ผบ.ทร.เตรียมขึงแผนเรือดำน้ำ-ซื้ออาวุธ คุย"ภูมิธรรม"พร้อมแจงสภา ยังไม่ฝันไกลซื้อเรือดำน้ำเยอรมัน ขอก้าวทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ยันคิดบวกคำวิจารณ์นักเรียนนอก พร้อมรับฟัง-ทำงานเต็มที่
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์หลังพิธีรับ-ส่งหน้าที่ ว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตนเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องดูแลกองทัพเรือ เป็นภาระที่หนักอึ้งเมื่อมีคำสั่งให้ทำหน้าที่ ตนก็ต้องพร้อมทำหน้าที่
เมื่อถามว่า พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม บอกให้ผู้บัญชาการทหารเรือทำหน้าที่ให้เต็มที่ เพื่อลบคำสบประมาท พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของทุกคนไม่ว่าตนหรือใครที่ขึ้นมาตำแหน่งนี้ ก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่มีใครสามารถย่อหย่อนได้เลย เพราะความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญของชาติ ส่วนหลักคิดที่ทำให้ตนเดินหน้าต่อไปได้นั้นก็คือการคิดบวก ไม่เอาเรื่องเนกกาทีฟมาใส่ใจ รับฟังทุกเรื่องและหาข้อมูลมาวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ ซึ่งก็เชื่อว่าทุกคนมีหลักคิดเดียวกัน
สำหรับแนวทางผลักดันโครงการจัดหาเรือดำน้ำนั้น ผบ.ทร.ระบุว่า ในช่วงเช้าได้หารือกับ พล.ร.อ.อะดุง ในเบื้องต้น แต่คงจะให้คณะกรรมการบริหารโครงการเรือดำน้ำมา ชี้แจงในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในภาพรวมได้เสนอไปที่กระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม ได้ขอเวลาศึกษา ตนก็จะขอท่านเข้าไปชี้แจง ว่าประเด็นที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง และท่านรัฐมนตรีหนักใจเรื่องอะไรก็จะเข้าไปชี้แจงทั้งหมด ซึ่งเรือดำน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่แล้ว เพราะเป็นกำลังรบที่สำคัญที่เราวางแผนไว้ ทั้งหมดอยู่ในแผนพัฒนากำลังรบของกองทัพเรือ
พล.ร.อ.จิรพล ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการไปชี้แจงในคณะกรรมาธิการฯ สภา ซึ่งมีฝ่ายค้านอยู่ด้วยว่า เป็นหน้าที่ของเราที่เราต้องเข้าไปชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจถึงความสำคัญของความมั่นคงทางทะเล โดยกองทัพเรือดูแลอยู่สภาพแวดล้อมด้านนี้ ณ ปัจจุบัน ไม่ได้แค่ในประเทศเราอย่างเดียว แต่สองขั้วอำนาจใหญ่ก็กระทบกันแรง แต่ไทยเป็นประเทศไม่ใหญ่นัก ก็จะถูกแรงกระแทกตรงนี้เข้าไปด้วย ซึ่งเราก็จะบอกรัฐบาลว่าจะเตรียมพร้อมได้อย่างไร ถ้ารัฐบาลเข้าใจโครงการก็จะเดินหน้าต่อ
สำหรับโครงการจัดหาเรือฟริเกต ในงบประมาณประจำปี 2569 นั้น ผบ.ทร.กล่าวว่า กองทัพมีแผนพัฒนากำลังรบอยู่แล้ว ทั้งเรืออากาศยาน เรือดำน้ำ รถรบ ยานเกราะ ปืนใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะถูกนำไปเรียน รมว.กลาโหม ให้ท่านเห็นความสำคัญของเรา และถึงเวลาที่จะขึงแผนร่วมกัน ถ้าท่านเห็นชอบด้วยก็เดินหน้า ส่วนแนวทางในการชี้แจงให้กับหลายฝ่ายทั้งรัฐบาล กรรมาธิการงบฯ นั้น ก็คงเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกันว่ากองทัพมีหน้าที่สนับสนุนความมั่นคงให้กับประเทศ และรัฐบาล
"ถ้ารัฐบาลบอกว่าเอาไว้ก่อนความสามารถของเราก็จะถดถอยลง ถ้ารัฐบาลยอมรับได้ รวมถึงฝ่ายค้านยอมรับได้ กองทัพเรือก็ไม่สามารถไปดึงดันอะไร ทุกคนต้องยอมรับร่วมกันว่าถ้าเราไม่มีสิ่งนี้จะทำอะไรไม่ได้บ้างเท่านั้นเอง"
เมื่อถามว่า ในฐานะที่จบจากโรงเรียนนายเรือเยอรมัน และจบหลักสูตรดำน้ำ จะแก้ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ และอนาคตจะซื้อเรือดำน้ำเยอรมัน หรือไม่ พ.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ต้องค่อยๆ ก้าวเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ โดยดูว่าท่านรัฐมนตรีสงสัยเรื่องอะไรก่อน ตนก็จะเข้าไปชี้แจง ซึ่งเรือดำน้ำ เป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงการสร้างความกลมเกลียวและสามัคคีในกองทัพเรือในช่วงหนึ่งปีต่อจากนี้ ผบ.ทร.กล่าวว่า กองทัพเรือมีกำลังพลหลากหลายเหล่า เราก็พยามกลมกลืน ประสานการทำงานร่วมกันทุกคน และทุกคนรู้หน้าที่ได้อย่างชัดเจน ก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไร ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี และตนยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น และต้องนำข้อมูลหลักการวิเคราะห์เพื่อหาทางออกของมันเท่านั้นเอง ความเห็นแตกต่างไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ทุกประเทศต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งนั้น ในสภาก็ยังวิพากษ์วิจารณ์กัน ถามต่อว่า มีการมองว่าเป็นนักเรียนนอกจะเป็นปัญหาในการทำงานหรือไม่ พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ก็อย่าไปคิดมากในเรื่องนี้ ถามต่อว่า อยากให้ทุกคนจบประเด็นนี้ใช่หรือไม่ พล.ร.จิรพล ย้ำว่า ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี