใจคือประชาชน และตรงนี้เป็นปัญหาเดิมๆ พฤติกรรมเดิมๆ ผมจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ถึงความจำเป็นเร่งด่วน เพราะถือเป็นพฤติกรรมซ้ำซาก ที่ไม่ปฏิบัติงาน ในฐานะเป็นผู้บัญชาการในพื้นที่โดยตรง และทั้งๆที่นายกรัฐมนตรี ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย จึงถือเป็นการกระทำที่อัปยศอดสูของกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่จะต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนอย่างสุดความสามารถ” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิจารณ์ เวลารัฐมนตรีลงพื้นที่ต้องมีข้าราชการมารอต้อนรับ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตนอยากบอกว่า เวลานายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีลงมา ให้ความช่วยเหลือ เร่งด่วน ผู้ว่าฯ ควรจะต้องมา เพราะเป็นการมาทำงานร่วมกัน กรณี จ.เชียงราย มีเพียงรองผู้ว่าฯ 4 คน ปรากฏว่ามาเพียงคนเดียว คือ นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าฯเชียงราย ส่วนรองผู้ว่าฯ อีก 1 คน ก็จะเกษียณอายุราชการ ขณะที่รองผู้ว่าฯ อีก 2 คน ไปรายงานตัวเรียน หลักสูตร วปอ. ซึ่งมันไม่ใช่เวลาที่จะไปด้วยซ้ำ ประชาชนเดือดร้อนขนาดนี้แล้วนายกรัฐมนตรี ก็ลงมา มันไม่ใช่เวลา แม้จะต้องสละสิทธิ์ เรียน วปอ. ก็ต้องสละสิทธิ์ ด้วยซ้ำไป ในขณะที่ ตัวผู้ว่าฯ เชียงราย มาร่วมพิธีเกษียณในกทม.แล้วปล่อยให้ ประชาชนอยู่กันด้วยความยากลำบาก ทิ้งให้นายกฯอยู่ในพื้นที่ ถือว่าไม่ถูกต้อง
“ผมขอฝากสื่อมวลชนมากราบขอโทษพี่น้องชาวเชียงราย ขอให้มั่นใจว่าตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป การทำงานในกระทรวงมหาดไทย จะเป็นไปในทิศทางที่เป็นปึกแผ่น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผมได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ให้คำนึงถึงเรื่องภัยจากน้ำท่วม เป็นเรื่องสำคัญสูงสุด” นายอนุทิน กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี